เทคโนเวิลด์

‘สเปนเซอร์’ หุ่นยนต์นำทางในสนามบิน

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอเรโบรของสวีเดน ได้พัฒนา สเปนเซอร์ หุ่นยนต์นำทางในสนามบิน ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่สามารถพูดตอบโต้ภาษาอังกฤษได้ มีหน้าจอเพื่อบอกข้อมูลรายละเอียดอยู่ตรงกลางลำตัว และมีหน้าที่บอกตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ ในสนามบิน รวมทั้งสามารถแนะนำให้ผู้โดยสารไปถึงที่หมายได้อย่างถูกต้อง ด้าน อาคิม ลิเลียนทาล หัวหน้านักวิจัย เปิดเผยว่า ยังมีอุปสรรคสำหรับการทำงานของสเปนเซอร์ เนื่องจากภายในสนามบินมีสิ่งกีดขวางที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาทิ กระเป๋า รถเข็น ยากต่อระบบนำทาง ทั้งนี้ สเปนเซอร์เริ่มทดสอบใช้งานจริงที่ท่าอากาศยานนานาชาติสคิโพล กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นที่แรก เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา

วิจัยชี้สารในผักต้านมะเร็ง

นักวิจัยจากศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเทกซัส เอ แอนด์ เอ็ม สหรัฐ เปิดเผยว่า สารซัลโฟราเฟน ซึ่งเป็นสารสกัดที่พบได้ในหน่ออ่อนของบร็อกโคลี่ รวมไปถึงผักตระกูลกะหล่ำ อย่างกะหล่ำดาว กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี และผักเคล ซึ่งจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับผักคะน้า จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพยารักษาโรคมะเร็งได้ โดยเมื่อนำชิ้นเนื้อลำไส้ใหญ่จากอาสาสมัครอายุ 50 ปีขึ้นไป พบว่า อาสาสมัคร 28 รายที่ทานผักตระกูลกะหล่ำเป็นประจำ จะได้รับสารซัลโฟราเฟนที่สามารถสร้างยีนต้านมะเร็ง ซึ่งช่วยในการยับยั้งการลุกลามของเซลล์มะเร็ง โดยสารดังกล่าวจะทำการกำจัดเซลล์มะเร็งในร่างกายอย่างน้อย 24 ชั่วโมง หลังจากได้รับสาร ทั้งนี้ การวิจัยดังกล่าวยังช่วยสร้างแนวทางพัฒนายารักษาโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี

ดาวอังคารจะมีวงแหวนอีก 20-40 ล้านปี

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย คาดการณ์ว่า ในอีก 20-40 ล้านปีให้หลังนี้ ดาวอังคารจะมีวงแหวนเช่นเดียวกับดาวเสาร์ ดาวพฤหัสบดี ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ซึ่งเป็นผลจาก โฟบอส ดวงจันทร์ของดาวอังคารมีวงโคจรไม่เสถียร เคลื่อนที่ช้าลง และค่อยๆ เข้าใกล้ดาวอังคารมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จะไม่หล่นลงสู่พื้นผิว ทั้งนี้ โฟบอสจะถูกฉีกออกเป็นส่วนๆ จากแรงไทดัล ซึ่งเป็นแรงดึงดูดที่ทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลงบนโลก โดยจะทำให้โฟบอสแตกตัวกลายเป็นฝุ่นละอองโคจรรอบดาวอังคาร และกลายเป็นวงแหวนในที่สุด ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดว่าวงแหวนดังกล่าวจะอยู่ได้ระหว่าง 1-100 ล้านปี นอกจากนี้กรณีของโฟบอสนั้นไม่ใช่ครั้งแรกในระบบสุริยะที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ วงแหวนของดาวเคราะห์ยักษ์ดวงอื่นก็มีต้นกำเนิดแบบนี้เช่นกัน

พัฒนาเทคโนโลยีคืนชีพมนุษย์

ฮูไม ธุรกิจสตาร์ทอัพจากออสเตรเลีย เปิดเผยว่า บริษัทจะทำการพัฒนาเทคโนโลยีในการช่วยชีวิตมนุษย์ โดยเปลี่ยนถ่ายจิตสำนึกของมนุษย์ที่เสียชีวิตไปแล้ว ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยกระบวนการเริ่มต้นจะนำสมองของมนุษย์ไปแช่แข็งทันทีหลังจากเสียชีวิต และนำเอาปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงนาโนเทคโนโลยีมาใช้ในการเก็บข้อมูล อาทิ ลักษณะการสื่อสาร อุปนิสัย และการเคลื่อนไหวทางร่างกาย แล้วนำข้อมูลมาแปลงเป็นรหัส เพื่อใช้ปลูกถ่ายไปยังเซลล์สมองและร่างกายเทียมที่เตรียมไว้ต่อไป ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นเพียงแผนงานเท่านั้น อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าจะสามารถพัฒนาร่างเทียมมนุษย์ให้แล้วเสร็จภายใน 30 ปีข้างหน้า