คสช.ขาลง เคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ระส่ำหนักทั้ง “เสถียรภาพ” และ “ความเชื่อมั่น” ของ คสช. ที่เวลานี้ต้องเผชิญกับแรงเสียดทานนานับประการที่พร้อมใจกันประดังเข้ามา
โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
ระส่ำหนักทั้ง “เสถียรภาพ” และ “ความเชื่อมั่น” ของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เวลานี้ต้องเผชิญกับแรงเสียดทานนานับประการที่พร้อมใจกันประดังเข้ามา
ลำพังปัญหาเดิมยังแก้ไม่ตก โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่แม้จะจัดยาไปหลายขนาน เปลี่ยนหมอแบบยกทีม แต่อาการยังมีแต่ทรงๆ ถึงจะไม่ได้แย่ลง แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น
แถมอาการแทรกซ้อนที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่นอกเหนือการควบคุม แต่ส่งผลเสียหายซ้ำเติมสถานการณ์รุนแรง กระทบให้ทุกอย่างที่พยายามทำมาต้องเสียหายไปด้วย
ล่าสุด องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration : FAA) ได้ “ประกาศลดอันดับไทยให้อยู่ใน Category 2” เนื่องจากไม่สามารถแก้ไข 36 ข้อบกพร่องได้ครบตามกำหนดตามมาตรฐานของ ICAO (International Civil Aviation Organization)ได้
ตอกย้ำปัญหาในอดีตที่กระทบทั้งภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวเป็นลูกโซ่ แต่ยังโชคดีที่ไทยยังสอบผ่านเกณฑ์ขององค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (EASA) ไม่มีสายการบินไหนของไทยถูกพิจารณาประกาศห้ามสายการบินของไทยไม่ให้ทำการบินไปยุโรป
ทั้งหลายเหล่านี้ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งตีปี๊บผลงานที่สู้อุตส่าห์ทำมาตลอดปีกว่า ในช่วงนี้ผ่านการแถลงผลงานในช่วงคริสต์มาส เพื่อหยิบยกงานในแต่ละด้านที่ทำไว้ แต่ไม่มีใครรับรู้หรือสนใจ ออกมาให้สังคมได้เห็นว่า รัฐบาล คสช.ตั้งใจทำงานไม่ใช่แค่นับถอยหลังรอวันเลือกตั้งเท่านั้น
แต่ปัญหายังไม่จบเท่านั้น เพราะท่าทีและลีลาการบริหารงานสไตล์บิ๊กทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บางครั้งก็นำไปสู่ความเข้าใจผิดทั้งไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ซึ่งมีแต่จะฉุดรั้งความน่าเชื่อถือ
ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดเรื่อง “ซิงเกิ้ลเกตเวย์” ที่เคยจุดประเด็นออกมาเพื่อแก้ปัญหาเว็บหมิ่น เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาล่อแหลม ซึ่งกวาดล้างไม่จบไม่สิ้น
ทว่า ประเด็นนี้กลับกลายเป็นการปลุกกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง ถึงขั้นนับรวมตัวนักท่องเน็ตแสดงพลังไปถล่มตามเว็บไซต์เป้าหมาย เพื่อแสดงถึงพิษภัยหากคิดจะจำกัดประตูเข้าสู่อินเทอร์เน็ต จนทำให้ทีมงานต้องกลับลำว่าเป็นเพียงแค่แนวคิดที่ยังต้องศึกษาข้อดีข้อเสียต่อไป
ซ้ำเติมด้วยความคิดเรื่อง “ปิดประเทศ” เมื่อจู่ๆ พล.อ.ประยุทธ์ ก็โพล่งออกมาว่าหากบ้านเมืองยังไม่สงบ ก็ต้องอยู่ต่อ แม้จะต้องปิดประเทศก็ตาม กลางที่ประชุมแม่น้ำ 5 สายที่รัฐสภา ทำเอาแตกตื่นไปทั้งในและนอกประเทศ
ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปาย พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกมาเคลียร์ปมร้อนนี้ด้วยตัวเองว่า “ผมอยากจะเป็นอย่างนั้นหรือ ไม่มีใครอยากทำหรอก พูดแต่เพียงว่าถ้ามันเป็นอย่างนั้นจะต้องไปถึงขั้นนั้นก็ตามใจ ไม่ใช่ผมจะไปปิด จะปิดทำไมเล่า”
ความวัวยังไม่ทันหายเงื่อนงำในโครงการอุทยานราชภักดิ์ก็เป็นชนวนร้อนที่กัดกร่อนความเชื่อมั่นต่อทั้ง กองทัพ และ คสช. อย่างรุนแรง แม้ผลสอบชุดแรกที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ตั้ง จะออกมายืนยันความบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่อาจทำให้สังคมหายความเคลือบแคลงได้ เพราะแม้แต่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ยังส่งสัญญาณว่ามีความไม่โปร่งใส
ระหว่างที่รอผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการชุดใหม่ของกระทรวงกลาโหม ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ที่จะออกมาในช่วงปลายปีนี้ คสช.คงต้องเผชิญกับแรงเสียดทานอีกหลายยกจากหลายฝ่ายที่จ้องจะถล่มในความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้น
ยิ่งกว่านั้นปมอุทยานราชภักดิ์กำลังบานปลายกลายเป็นประเด็นใหม่ เมื่อ คสช.งัด “ไม้แข็ง” เอาผิดกับบรรดาคนกดไลค์ กดแชร์ ผู้ที่โพสต์ภาพผังทุจริตโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จ
พร้อมคุมตัว ธเนตร อนันตวงษ์ และฐนกร ศิริไพบูลย์ ในความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 116 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
เหตุการณ์นี้สร้างแรงกระเพื่อมหนักขึ้นกว่าเมื่อครั้งสกัดแกนนำแดงและกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ไม่ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบอุทยานฯ สอดรับกับที่ สุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิ มนุษยชน ฮิวแมน ไรต์ส วอตช์ ประจำประเทศไทย มองว่า “เป็นการสร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวให้กับคนไทย”
ปิดท้ายด้วยปมร้อนกับแนวคิดเรื่องบรรจุข้อมูลอาชีพ เงินเดือน ลงบัตรประชาชน ที่ถูกถล่มยับว่าเป็นการแบ่งแยกชนชั้นและละเมิดสิทธิมนุษยชน ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องรีบออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้แสดงอยู่บนบัตร แต่บรรจุอยู่ในบัตรสมาร์ทการ์ดเพื่อประโยชน์ให้ประชาชนเข้าถึงบริการของรัฐ
แน่นอนว่าคำชี้แจงตอนนี้ก็ไม่อาจลบล้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะคำอธิบายที่ยังไม่ชัดเจนเรื่องสิทธิส่วนบุคคลที่เคยถกเถียงกันมานานก่อนหน้านี้
ทั้งหมดนี้มีแต่จะกัดกร่อนความเชื่อมั่นและยิ่งทำให้เส้นทางของ คสช.นับจากนี้เต็มไปด้วยแรงเสียดทานที่เพิ่มขึ้นเรื่่อยๆ