ล้วงตับ

06 มีนาคม 2559

ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ในระยะนี้ ไม่มีเรื่องไหนฮือฮาหลากอารมณ์เท่า “เฟซ ออฟ ของสุรชัย สมบัติเจริญ บาย ดร.เซปิง” อีกแล้ว

ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ในระยะนี้ ไม่มีเรื่องไหนฮือฮาหลากอารมณ์เท่า “เฟซ ออฟ ของสุรชัย สมบัติเจริญ บาย ดร.เซปิง” อีกแล้ว

ไม่เพียงแต่วิธีการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าให้ดูหนุ่มขึ้น ด้วยวิธีการปรับเปลี่ยนความหย่อนยานของกล้ามเนื้อและผิวหนังบริเวณใบหน้าทั้งหมด วิธีการผ่าตัดจะทำหลายขั้นตอน ตั้งแต่ดึงคิ้วขึ้น ทำตาบน ตาล่าง ยกหางคิ้ว หางตา ซึ่งจะช่วยให้ตาโตสดใสขึ้น รูปหน้าดูมีชีวิตชีวา ไม่แก่ ไม่โทรม แก้ร่องหว่างคิ้วแบบถาวร โดยการผ่าตัดพังผืดและกล้ามเนื้อหว่างคิ้ว ใช้กล้องเอ็นโดสโคปดึงเส้นหน้าผาก ดึงแก้ม ดึงคาง ดึงคอ เรียกว่า ดูดไขมันใต้คาง และดึงเย็บกล้ามเนื้อ ด้วยเทคนิค SMAS คือ เย็บกล้ามเนื้อถึง 3 ชั้น ตั้งแต่ชั้นผิวหนังไขมันพังผืด ไปจนถึงกล้ามเนื้อชั้นในสุด เพื่อสตาฟฟ์ความหนุ่มแลกกับค่าใช้จ่าย 7 หลัก จากการโมดิฟายใบหน้าจนดูหนุ่มสร้างความฮือฮาในสังคม

เรื่องราวความขัดแย้งในธุรกิจความงามก็มันพะยะค่ะ เนื่องด้วยผู้ฟ้องร้องจนทำให้ เฟซ ออฟ ดังกระฉ่อนไปทั้งบาง คือ นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ผู้ซึ่งรู้จักมักคุ้นกันอย่างดีกับ ดร.เซปิง ถึงขนาดประกาศตนว่า เป็นครูของ ดร.เซปิง ไชยศาส์น ในเรื่องการทำศัลยกรรม และเคยทำธุรกิจร่วมกันกับ ดร.เซปิง เรียกว่าเป็นคนใกล้ชิดกันมาก่อน

แต่ปัจจุบันได้ฟ้องร้อง ดร.เซปิง จากการใช้ชื่อโฆษณาหมอชลธิศ ในโซเชียลมีเดีย-เฟซบุ๊ก ทำให้ลูกค้าเข้าใจว่า มาทำศัลยกรรมกับหมอชลธิศ แต่พอลูกค้าสนใจจนตัดสินใจมาทำหน้า กลับพาไปทำอีกที่หนึ่ง โดยที่หมอชลธิศไม่ทราบเรื่อง จึงต้องฟ้องร้องคดี จนสะท้านสะเทือนไปถึงครอบครัวของ ประจวบ ไชยสาส์น

อีกที่หนึ่ง ที่หมอชลธิศพูดนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล ที่เปิดตัวไปเมื่อวันเสาร์ที่ 3 พ.ย. 2555 บริหารงานโดย นพ.กมล พันธ์ศรีทุม ศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและยอมรับของแพทย์และคนไข้ทั่วโลก หมอกมลนั้นจบแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วุฒิบัตรศัลกรรมทั่วไป จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วุฒิบัตรศัลยกรรมตกแต่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล ย่านทาวน์อินทาวน์ กลายเป็นศูนย์กลางการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง และจากหญิงเป็นชายให้คนไข้มากว่า 5,000 เคส ผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งอื่นๆ มากกว่า 2 หมื่นเคส ว่ากันว่าในระยะ 5 ปี หมอกมลทำเงินเป็นกอบเป็นกำ

ในธุรกิจความสวยงามแห่งเรือนร่างนั้น ต้องบอกว่า ไม่เฉพาะโรงพยาบาลยันฮีเท่านั้นที่ขึ้นชื่อ แต่เจ้าสำนักความงามนั้น หมอชลธิศ และหมอกมล กำลังชิงกันขึ้นเบอร์ 1 ในธุรกิจนี้ที่มีมูลค่ากว่าปีละ 3.5 หมื่นล้านบาท โดยมี นพ.วรพล สุขีวัฒนา แพทย์ผิวหนังโรงพยาบาลบีเอ็นเอช เจ้าของ “ดอกเตอร์โทนี่คลินิก” ตามมาห่างๆ

ใครสามารถช่วงชิงการนำทางการตลาดได้ หมายถึงเค้กก้อนโตในอนาคต...เสื้อกาวน์จึงถึงคราวดุ...

Thailand Web Stat