ศาลสั่งจำคุกหนุ่มยิงหมาตายหน้าหน้าห้างย่านลาดพร้าว
ศาลพิพากษาจำคุก 14 เดือนหนุ่มยิงสุนัขตายหน้าห้างย่านลาดพร้าว แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี และคุมประพฤติ 1 ปี
ศาลพิพากษาจำคุก 14 เดือนหนุ่มยิงสุนัขตายหน้าห้างย่านลาดพร้าว แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี และคุมประพฤติ 1 ปี
เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษกได้อ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ฟ้องนายวิชา บุญลือลักษณ์ อายุ 33 ปี เป็น จำเลยในความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์ ฆ่าสัตว์โดยให้ได้รับทุกข์เวทนา ตามพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 , ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490
จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 58 จำเลยได้ใช้อาวุธปืน ยิงสุนัขเพศเมีย หลายนัด ขณะจะวิ่งเข้ามากัด จนถึงแก่ความตาย เหตุเกิดบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าวแขวง-เขตวังทองหลาง กทม.
โดย นายวิชา ได้เดินทางมาพร้อมทนายความ ขณะที่น.ส.ภณิตา สุนทรัตต์ อายุ 47 ปี ผู้เข้าแจ้งความและดูแลสุนัขที่ถูกยิงตายก็เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยเช่นกัน
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีนี้แม้จำเลยจะอ้างว่าได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่ก็ไม่ได้นำสืบให้ศาลเห็นว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นกระบอกเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่ จึงเป็นการเบิกความลอยๆ ส่วนที่จำเลยยังอ้างเหตุที่ไม่ได้นำอาวุธปืนส่งพนักงานสอบสวน เพราะเกรงจะถูกขอขมาต่อกลุ่มพิทักษ์สัตว์และทำให้เป็นข่าวดังนั้น ทั้งในชั้นสอบสวน จำเลยก็มีบุคคลใกล้ชิดร่วมเข้าฟังการสอบสวนด้วย ซึ่งจำเลยสามารถที่จะนำอาวุธปืนของกลางและหลักฐานต่างๆ มามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ แต่จำเลยกลับไม่ได้ดำเนินการใดๆ ข้อต่อสู้ของจำเลยจึงไม่มีน้ำหนัก กรณีจึงฟังได้ว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงสุนัขให้ได้รับความทรมาน จึงเป็นความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวกับความผิดฐานยิงอาวุธปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือในที่ชุมชุน
ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯพ.ศ.2490 ,พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ พ.ศ.2557 มาตรา 20 และ 31 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 8 เดือน ปรับ 4,000 บาท ฐานพาอาวุธปืนฯ จำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท ฐานกระทำทารุณกรรมสัตว์ฯ จำคุก 6 เดือน ปรับ 5,000 บาท รวมจำคุก 20 เดือน ปรับ 11 ,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานพาอาวุธปืนฯจำคุก 3 เดือน ปรับ 1,000 บาท ฐานกระทำทารุณกรรมสัตว์ฯ จำคุก 3 เดือน ปรับ 2,500 บาท รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 14 เดือน ปรับ 7,500 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี คุมประพฤติเป็นเวลา 1 ปี โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติจำนวน 4 ครั้ง และให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์ 12 ชั่งโมง
ด้านนายวิชากล่าวว่า ยอมรับคำพิพากษาของศาลทุกประการและคงไม่ยื่นอุทธรณ์ โดยก่อนหน้านี้เคยถูกสุนัขตัวดังกล่าวไล่กัดขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านหลายครั้ง และในวันเกิดเหตุก็ถูกสุนัขวิ่งไล่กัดอีก จึงทำไปเพราะเกิดความโมโห ซึ่งอยากขอโทษต่อสังคมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพร้อมจะปรับปรุงตัวเองและบำเพ็ญประโยชน์ตามคำพิพากษา