posttoday

ขอบคุณครับ

07 พฤษภาคม 2559

จั่วหัวขึ้นมาอย่างที่เห็นคงจะน่าประหลาดใจอยู่บ้าง หลายท่านอาจจะคิดว่ากำลังจะเลียใครสักคน หรือสักกลุ่ม แต่เอาเข้าจริงนอกจากจะไม่ได้เลียแล้ว อาจจะกลายเป็นการขัดใจด้วยซ้ำไป เหตุที่ขึ้นหัวเรื่องไว้เช่นนั้น ขอดัดจริตสักหน่อย เนื่องจากวลีที่ว่ามาจากคำภาษาอังกฤษว่า “Thank you for your service” ซึ่งเป็นคำที่อาจจะได้ยินกันในหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็นในการทำหน้าที่ในร้านอาหาร ในโรงแรม ในโรงเรียน และที่สำคัญอย่างยิ่ง ในกิจการทหาร โดยเฉพาะการไปรบ ซึ่งการกล่าววลีเช่นนี้ก็เป็นที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา และบริบทที่สำคัญที่สุดในประเทศนั้นก็คือ การกล่าวต่อทหารผ่านศึก ครอบครัวของเขา หรือทหารทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าใด กองทัพไหน

จั่วหัวขึ้นมาอย่างที่เห็นคงจะน่าประหลาดใจอยู่บ้าง หลายท่านอาจจะคิดว่ากำลังจะเลียใครสักคน หรือสักกลุ่ม แต่เอาเข้าจริงนอกจากจะไม่ได้เลียแล้ว อาจจะกลายเป็นการขัดใจด้วยซ้ำไป เหตุที่ขึ้น
หัวเรื่องไว้เช่นนั้น ขอดัดจริตสักหน่อย เนื่องจากวลีที่ว่ามาจากคำภาษาอังกฤษว่า “Thank you for your service” ซึ่งเป็นคำที่อาจจะได้ยินกันในหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็นในการทำหน้าที่ในร้านอาหาร ในโรงแรม ในโรงเรียน และที่สำคัญอย่างยิ่ง ในกิจการทหาร โดยเฉพาะการไปรบ ซึ่งการกล่าววลีเช่นนี้ก็เป็นที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา และบริบทที่สำคัญที่สุดในประเทศนั้นก็คือ การกล่าวต่อทหารผ่านศึก ครอบครัวของเขา หรือทหารทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าใด กองทัพไหน

คนทั้งหลายอาจจะรู้สึกว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศกระหายสงคราม เอาแต่ได้ กอบโกย ค้าอาวุธ ทำลายสิทธิมนุษยชน รวมถึงทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และแสวงหาประโยชน์จากสงคราม ซึ่งที่ผู้คนทั้งหลายว่ากันนั้น ก็มิอาจจะทราบได้ว่าจริงหรือเท็จ เป็นประการใด แต่ทหารทั้งหลายก็มักจะกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องราวทางการเมืองทั้งหลายมิได้เกี่ยวข้องกับพวกเขา พวกเขาทำตามหน้าที่ และทำเพื่อปกป้องประเทศชาติ และประชาชนของเขา ซึ่งหลายท่านอ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะรู้สึกเลี่ยน หรือนึกสมเพชขึ้นมา เหมือนมาเขียนเลียแข้งเลียขา เชิดชูสหรัฐอเมริกา ประเทศอันน่าเกลียด น่าขยะแขยงของคนไทยจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นที่ฝากฝังกาย ทั้งฝังเป็นและฝังตายของคนไทยอีกจำนวนมากเช่นกัน

ชอบหรือไม่ชอบ เป็นสิ่งที่ห้ามกันยาก บังคับกันลำบาก โดยเฉพาะเจาะจง คือ ความรู้สึกที่ผู้คนจะมีต่อประเทศใดๆ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่สิ่งไม่ดีก็เอาทิ้งไป สิ่งที่ดีก็จดจำเขาเอามาเป็นแบบอย่าง และถือปฏิบัติบ้างก็จะดี ดังพระบรมราโชวาทของล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 ที่ว่า “...ข้างพวกฝรั่ง ให้ระวังให้ดี อย่าให้เสียทีแก่เขาได้ การงานสิ่งใดของเขาที่คิด ควรจะเรียนเอาไว้ก็ให้เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปทีเดียว”

ผู้คนจำนวนมากในสหรัฐอเมริกาเดินทางไปยังสุสานของทหารหาญ เพื่อสดุดีพวกเขา เมื่อพบเจอผู้คนที่ถือเครื่องหมาย หรือสวมใส่สิ่งอันเป็นสัญลักษณ์ของทหารผ่านศึก ก็จะขอบคุณพวกเขาในความเสียสละที่มีต่อประเทศชาติ และประชาชน แม้กระทั่งมีชายหนุ่มใส่เสื้อที่เขียนที่หน้าอกว่า “Marines” หรือนาวิกโยธิน อันเป็นเสื้อของน้องชายที่เป็นทหารผ่านศึก คนที่ข้ามถนนสวนทางกันยังเอ่ยปากว่า Thank you for your service ซึ่งหลายท่านอาจจะบอกว่าเป็นการมองเหรียญด้านเดียว ด้านที่ผู้คนด่าทอและดูถูกเหยียดหยาม ไม่ให้ความเคารพและมองเป็นเรื่องโง่เขลาก็คงมี

เหตุผลหลักที่ผู้คนของสหรัฐอเมริกาให้ความเคารพต่อทหาร เพราะทหารเสียสละ ยิ่งไปรบ ไม่ว่าจะกลับมาเป็นหรือตาย พวกเขายิ่งให้ความเคารพ เห็นทหารนั่งรถเข็นมาพวกเขานอกจากจะหยุดรถให้ข้ามถนนเหมือนที่ปฏิบัติต่อคนทั่วไปแล้ว ยังแสดงความเคารพด้วยวิธีต่างๆ ด้วยสวัสดิการของทหารผ่านศึกนั้นเต็มที่ บุตร คู่สมรส บุพการี ได้รับการดูแลอย่างดี อาจจะมีบ้างผู้ที่ด่าว่าเรื่องการรบ แต่เขามิได้ด่าทหาร เขาด่าใครท่านก็คงจะคิดกันได้

ไม่ว่าผู้คนทั้งหลายจะมองพวกเขาอย่างไร พวกเขารู้ว่าพวกเขาทำเพราะอะไร ไม่ว่าใครจะคิดเห็นอย่างไร พวกเขาล้วนทำตามหน้าที่ของพวกเขา โดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ผู้คนของประเทศเขาจึงให้ความเคารพต่อทหาร อ่านเรื่องของเขา แล้วย้อนมาดูเรื่องของเรา มองเห็นกันเป็นฉันใด ลองคิดดูครับ