จับผู้ต้องหาฆ่าเผานั่งยาง สารภาพร่วมก่อเหตุกับ "อดีต ด.ต."

อุดรธานี - เจ้าหน้าที่แถลงจับกุมผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุฆ่าเผานั่งยางนายทุนเงินกู้หญิง สารภาพร่วมก่อเหตุกับอดีต ด.ต.เหตุยืมเงินแล้วไม่ให้

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี , พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวีรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา พล.ต.ต.บุญลือ กอบ่างยาง รอง ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 , พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.อุดรธานี , พล.ต.อำนวย จุลโนนยาง ผบ.มทบ.24 และนายปราโมทย์ ธัญพืช ปลัด จ.อุดรธานี ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายบุญหนา หรือหนา ทองงาม อายุ 57 ปี  ผู้ต้องหา คดีสุสานเผานั่งยาง 1 ใน 23 จุด บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุดจับ โคกเฒ่าคำภา บ.คำบอนเวียงชัย ต.หนองแวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายบุญหนา ได้ที่บ้านพักใน ต.โนนทอง ตามหมายศาล จ.อุดรธานี 192 และ 193 / 2559 กล่าวหาร่วมกันฆ่าโดนไตร่ตรองไว้ก่อน ซ่อนเร้นทำลายศพด้วยการเผานั่งยาง นางบังอร ทองอ่อน อายุ 52 ปี นายทุนเงินกู้รายย่อย บ.ดงบัง ม.8 ต.โนนทอง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมซัดทอดว่าได้รับคำสั่งจาก ด.ต.ปราโมทย์ บุพศรี อดีตตำรวจ สภ.บ้านผือ ที่ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่เรือนจำคลองไผ่ ที่ถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ข้อหาร่วมกันฆ่าคนตาย

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า คดีเกิดขึ้นบริเวณสุสานเผานั่งยาง พบร่องรอยการเผา 23 จุด หนึ่งในนั้นตรวจพบ ดีเอ็นเอ ในกระดูก 1 จุด ขณะมีญาติผู้สูญหายต้องการตรวจเปรียบเทียบ ดีเอ็นเอ 41 ราย ส่งไปตรวจแล้ว 28 ราย ไม่ตรงกับดีเอ็นเอกระดูก เหลืออีก 13 ตัวอย่างดีเอ็นเอจะเร่งให้จัดส่งไปสถาบันนิติเวช จากการร่วมกันของสืบสวนภาค 4 กับ ภ.จว.อุดรธานี ศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คน คือนายบุญหนา ส่วน อีกคนคือ ด.ต.ปราโมทย์  ที่จะนำไปสู่คดีอื่นๆต่อไป

พล.ต.ต.ยรรยง กล่าวว่า คดีนางบังอร หายออกจากกระท่อมนาวันที่ 4 มิ.ย.57 จนมาพบศพวันที่ 8 มิ.ย.57 ถูกฆ่านำมาเผานั่งยางที่สุสานเผานั่งยาง ตำรวจได้สืบสวนมีพยานหลักฐานเพิ่มเติม นำตัวนายบุญหนามาสอบสวน รับสารภาพว่าได้ร่วมกับ ด.ต.ปราโมทย์ฆ่านางบังอร เพื่อชิงทรัพย์ทั้งเงินสด สร้อยคอทองคำ สร้างข้อมือทองคำ และแหวน เพราะโกรธที่ยืมเงินแล้วไม่ให้ หลังจากฆ่าแล้วนำขึ้นรถกระบะของ ด.ต.ปราโมทย์ ไปเผาทิ้งที่สุสานเผานั่งยาง ครั้งแรกใช้ยางรถยนต์ 2 เส้น ตอนดึก ด.ต.ปราโมทย์ นำยางอีก 1 เส้นมาเผาเพิ่ม โดยแบ่งเงินให้ 14,000 บาท

นายบุญหนากล่าวว่า ไม่มีเรื่องบาดหมางกับผู้ตาย โดยรู้จักกับเพราะผู้ตายมีฐานะ วันเกิดเหตุ ด.ต.ปราโมทย์มาพบ ชวนไปยืมเงินผู้ตายถ้าไม่ให้ก็จะอุ้ม เอาทรัพย์สินใจตัวทั้งเงินสด และทองรูปพรรณ เพราะเคยยืมหลายครั้งแต่ล่าสุดไม่ให้ โดยช่วงเย็นๆไปดักรอผู้ตาย ไปรดน้ำต้นไม้ที่กระท่อมนา เมื่อพบได้นั่งดื่มเหล้าก่อนยืมเงิน 10,000 บาท เมื่อไม่ให้ ด.ต.ปราโมทย์ได้ลงมือฆ่าด้วยการ หักคอ

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบ.ตร.ภาค 4 หัวหน้าทีมสอบสวนคดีสุสานเผานั่งยาง ได้ขอให้ยุติการถามและตอบ เพราะเนื้อหาอยู่ในสำนวนจะเสียหาย พร้อมชี้แจงรายละเอียดว่า คดีนางบังอร เป็น 1 ในคดีบริเวณสุสานเผานั่งยาง มีการยืนยันศพถูกนำไปเผาจริง ผู้ต้องหารับสารภาพและซักทอด ด.ต.ปราโมทย์ ก็จะต้องให้พนักงานสอบสวน ไปสอบปากคำในเรือนจำคลองไผ่ หวังว่าขณะนี้ก็อายุมากแล้ว อาจจะให้ความร่วมมือ นำไปสู่คดีอื่นๆบริเวณนั้น

ส่วนคดี นางกุหลาบ อินทร์ศรี ถูกอุ้มจากบ้านพัก สภ.บ้านเทื่อม อ.บ้านผือ คดีปิดไปแล้วเมื่อจับกุมผู้จ้างวาน ที่เกิดจากเรื่องส่วนตัว ซัดทอดตำรวจ สภ.บ้านผือ 2 นายเป็นผู้จัดหาคนลงมือ ตัวสั่งฟ้องทั้ง 3 คน แต่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ตร.2 นาย และศาลมีความเห็นยกฟ้องผู้จ้างวาน ในประเด็นยังไม่รู้ว่านางกุหลาบฯ เสียชีวิตคือยัง เพราะไม่พบศพ ถ้าจะรื้อคดีต้องมีหลักฐานใหม่ อย่างเช่น ดีเอนเอ.ที่ยังเทียบไม่ตรงกัน