ปูพรมแจงร่างรธน. เดิมพันอนาคตคสช.
เดิมพันครั้งสำคัญของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นี้
โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
เดิมพันครั้งสำคัญของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ซึ่งวิเคราะห์แล้วหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ถือเป็นฉบับที่ 2 ของ คสช.มีอันต้องสะดุดอีกรอบ ย่อมบั่นทอนความน่าเชื่อถือและทำลายความเชื่อมั่น คสช.ไม่น้อย
ไม่แปลกที่ คสช.จะส่งสัญญาณดันร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แบบเต็มสูบ
ล่าสุดกับขั้นตอนการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เตรียมจัดอบรมวิทยากรอาสาสมัครเผยแพร่ประชาธิปไตย หรือ ครู ก. ในวันที่ 18-19 พ.ค.นี้ ที่โรงแรมมิราเคิล
โดยคัดเลือกอาสาสมัครจากคุณสมบัติ 3 ประการ คือ 1.เป็นคนดี ไม่ด่างพร้อย และเป็นที่ยอมรับ 2.มีความเป็นกลางทางการเมือง ถ้าใครไม่ชอบร่างรัฐธรรมนูญ หรือคิดว่าไม่เป็นกลางก็ไม่ควรอาสาเข้ามา และ 3.เป็นคนที่มีทักษะทางการพูด หรือเคยเป็นวิทยากรมาก่อน
ที่สำคัญ หากส่องดูรายละเอียดจะพบการทำงานที่มีความชัดเจนโดยแบ่งกลุ่มวิทยากรครู ก.ออกเป็น 9 กลุ่ม ที่จะไปชี้แจงและเรียนรู้ เพื่อให้สามารถกระจายทั่วถึงทุกภูมิภาคและพื้นที่ทุกจังหวัด จากนั้น ครู ก.ก็จะทำหน้าที่เผยแพร่สาระสำคัญให้กับวิทยากรระดับอำเภอ สภาองค์กรชุมชน หรือครู ข. ในช่วงเดือน มิ.ย.ต่อไป
หลักสูตรวันแรกจะเป็นเรื่องของ สิทธิเสรีภาพ หน้าที่ของประชาชน หน้าที่ของรัฐ การเมือง เรื่อง สส.-สว. การได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และการปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนวันที่สองเป็นการตอบประเด็นข้อซักถามต่างๆ ในลักษณะของการแบ่งกลุ่ม
ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นการเร่งสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ถึงเนื้อหาสาระสำคัญในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเสียงสะท้อนจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคการเมือง ภาคประชาชน ส่วนใหญ่จะเป็นการโจมตีในจุดอ่อนที่ล้วนแต่จะซ้ำเติมความน่าเชื่อถือของร่างรัฐธรรมนูญ
การปูพรมสื่อสารกับประชาชนแบบเคาะประตูบ้านทำความเข้าใจรอบนี้ จึงเป็นปฏิบัติการ “เชิงรุก” ที่จะทำให้ประชาชนได้รับข้อมูล “แก้เกม” ประเด็นที่ถูกถล่มในช่วงเวลาที่ผ่านมา
แถมเตรียมฮอตไลน์สายด่วน เพื่อให้ ครู ก.และครู ข.ต่อสายตรงมายัง กรธ.โดยตรง เมื่อพบปัญหาที่อาจจะตอบคำถามไม่ได้ พ่วงกับแอพพลิเคชั่นไลน์ในการติดต่อสื่อสารกับวิทยากรเพิ่มเติมด้วย
ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่ประชาชนทั่วไปจะอ่านรายละเอียดในทุกหมวด ทุกมาตราในร่างรัฐธรรมนูญ การส่งตัวแทนไปชี้แจงตรงถึงชาวบ้านย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นจุดเด่นของร่างรัฐธรรมนูญ
แถมยังได้โอกาสชี้แจงประเด็นจุดอ่อนที่ถูกโจมตีว่า ในมุมมองของ กรธ.มีเจตนารมณ์และเหตุผลในการเขียนเนื้อหาแต่ละมาตราอย่างไร รวมทั้งต้องพิจารณาประกอบบริบทและเงื่อนไขของสถานการณ์ขณะนี้จนทำไมต้องออกมาเป็นเนื้อหาอย่างที่เห็น
นอกจากยุทธการเดินเคาะประตูทุกหลังคาเรือนแล้ว อีกด้านหนึ่ง กรธ.จะฝากคลิปเสียงและสคริปต์เพื่อให้ผู้ใหญ่บ้านเปิดเสียงตามสายจากวิทยุชุมชน พ่วงด้วยการเปิดเพลงที่ประพันธ์และขับร้องจากศิลปินที่ให้ความร่วมมือแต่งเพลงเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญและการทำประชามติ
จำแนกออกเป็นแต่ละพื้นที่เริ่มตั้งแต่ภาคกลางเป็นเพลงแหล่และเพลงโทนของ ชินกร ไกรลาศ ภาคใต้เป็นเพลงของ เอกชัย ศรีวิชัย ภาคอีสานเป็นเพลงหมอลำของ จินตหรา พูนลาภ และภาคเหนือเป็นเพลงสะล้อซอซึง จาก ธีรวัฒน์ หมื่นทา ศิลปินพื้นเมือง
นอกจากเวทีที่ กรธ.จะลงพื้นที่ไปตามกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม ร่วมกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ช่วยลงพื้นที่ชี้แจงคำถามพ่วงประชามติด้วย
ในช่วงวันใกล้ๆ ทำประชามติอาจจะมีการทำความเข้าใจผ่านสถานีโทรทัศน์อีกยก
คู่ขนานไปกับการเดินสายชี้แจงทำความเข้าใจโดยบุคลากรของกองทัพ นักศึกษาวิชาทหารตลอดจนเจ้าหน้าที่ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข อำนวยความสะดวกให้กับวิทยากรในการทำงาน
อีกด้านหนึ่ง การนำเสนอข้อมูลของฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังถูกตีกรอบอย่างเข้มงวดด้วย พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ตลอดจนคำสั่ง คสช.ที่ยากจะออกมานำเสนอความคิดความเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญได้ยาก
ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ตอกย้ำการเอาจริงเอาจังกับเดิมพันครั้งสำคัญของ คสช.