อัยการฯ เสนอให้ปรับ ‘เป๊ก-สัญชัย’ ทำร้ายหมอพาย

27 พฤษภาคม 2559

อัยการศาลแขวงเชียงใหม่เสนอพนักงานสอบสวนปรับ “เป๊ก-สัญชัย”เพราะเป็นเพียงคดีลหุโทษ ด้าน“หมอพาย” ไม่ยอม ยืนยันสู้คดีถึงชั้นศาล

อัยการศาลแขวงเชียงใหม่เสนอพนักงานสอบสวนปรับ “เป๊ก-สัญชัย”เพราะเป็นเพียงคดีลหุโทษ ด้าน“หมอพาย” ไม่ยอม ยืนยันสู้คดีถึงชั้นศาล 

สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงเชียงใหม่ ได้ส่งสำนวนการสวบสวนคดีที่ พ.ต.อ.นพ.ปิยพงษ์ สาครเย็น หรือหมอพาย นายแพทย์ สบ.3 กลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับบุคคล สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ถูก ร.ท.สัญชัย เองตระกูล หรือเป๊ก สามีนักแสดงสาวชื่อดัง ทำร้ายร่างกายและจิตใจในงานแต่งงานที่ จ.เชียงใหม่ ด้วยการตบหน้าและชูนิ้วกลางใส่ พร้อมทั้งให้ลูกน้องใช้อาวุธปืนข่มขู่ เมื่อคืนวันที่ 10 ต.ค.2558 กลับคืนให้ สภ.ดอยสะเก็ด เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สำนักงานอัยการฯ ให้ความเห็นว่า ความผิดดังกล่าวเป็นความปิดลหุโทษ พนักงานสอบสวนสามารถเปรียบเทียบปรับได้

“ฉะนั้นจึงส่งสำนวนการสอบสวนคืนพร้อมตัวผู้ต้องหามายังพนักงานสอบสวนเพื่อพยายามทำการเปรียบเทียบปรับในข้อหาดังกล่าว (ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า) ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 144 แต่หากไม่สามารถกระทำได้ ให้ส่งเรื่องเพื่อขออนุญาตฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาดังกล่าวภายในกำหนดอายุความต่อไป”ตอนหนึ่งของหนังสือราชการระบุ

ทั้งนี้ คดีนี้จะครบกำหนดอายุความในวันที่ 10 ต.ค.2559

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.นพ.ปิยพงษ์ ได้ให้การต่อพนักงานสอบสวน สภ.ดอยสะเก็ด เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่ประสงค์หรือยินยอมให้พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับ เนื่องจากต้องการให้มีการพิจารณาคดีในชั้นศาลเท่านั้น

พ.ต.อ.นพ.ปิยพงษ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการมีเรื่องกับ ร.ท.สัญชัย และพยายามหลีกเลี่ยงแล้ว ซึ่งหากเป็นข้อหาทะเลาะวิวาทตามที่อัยการระบุ ในวันเกิดเหตุคงต้องมีการใช้กำลังตอบโต้กลับไป ยืนยันว่าไม่ได้ไปทะเลาะด้วย และถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว

“ผมพลาดที่เลือกเป็นปัญญาชน ปล่อยให้เค้าต่อยฝ่ายเดียว ตามเอาพวกพร้อมอาวุธปืนมาข่มขู่หน้างานแต่ง แถมซ้ำเติมด้วยนิ้วกลางเจ้าโลกวนรอบหน้าผม ให้หมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต่ำลงไปอีก ถ้ารู้ว่าจะเป็นคดีทะเลาะวิวาทผมน่าจะเลือกสวนหมัดกลับ ส่งเสียงดังล้มโต๊ะให้คนสนใจแห่กันหยิบมือถือถ่ายคลิปลงในโซเชียลดีกว่า”พ.ต.อ.นพ.ปิยพงษ์ กล่าว

พ.ต.อ.นพ.ปิยพงษ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่เป็นอาจารย์แพทย์ภาควิชานิติเวชศาสตร์คนหนึ่ง มีความรู้ด้านกฎหมายพอควร จึงร้องขอความเป็นธรรมต่อท่านอธิบดีอัยการฯ ให้ดำเนินการพิจารณาคดีในชั้นศาลแต่เพียงเท่านั้น เพื่อเป็นตัวอย่างคดีต่อสังคม ปรามคนชั่วให้ประจักษ์ถึงกระบวนการยุติธรรมที่คนผิดย่อมต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันทุกคน ไม่มีใครมีอภิสิทธิ์เหนือกว่ากัน

“สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สังคมไม่ต้องแปลกใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ทั้งคดีลูกคนดังขับรถหรูชนตำรวจเสียชีวิต หรือเยาวชนขับรถชนรถตู้จนมีผู้เสียชีวิตหลายราย ส่วนตัวรู้สึกผิดหวังกับอัยการแขวงฯ ที่ทำคดีออกมารูปแบบนี้ และอยากเรียกร้องให้อธิบดีอัยการฯ ดำเนินการพิจารณาคดีในชั้นศาลเท่านั้น เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่างของสังคม”พ.ต.อ.นพ.ปิยพงษ์ กล่าว

 

Thailand Web Stat