โรงแรมหรูแห่ลงทุนเขาหลักพังงา

ซีไนน์ โฮเทลฯ ชี้โรงแรมหลายชาติแห่เปิดในเขาหลัก รับท่องเที่ยวเชื่อมพังงา-เมียนมา คาดทะลุ 1 ล้านคน

นายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ ที่ปรึกษาด้านธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงแรมที่อยู่ระหว่างพัฒนาใน อ.เขาหลัก จ.พังงา ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมมาตรฐานนานาชาติ 4-5 ดาว ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง 1,000-2,000 ล้านบาทขึ้นไป/โครงการ การลงทุนส่วนใหญ่อยู่ที่หาดบางสัก ปัจจุบันยอดโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องใน อ.เขาหลัก มี 104 แห่ง 7,822 ห้อง จากนี้จนถึงปี 2561 จะมีอีก 5 โรงแรมเกิดใน อ.เขาหลัก จะทำให้มีจำนวนห้องพักเพิ่ม 1,213 ห้อง

ด้านพื้นที่ต่อไปใน จ.พังงา ที่น่าจะได้รับความนิยมลงทุนตามมาจาก อ.เขาหลัก คือ อ.ตะกั่วป่า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพใช้จ่ายสูงที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงจาก จ.พังงา ของไทย ไปภาคใต้ของประเทศเมียนมา เนื่องจากเป็นจุดหมายท่องเที่ยวเปิดใหม่

ทั้งนี้ ภาพรวมโรงแรมและรีสอร์ทใน จ.พังงา หลังเหตุการณ์สึนามิปลายปี 2547 จำนวนผู้เข้าพักโรงแรมและรีสอร์ทใน จ.พังงา ตกลงไปต่ำกว่า 3 แสนคน แล้วค่อยๆ ฟื้นตัวกลายเป็น 9.62 แสนคนได้เมื่อปี 2558 จึงคาดว่าปีนี้จะมีผู้เข้าพักเกิน 1 ล้านคนได้ โดยตลาดหลักที่ทำให้ จ.พังงา ฟื้นตัวคือนักท่องเที่ยวยุโรป คิดเป็น 80% ของผู้เข้าพักทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มที่พูดภาษาเยอรมัน เช่น เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย

นอกจากนี้ ยังเห็นการเปลี่ยนแปลงมีตลาดใหม่ๆ เข้าไปในพื้นที่ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งไปช่วงที่แตกต่างจากยุโรป ช่วยให้ จ.พังงา มีผู้เข้าพักกระจายมากขึ้นไม่จำกัดแค่ช่วงใดช่วงหนึ่ง ส่วนจำนวนผู้เข้าพักไทยเพิ่งฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับมากกว่าก่อนเกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อปีที่ผ่านมา

หากเป็นไปได้ จ.พังงา ต้องดึงตลาดคนไทยให้กลับไปเที่ยวมากกว่านี้ เพื่อกระจายความเสี่ยง หากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นกระทบตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติใด จะได้ไม่กระทบมาก

นายบาร์เน็ต กล่าวว่า จำนวนผู้เข้าพักใน จ.พังงา จะเติบโตได้ดีกว่านี้ หากมีการสร้างสนามบินที่ จ.พังงา เพราะปัจจุบันการมาพักที่ จ.พังงา ยังต้องพึ่งพิงสนามบิน จ.ภูเก็ต เป็นหลัก แม้ว่าสนามบิน จ.ภูเก็ต จะมีการขยายสนามบินแล้วก็ตาม แต่การมีสนามบินในจังหวัดเองจะทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น ธุรกิจโรงแรมในจังหวัดนั้นจะเติบโตได้ดีกว่า

ปัจจัยที่ทำให้ยอดผู้เข้าพักใน จ.พังงา ฟื้นตัว เป็นเพราะยังไม่มีปัญหาเรื่องการจราจรติดขัดเหมือนกับภูเก็ต อีกทั้งยังไม่มีความเป็นเมืองมากนัก ทำให้เมืองสะอาดและตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปที่ต้องการมาพักโรงแรมแล้วเดินเล่นริมชายหาด เนื่องจากที่ จ.ภูเก็ต โรงแรมจำนวนมากไม่ได้มีหน้าชายหาดให้เดินเล่นได้ ทำให้หันมาพักที่ จ.พังงา แทน เพราะยังมีโรงแรมที่มีชายหาดด้านหน้าอยู่มาก โดยเฉพาะที่พักใน อ.เขาหลัก

นายบาร์เน็ต กล่าวว่า หลังจากทำผลสำรวจโรงแรมใน จ.พังงา แล้ว มีความสนใจจะทำสำรวจโรงแรมในพื้นที่ อ.ศรีราชา-แหลมฉบัง จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่ต่อไป คาดว่าจะออกผลสำรวจได้ใน 4-5 สัปดาห์ข้างหน้า สาเหตุที่สนใจเนื่องจากมีความต้องการลงทุนโรงแรมเกิดขึ้นมากในย่านนี้ โดยโรงแรมระดับนานาชาติหลายแบรนด์กำลังก่อสร้างอยู่

รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผย ปีที่ผ่านมามีรายได้จากการท่องเที่ยว 3.72 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.88% จากปีก่อนหน้า มีนักเดินทางเข้าไป 4.17 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยว 9.73 แสนคน แต่จำนวนคนที่พักในโรงแรมที่ จ.พังงา อยู่ที่ 9.62 แสนคน อัตราเข้าพักเฉลี่ยโรงแรมใน จ.พังงา ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 59.42%