Sive สะกดรอย

...สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังเผชิญมรสุมลูกใหญ่กับการพิจารณาถอนคดีการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งส่อเค้าหาบทสรุปไม่ได้ ​เนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติไปว่าการถอนฟ้องคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสามารถกระทำได้ แต่คณะทำงานของ ป.ป.ช.ที่มี “สรรเสริญ พลเจียก” เลขาธิการ ป.ป.ช.เป็นประธาน มีความเห็นร่วมกันว่าไม่สามารถถอนฟ้องได้ เพราะหลักฐานที่ฝ่ายจำเลย นำโดย “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่นำมาอ้างนั้นเป็นหลักฐานเก่า เมื่อความเห็นของ ป.ป.ช.และคณะทำงานสวนทางกัน ทำให้เรื่องนี้ต้องถูกดองแบบไม่มีกำหนดทั้งๆ ที่เดิมทีต้องการจะให้จบตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

...ไม่รู้เหมือนกันว่าการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นของแสลงอะไรหรือเปล่า หลังจากเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. นพ.เรวัต วิศรุตเวช อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ ได้รับคะแนนจาก สนช. 66 ต่อ 66 งดออกเสียง 24 คะแนน ซึ่งเท่ากับว่า สนช.มีมติไม่เห็นชอบ ส่งผลให้ต้องส่งเรื่องกลับไปยังคณะกรรมการสรรหาอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ สนช.เคยมีมติ 86 ต่อ 76 คะแนน ไม่เห็นชอบให้ ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล อดีตผู้พิพากษาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำรงตำแหน่งผู้ตรวจฯ มาแล้ว สืบไปสืบมาพบว่าสาเหตุที่หมอเรวัติไปไม่ถึงเก้าอี้ผู้ตรวจฯ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ สนช.ส่วนหนึ่งเห็นว่ามีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับฝ่ายการเมืองอยู่ไม่น้อย สนช.เลยต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

...คดีจำนำข้าวนับวันยิ่งเป็นคดีมหากาฬ ล่าสุด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะจำเลยคดี ยื่นฟ้องมือสอบเผือกร้อนรัฐบาล คสช. บิ๊กแอ๊ว-จิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการว่าด้วยการรับผิดทางแพ่งคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว “บิ๊กแอ๊ว” ถือเป็นพยานปากเอกในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดให้การ ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ไล่ตั้งแต่การตรวจสอบโกดัง การระบาย หรือผลสรุปความเสียหาย ยิ่งลักษณ์ ลั่นสู้เต็มที่ แต่จู่ๆ ก็ฟ้องบิ๊กแอ๊วขึ้นมาในช่วงทางคดีใกล้จบ แถมในช่วงเดือน ก.ค.นี้ อธิบดีกรมบัญชีกลางจะปิดสำนวนคดีแพ่งเพื่อออกคำสั่งทางปกครองตาม พ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดฯ แก่ยิ่งลักษณ์ ในคดีจำนำข้าวด้วย

...อีกหนึ่งนักการเมืองที่หันหน้าไปทำธุรกิจส่วนตัวช่วงตกงาน เสี่ยโจ้-ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ตอนนี้กำลังมีความสุขกับการบริหารจัดการร้านอาหาร ย่านถนนสุขุมวิท 39 ที่ชื่อว่า “AMANO” เพราะร้านนี้เป็นร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน ที่สำคัญร้านนี้ทีเด็ดไม่ได้อยู่ที่รสชาติอาหารอย่างเดียว แต่ยังมีไวน์ชั้นเลิศ ​เพราะเจ้าของร้านเป็นคอไวน์ตัวจริง​ แว่วว่าร้านนี้มีเพื่อนฝูงแวดวงการเมืองชอบไปพบปะสังสรรค์กันบ่อยครั้ง หากจะตามหาคนดังการเมือง พร้อมลิ้มลองรสชาติอาหารอิตาเลียน ร้านนี้คงไม่ทำให้ผิดหวัง