posttoday

โทนี่ ตัน บิ๊กแฟรนไชส์ตากาล็อก

04 กรกฎาคม 2559

โทนี่ ตัน อีกหนึ่งนักธุรกิจใหญ่ของฟิลิปปินส์ ที่ใช้วัยเด็กเดินทางโพ้นทะเลพร้อมครอบครัวเพื่อหลบหนีเข้ามาในประเทศฟิลิปปินส์พร้อมความหวังว่าชีวิตของพวกเขาจะดีกว่าที่ที่จากมา โดยใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นทำงานเป็นบริกรในร้านอาหาร พร้อมเก็บเงินสะสมเพื่อลงทุนเปิดร้านอาหารเล็กๆ ในที่สุดมันก็เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล ที่มองเห็นโอกาสในการใช้ศักยภาพด้านต้นทุนวัตถุดิบ เพื่อก่อตั้งแฟรนไชส์อาหารจานด่วนภายใต้ชื่อ “Jollibee” ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับโลกได้ในปัจจุบัน

โทนี่ ตัน อีกหนึ่งนักธุรกิจใหญ่ของฟิลิปปินส์ ที่ใช้วัยเด็กเดินทางโพ้นทะเลพร้อมครอบครัวเพื่อหลบหนีเข้ามาในประเทศฟิลิปปินส์พร้อมความหวังว่าชีวิตของพวกเขาจะดีกว่าที่ที่จากมา โดยใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นทำงานเป็นบริกรในร้านอาหาร พร้อมเก็บเงินสะสมเพื่อลงทุนเปิดร้านอาหารเล็กๆ ในที่สุดมันก็เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล ที่มองเห็นโอกาสในการใช้ศักยภาพด้านต้นทุนวัตถุดิบ เพื่อก่อตั้งแฟรนไชส์อาหารจานด่วนภายใต้ชื่อ “Jollibee” ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับโลกได้ในปัจจุบัน

จากเมื่อสี่สิบปีที่แล้ว “Jollibee” เคยเป็นร้านฟาสต์ฟู้ดเล็กๆ ในฟิลิปปินส์ มีรายรับเพียงสี่หลัก/เดือน ทว่าด้วยไอเดียทางธุรกิจของโทนี่ ที่มองว่าการขยายสาขาควบคู่ไปกับการแนะนำสินค้าใหม่จะทำให้กิจการของเขาได้รับความสนใจมากขึ้น ด้วยความกล้าหาญในการตัดสินใจครั้งนั้นในอดีต ทำให้วันนี้กิจการของโทนี่ผลิดอกออกผลเป็นธุรกิจแฟรนไชส์กว่า 900 สาขา ครอบคลุม 28 ประเทศ ทั้งตะวันออกกลาง ยุโรป เอเชีย และโอเชียเนีย

ทั้งยังแตกอีก 8 บริษัทลูก จนสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดอาหารกลุ่มเบอร์เกอร์ได้มากถึง 40% ของทั่วโลก ด้วยมูลค่าบริษัทในปัจจุบันถึง 1.43 แสนล้านบาท กลายเป็นร้านอาหารที่มีสาขามากสุดในฟิลิปปินส์ เอาชนะคู่แข่งด้วยการครองตลาดมากกว่า 50% ประกอบกับความมุ่งมั่นขยายตลาดด้วยการตั้งเป้ารายรับสัดส่วน 50% ต้องมาจากนอกประเทศภายในปี 2020 ด้วยความเชื่อที่ว่าอุปสงค์ของโลกย่อมมากกว่าในประเทศ

นอกจากนี้ โทนี่ ยังมีแผนขยายสาขาอีกกว่า 2,000 สาขา ภายใน 4 ปี ทำให้ Jollibee เป็นฟาสต์ฟู้ดเพียงเจ้าเดียวที่สามารถเอาชนะแมคโดนัลด์ได้ในหลายๆ ประเทศของอาเซียน จากความเอาใจใส่ของลูกค้าด้วยการวิเคราะห์ตลาดและรสชาติที่ถูกปากของแต่ละพื้นที่อยู่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เมนูอาหารของ Jollibee มีทั้งอาหารพื้นเมืองและอาหารสากลมัดใจลูกค้าในพื้นที่ได้อยู่หมัด ส่วนด้านการตลาดในอาเซียน Jollibee ได้กว้านซื้อร้านอาหารท้องถิ่นทั้งในเวียดนามและจีนเพื่อนำแบรนด์เข้าไปขยายสาขาจนทำให้บริษัทของเขาติดอันดับท็อป 5 ของโลกด้านร้านอาหารที่ขยายสาขาได้รวดเร็วที่สุด

“การวิจัยและพัฒนาเทคนิคการตลาดเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ที่ต้องทั้งคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ควบคู่ไปกับออกแบบรสชาติให้ถูกปากคนแต่ละพื้นที่” โทนี่ กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งบริษัทลูกเพื่อเข้าไปเปิดร้านอาหาร เช่น ในประเทศจีนก็ได้ตั้งแฟรนไชส์ร้านอาหารจีนชื่อ Yonghe King ธุรกิจเชนบะหมี่และติ่มซำที่มีกว่า 300 สาขาทั่วประเทศจีน ทั้งยังเข้าซื้อหุ้นศูนย์กระจายสินค้าอย่างเอาต์เลตเพื่อเพิ่มโอกาสในการต่อยอดธุรกิจอีกด้วย ส่งผลให้ธุรกิจของเขาในจีนเติบโตเฉลี่ย 20% ในทุกปี ไม่เพียงแค่เรื่องอาหารเท่านั้น แต่ Jollibee ยังสามารถ
คงคอนเซ็ปต์การออกแบบและตกแต่งภายในร้านได้เกือบทุกสาขาควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทรงพลังอย่างสื่อออนไลน์ทำให้สามารถเปิดตลาดได้อย่างรวดเร็ว พร้อมมีทีมงานเฉพาะที่คอยดูแลตั้งแต่สต๊อกสินค้าไปจนถึงระบบโลจิสติกส์ให้กับแฟรนไชส์ในแต่ละพื้นที่

ขณะเดียวกัน การซื้อใจพนักงานก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน “ถ้าคุณมอบหัวใจให้กับลูกน้อง พวกเขาจะไว้ใจคุณ” เป็นสิ่งที่โทนี่ยึดมั่นเสมอจนทำให้บริษัทของเขาได้รับรางวัลบริหารพนักงานดีเด่นในระดับต้นๆ ของเอเชีย

ขณะที่เคล็ดลับความสำเร็จในการทำกิจการ โทนี่ บอกว่า การแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับสังคมเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เราประสบความสำเร็จ เราแบ่งปันความรักผ่านรสชาติอาหาร แบ่งปันความห่วงใยผ่านการบริการที่อบอุ่น และสุดท้ายเราแบ่งปันความสุขผ่านการคืนกำไรให้สังคมในที่สุด

Thailand Web Stat