หมอพิจิตรเจ๋งรักษาผู้ป่วยโรคไมเกรนได้สำเร็จ
แพทย์รพ.พิจิตร ช่วยชีวิตผู้ป่วยกินยาแก้ปวดไมเกรนเส้นโลหิตเป็นพิษรักษารอดหวุดหวิด
แพทย์รพ.พิจิตร ช่วยชีวิตผู้ป่วยกินยาแก้ปวดไมเกรนเส้นโลหิตเป็นพิษรักษารอดหวุดหวิด
นพ.ธเนศ ดุสิตสุนทรกุล หัวหน้าแผนกศัลกรรมและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือด รพ.พิจิตร กล่าวว่า ได้มีคนไข้ ชื่อ น.ส.อรุณี สุขเอี่ยม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128/3 หมู่ 1 ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นคนไข้ที่ส่งต่อมาจาก รพ.ชัยนาท เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยมีโรคประจำตัว คือ “โรคไมเกรน” ที่มักมีอาการปวดหัวเป็นประจำ จึงต้องกินยาต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าคนไข้กินยาไม่ถูกวิธีและนอกเหนือคำสั่งแพทย์ ซึ่งคนไข้รายนี้กินยาทุกครั้งที่ปวดหัวคราวละหลายๆเม็ด ไม่เป็นตามเวลาที่แพทย์บอก จึงส่งผลให้เกิดเส้นเลือดตีบตันตามบริเวณต่างๆ เช่น เส้นเลือดตามบริเวณแขน ขา โดยคนไข้รายนี้เกิดอาการเส้นเลือดตีบตันที่ขาทั้ง 2 ข้าง ตั้งแต่อุ้งเชิงกรานลงมาถึงปลายนิ้วเท้า ซึ่งเลือดไม่ไปเลี้ยงอวัยวะส่วนขาแล้ว จึงมีอาการ “ขาดำ” เหตุเพราะเลือดจ่ายไปไม่ถึง ซึ่งแพทย์ต้นทางโรงพยาบาลชัยนาท คิดว่าอาจจะต้องตัดขา แต่คนไข้ขอเลือกจะมารักษาที่ รพ.พิจิตร
ทั้งนี้ เนื่องจากทราบว่าโรงพยาบาลพิจิตร สามารถใช้วิธีการรักษาโดยวิธีใส่สเต็นท์ (stent) ซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษลักษณะคล้ายสปริงใช้รักษาผู้ป่วยได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีแผลผ่าตัดขนาดใหญ่ ปรากฏว่าสามารถรักษาจนกลับมาเป็นปกติได้ นับว่าเป็นเหตุการณ์อุทธาหรณ์กับผู้ป่วยโรคไมเกรน ที่กินยาไม่ปรึกษาแพทย์ อีกทั้งไม่รู้ว่าถ้ากินยาแก้โรคไมเกรน บางชนิดแล้วไปกินควบคู่กับยาฆ่าเชื้อบางชนิดก็จะทำให้ยาออกฤทธิ์แรงเกินขนาด ซึ่งอาจส่งผลถึงตายได้ แต่คนไข้รายนี้แค่เส้นเลือดตีบและได้รับการรักษาที่ถูกวิธี จึงไม่ต้องถูกตัดขา
น.ส.อรุณี สุขเอี่ยม ผู้ป่วยที่กินยาต่อเนื่องมากว่า 2 ปี และเกือบต้องเสียขา กล่าวว่าอยากให้เป็นกรณีศึกษาของผู้ป่วยโรคไมเกรนทั่วไป ว่า อย่ากินยานอกเหนือจากแพทย์สั่ง มิเช่นนั้นอาจต้องเสียอวัยวะของร่างกายไป เนื่องจากหลอดเลือดตีบตันแต่คราวนี้ตนเองนั้นโชคดีที่ได้รักษาถูกวิธี จึงขอขอบคุณคณะแพทย์โรงพยาบาลพิจิตร