posttoday

จะไป Saga 2

11 กันยายน 2559

หลังจากเจ้าหน้าที่ของ Times Car Rental ส่งมอบรถพร้อมเอกสาร Support Book ที่บรรจุข้อมูลสำคัญ อาทิ

หลังจากเจ้าหน้าที่ของ Times Car Rental ส่งมอบรถพร้อมเอกสาร Support Book ที่บรรจุข้อมูลสำคัญ อาทิ กฎระเบียบในการขับรถ ป้ายสัญญาณชนิดต่างๆ วิธีการจอดรถ วิธีเติมน้ำมัน ความคุ้มครองจากการประกันและวิธีใช้Navigator แล้ว ผมก็ใส่ Map Code ของจุดหมายปลายทางแรกเข้าไป ท่านสามารถเลือกใส่หมายเลขโทรศัพท์ก็ได้เช่นกัน แต่ในกรณีที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวบางจุด เช่น ยอดเขา ทุ่งหญ้า น้ำตก อาจจะไม่มีเบอร์โทรก็ต้องมาใช้ Map Code แทนเหมือนจุดแรกของผมคือ แหลมฮาโดะ (Hado Misaki) ที่อยู่ในเขตเมือง Karatsu ผมขับรถขึ้นทางด่วนต่อทางธรรมดามาประมาณ 2 ชั่วโมง แวะจอดเข้าห้องน้ำครั้งนึงก็มาถึงจุดหมายปลายทาง ตรงที่จอดรถมีร้านค้าเรียงรายอยู่กะว่าขากลับค่อยเดินไปดู เพราะต้องไปพบกับคุณ Naoki Sumi เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวของจังหวัดซากะที่จะพาผมสำรวจเส้นทางในหลายวันนี้

คุณนาโอกิรอผมอยู่ที่ป้ายบอกตำแหน่ง The Northwest End หรือจุดสุดท้ายของแผ่นดินญี่ปุ่นทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นกิมมิกเก๋ๆ ที่ไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีครับ แถวนี้มีอะไรให้ทำเยอะเพราะเป็นแหล่งสันทนาการมีทั้งชายหาดสำหรับเล่นน้ำทะเล แหล่งตกปลา เส้นทางเดินป่า หรือตั้งแคมป์ แต่ที่ผมตั้งใจมาโดยเฉพาะเลยก็คือประติมากรรมรูปหัวใจที่น้องๆ นักแสดงซีรี่ส์ ซากะ...ฉันจะคิดถึงเธอ เค้ามาถ่ายรูปโปรโมทลงหนังสือกัน จากตรงตำแหน่งนี้ สามารถมองเห็นวิวทะเล GenKai ได้กว้างไกล ตรงปลายแหลมมีเก้าอี้วางไว้สองตัว ถ้าได้มานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกตรงตำแหน่งนี้คงจะดี ด้านข้างของรูปหัวใจมีป้ายบอกข้อมูลเอาไว้ว่า หัวใจดวงนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Satellite of Lover’s Sanctuary ใครเป็นคู่รัก

จะไป Saga 2

 

เหมาะที่จะมา เพราะตั้งแต่ชื่อแหลมก็มาจากคำว่า Heart ที่ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า ฮา-โตะ หรือฮา-โดะ มานั่งเก้าอี้คู่กันมองวิวทะเลยามโพล้เพล้ ถ่ายรูปผ่านช่องของประติมากรรมรูปหัวใจ แค่คิดก็ก็โรแมนติกสุดๆ แล้วครับ

ด้านข้างของป้ายบอกตำแหน่งมีสะพานทอดยาวไปสู่ทะเล สุดทางมีอาคารรูปทรงกระบอกตั้งอยู่กลางน้ำ คุณนาโอกิแนะนำว่าที่นั่นคือ หอสังเกตการณ์ใต้น้ำที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมด้านในได้มีค่าใช้จ่ายท่านละ 550 เยน เด็กครึ่งราคาเป็นอาคารสูง 20 เมตร และมีส่วนที่อยู่ใต้น้ำ 7 เมตร เราเดินบันไดวนลงไปด้านล่าง ซึ่งมีสภาพเหมือนภายในเรือดำน้ำ หรือห้องทดลองใต้น้ำ มีหน้าต่างกระจกใสรวมทั้งสิ้น 24 บาน เอาไว้ชมฝูงปลา เนื่องจากทะเลแถบนี้เป็นจุดบรรจบของกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็น จึงทำให้เป็นที่ชุมนุมของปลาทะเลหลากหลายสายพันธุ์ และที่นี่ก็ยังเป็นหนึ่งในฉากของซีรี่ส์ Stay อีกด้วย ใครจะตามรอยไม่ควรพลาด

ขากลับมาที่รถ ผมขอแวะชมร้านค้าให้หายคาใจเสียหน่อย ตรงนั้นมีอาคารไม้ชั้นเดียว 2 หลัง ด้านในมีแผงขายอาหารเรียงกันอยู่ตลอด ดูเหมือนว่าทุกร้านจะขายอาหารแบบเดียวกันคือของย่าง ผมขอแวะนั่งชิมที่ร้านแรกสุด คุณแม่ค้าอัธยาศัยดีมาก อธิบายให้ฟังว่าใครมาแถบนี้ต้องลองมาชิมของขึ้นชื่อคือหอยซาซาเอะและปลาหมึก ที่นำมาย่างบนเตาด้านหน้าเคาน์เตอร์ ทั้งหอยและปลาหมึกนุ่มหนึบได้ที่ เหยาะโชยุนิดนึงรสชาติดีทีเดียว สนนราคาตกจานละ 500-600 เยน ขึ้นอยู่กับขนาดของหอยและปลาหมึก ผมสังเกตเห็นที่ด้านหลังร้านมีปลาหมึกตากอยู่ ถามคุณแม่ค้าดูถึงรู้ว่าแถวนี้เค้าชอบทานหมึกแดดเดียวกัน เพราะเวลาย่างจะอร่อยกว่าหมึกสด นอกจากนี้ยังมีของฝากจำพวกปลาหมึกและสาหร่ายหมักใส่ขวดให้ซื้อกลับบ้านอีกด้วย

จะไป Saga 2