"สรรเสริญ"ยันคดี 'ยิ่งลักษณ์' ยึดตามขั้นตอนไม่รวบรัด

โฆษกรัฐบาล เผย คดี "ยิ่งลักษณ์"  เป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีรวบรัด แนะทีมทนายอธิบายจะได้ไม่ตกข้อมูล ปรามคนกล่าวหาศาลถูกชี้นำ ระวังเข้าข่ายดูหมิ่น

วันที่ 24 ก.ย. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงถูกดำเนินคดีในประเด็นการบริหารจัดการน้ำ โดยยกเหตุผลว่าการบริหารจัดการน้ำมีมาก่อนที่รัฐบาลของตนจะมาบริหาร และมีเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายรัฐบาลไม่เฉพาะรัฐบาลเพื่อไทย ว่า อยากเรียนว่า ใครจะเคยทำก่อนหรือหลังไม่สำคัญเท่ากับการดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า การบริหารจัดการในแต่ละช่วงนั้นเป็นเช่นไร ซึ่งหากเป็นเหตุการณ์ฝนตก น้ำท่วม ตามธรรมชาติ คงไม่มีใครคิดจะดำเนินคดีใคร แต่ความบกพร่องในการบริหารจัดการ ด้วยการระบายน้ำที่ไร้การวางแผนจนเป็นเหตุทำให้น้ำท่วมขังเป็นเดือน ไล่ลงมาตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงกรุงเทพฯสร้างความเสียหายให้ประเทศมหาศาล และประเด็นการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่โปร่งใส มีข้อครหาในการจัดสรรงบประมาณเพื่อบริหารจัดการน้ำต่างหาก คือเรื่องที่ต้องพิสูจน์ และนำไปสู่การตรวจสอบเป็นคดีความ จึงอยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าใจให้ตรงประเด็น

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า คำสั่ง ม.44 ให้อำนาจกรมบังคับคดียึดทรัพย์ ถือเป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ. การรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ซึ่งสามารถดำเนินการคู่ขนานกับคดีอาญาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ และมั่นใจว่าศาลจะพิจารณาทุกอย่างโดยยุติธรรมตามหลักฐานข้อมูล ไม่มีใครหรือสิ่งใด มามีอิทธิพลหรือชี้นำการตัดสินใจของศาลได้ ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ควรระมัดระวังในการกล่าวว่าศาลจะถูกชี้นำ เพราะอาจเข้าข่ายดูหมิ่นศาล

"ขอยืนยันอีกครั้งว่าคดีความต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลนั้น เป็นการพิจารณาตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมทุกประการ ไม่ได้มีการเร่งรัด หรือดำเนินการแตกต่างไปจากคดีอื่นๆ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ควรนำไปเปรียบเทียบกับคดีความในอดีต ที่นักการเมืองแทบจะไม่เคยถูกดำเนินคดี เนื่องจากกฎหมายเอื้อมไปไม่ถึง จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ส่งผลให้คนผิดลอยนวลต่อไป เพราะรัฐบาลชุดนี้ ต้องการทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย มีมาตรฐาน และอำนวยความยุติธรรมให้ทุกคน มิใช่แต่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อยากฝากทีมทนายความว่าควรจะช่วยอธิบายให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าใจถึงการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นในอดีตจนนำมาสู่คดีความในปัจจุบัน เพราะการที่ท่านให้สัมภาษณ์ทำนอง นั่งอยู่ดีๆก็ต้องมารับเรื่องคดีทั้งหมด สะท้อนถึงการขาดข้อมูลที่ควรจะได้รับ" พล.ต.สรรเสริญกล่าว