ขายโรงแรม-สถานทูต

อสังหาฯ กลางเมืองคึกโรงแรมหรูเร่ขายตามปาร์คนายเลิศ สถานทูตอังกฤษ-ออสเตรเลีย จ่อคิว

ม.ล.สุรวุฒิ ทองแถม รองประธานอาวุโส ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ ผู้บริหารโรงแรมอมารี โอโซ และชามา เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มดุสิตเวชการซื้อโรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ ว่า เพราะการแข่งขันธุรกิจโรงแรมสูง ที่ผ่านมาไทยเน้นโปรโมทเป็นจุดหมายคุ้มค่าเงิน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาจึงเป็นกลุ่มกลาง ใช้ห้องพักราคาไม่สูง นอกจากนี้ยังไม่มีการจำกัดการสร้างโรงแรม ทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย จนโรงแรมล้นตลาดต้องแข่งตัดราคา

“โรงแรมที่เน้นบริหารด้วยมาตรฐานสูงระดับนานาชาติจึงเผชิญภาวะต้นทุนสูงแต่กำไรต่อหน่วยลดลงเรื่อยๆ เพราะราคาห้องพักไม่ได้ดีขึ้นตาม แม้มูลค่าสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้น แต่หากมีภาระเงินกู้ และกำไรการดำเนินงานลดลงเรื่อยๆ ก็อยู่ต่อไปไม่ไหว โดยเชื่อว่าหลังกรณีนี้ ยังจะมีอีกหลายโรงแรมที่ใช้เครือโรงแรมระดับนานาชาติบริหารแบบมาตรฐานสูงระดับ 4-5 ดาว ก็มีแนวคิดขายโรงแรมเช่นกัน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ย่านสุขุมวิท สาทร พัทยาเหนือ รวมถึงภูเก็ตแถบป่าตอง หาดกะรน” ม.ล.สุรวุฒิ กล่าว

แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า สถานทูตอังกฤษเตรียมนำที่ดินส่วนที่เหลือ 23 ไร่มาให้เอกชนประมูล โดยให้ซีบี ริชาร์ด เชิญชวนให้กลุ่มทุนทั้งรายเดียวและที่มีพันธมิตรเป็นบริษัท
ต่างประเทศเข้าประมูล

ทั้งนี้ คาดต้นทุนที่ดินแปลงนี้จะเสนอในราคาสูงถึงตารางวาละ 2 ล้านบาท หรือรวมทั้งแปลงจะมีมูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้สถานทูตอังกฤษเคยเปิดให้เอกชนประมูลพื้นที่ราว 9 ไร่ด้านหน้าซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลชนะประมูลและพัฒนาเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี นอกจากนั้นยังมีข่าวว่าสถานทูตออสเตรเลียย่านสาทรก็จะขาย แต่ต้องรอให้สถานทูตแห่งใหม่สร้างเสร็จก่อน

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ขณะนี้มีการเจรจาซื้อที่ดินครั้งใหญ่ของสถานทูตอังกฤษอีก 25 ไร่ ซึ่งเชื่อว่าราคาขายจะไม่ต่ำกว่าที่ดินโรงแรมสวิสโฮเต็ลฯ ที่ 1.8 ล้านบาท/ตร.ว. อย่างแน่นอน

นางนฤมล น้อยอ่ำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวันที่ 28 ก.ย. อนุมัติให้ซื้อที่ดินโครงการปาร์คนายเลิศ ถนนวิทยุ 15 ไร่ ราคา 10,800 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพแบบครบวงจรแห่งแรกของเอเชีย มูลค่า 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ประเมินราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 11,323 ล้านบาท