"แจกอาหารคนไร้บ้าน" เมื่อความปรารถนาดีกลายเป็นความเดือดร้อน?
2 ปี กระแส"แจกอาหารคนไร้บ้านที่ลานคนเมือง" วันนี้กำลังสร้างปัญหาใหม่
เรื่อง...อินทรชัย พาณิชกุล / ภาพ...โพสต์ทูเดย์
2 ปีก่อน หลังจากรถหมูแดง มูลนิธิกระจกเงา เริ่มเข้าไปแจกอาหาร เครื่องดื่ม ขนมนมเนย และยารักษาโรคแก่คนไร้บ้าน ภายใต้โครงการ Food for friends ณ ลานคนเมือง ย่านเสาชิงช้า ทุกคืนวันจันทร์ 20.00-22.00 น. เรียกเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวาง
วีรกรรมดังกล่าวจุดกระแสให้ผู้คนมากหน้าหลายตาแห่กันเข้าไปบริจาคบ้าง ส่งผลให้จำนวนคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นจากหลักสิบเป็นร้อย จากแวะเวียนมาเฉพาะวันที่มีการแจกของกลายเป็นปักหลักรอคอยไม่ไปไหน ผลกระทบตามมาคือ ปัญหาทิ้งขยะเรี่ยราดสกปรก ขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง กินเหล้าเมาเสียงดัง ทะเลาะวิวาท สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นเป็นอย่างมาก
ใครจะคิดว่า จุดเริ่มต้นจากความปรารถนาดีจะลงท้ายกลายเป็นปัญหาใหม่ที่ยากจะเยียวยา
อวสานรถหมูแดง
ปีพ.ศ.2557 รถหมูแดง มูลนิธิกระจกเงา เปิดตัวต่อสาธารณชน ภายใต้โครงการชื่อ 'Food for friends' วัตถุประสงค์เพื่อแบ่งปันอาหารเครื่องดื่ม ขนมนมเนย ข้าวของเครื่องใช้ในการดำรงชีวิต รวมถึงยารักษาโรคให้แก่กลุ่มคนไร้บ้านผู้ด้อยโอกาส หวังเป็นสื่อกลางเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างมูลนิธิกระจกเงากับกลุ่มคนไร้บ้านให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ลดช่องว่างระยะห่างให้แคบลง อันจะนำไปสู่การประสานงานส่งต่อความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบต่อไป
ช่วงเวลานั้น การปรากฎตัวของรถหมูแดง เรียกความสนใจจากสังคมได้ไม่น้อย ปลุกกระแสให้ดารา คนดัง ผู้ใจบุญทั้งหลาย หลั่งไหลเข้ามาบริจาคของกันอย่างล้นหลาม กระทั่งจำนวนคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ที่มาแจก
สิทธิพล ชูประจง หัวหน้าโครงการ Food for friends มูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า วันนี้รถหมูแดงไม่ได้แจกอาหารคนไร้บ้านที่ลานคนเมืองอีกต่อไปแล้ว หลังจากพบปัญหามากมายหลายประการ
"ภาพรวมในปัจจุบันมีความวุ่นวายมาก 1.มีผู้เข้ามาบริจาคหลายกลุ่ม ซึ่งการแจกค่อนข้างไร้ระเบียบ ขาดการวางแผนบริหารจัดการ เช่น กลุ่มหนึ่งยืนแจกอาหารที่ลานคนเมือง อีกกลุ่มมาถึงก็จอดรถแจกตรงฝั่งเสาชิงช้า คนไร้บ้านจึงวิ่งกรูกันไปแย่งรับของ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการทิ้งขยะเรี่ยราด สร้างความสกปรก เพราะหลังแจกเสร็จ ไม่มีถังขยะรองรับ หรือเดินตรวจตราเก็บกวาดให้เรียบร้อย 3.หลังจากทราบว่ามีการแจกของที่ลานคนเมืองทุกวัน ทำให้คนไร้บ้านจำนวนมากเข้ามาปักหลักรอรับของบริจาคไม่ไปไหน เกิดปัญหาตามมาคือ ไปนอนหน้าเกะกะหน้าบ้านคนอื่น ทิ้งขยะ ขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง บางกลุ่มตั้งวงกินเหล้าเสียงดัง ทะเลาะวิวาทกันเอง ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัย
4.เริ่มมีการตั้งกลุ่มคล้ายมาเฟีย โดยคนไร้บ้านที่มีลักษณะเป็นหัวโจกจะจัดระเบียบกันเองด้วยการใช้ความรุนแรง มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ เช่น ให้พวกพ้องตัวเองแซงคิวเพื่อรับของก่อน หรือนำของแจกบางส่วนไปขายต่ออีกทอดหนึ่้ง ระยะหลังเริ่มมีการเข้ามาต่อว่าพวกเราว่าชักช้า ไม่ทันใจ เหมือนไปแย่งบทบาทการจัดการของพวกเขา โต้เถียงปะทะคารมกัน สุดท้ายคุยไม่รู้เรื่อง เลยตัดสินใจย้ายมาแจกที่บ้านอิ่มใจ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เนื่องจากเป็นสถานที่ปิดซึ่งกทม.จัดเตรียมไว้ให้ สามารถดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ง่ายกว่าลานคนเมือง"
ในฐานะผู้ดูแลรับผิดชอบรถหมูแดง สิทธิพลยอมรับว่า รู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้เกิดกระแสการแจกของคนไร้บ้านที่ลานคนเมือง จนเกิดปัญหาความวุ่นวายตามมาดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ความเดือดร้อนของชาวเสาชิงช้า
ชัชวาลย์ เสียงสุทธิวงศ์ ชาวบ้านย่านเสาชิงช้า มองว่า การแจกอาหารคนไร้บ้านที่ลานคนเมือง บัดนี้กลายเป็น'เทรนด์'ไปแล้ว
"คืนนึงไม่ต่ำกว่า 10 เจ้า แจกกันเกลื่อนมาก แจกกันจนเหลือกินเหลือใช้ ทั้งมูลนิธิ ชมรม กลุ่มต่างๆ รวมถึงคนที่อยากจะทำบุญ พอมีมาแจกทุกวัน คนไร้บ้านจากที่อื่นก็แห่กันมามืดฟ้ามัวดิน จากสมัยก่อนมีแต่ขาประจำหน้าเดิมๆไม่ถึงสิบคน เดี๋ยวนี้เป็นร้อย พอมาแล้วก็ไม่ไปไหน วันๆเดินเตร็ดเตร่ กินเหล้า ไล่ตีกันเอง ยิ่งวันไหนมีการแจกของกันเยอะๆ ขยะจะเยอะมาก ขี้เยี่ยวตามซอกซอย ตามพุ่มไม้เหม็นไปทั่วจนคนแถวนี้ต้องตื่นมาล้างแทบทุกวัน สิ่งที่เห็นได้ชัดๆอีกอย่างคือ จะมีกลุ่มชายฉกรรจ์ขี่มอเตอร์ไซค์มาอำนวยความสะดวก ช่วยยกของ แจกของ จัดแถว พอเห็นพวกปลากระป๋อง นมกล่อง น้ำขวด ข้าวสาร ขนมปัง ก็แยกไปขาย ส่วนข้าวกล่องก็ให้คนไร้บ้าน ซึ่งหลายคนก็ไม่ใช่คนไร้บ้านจริงๆ ขี่มอเตอร์ไซค์มาก็มี คนที่มาแจกเขาก็ไม่รู้หรอกว่ากำลังแจกให้ใครอยู่"
ที่ผ่านมาชุมชนละแวกนี้ล้วนได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะเรื่องความสกปรกและหวั่นเกรงความไม่ปลอดภัย ถึงขั้นเครียด ปรับทุกข์ รวมตัวกันไปร้องเรียนต่อสถานีตำรวจนครสำราญราษฎร์ สำนักงานเขตพระนคร รวมทั้งกรุงเทพมหานคร (กทม.) กระนั้นการแจกอาหารก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง
"สิ่งที่พวกเราต้องการตอนนี้คือ ไม่อยากให้มีการแจกของที่นี่อีกแล้ว เพราะมันมากเกินไป ไม่ใช่ว่าใจจืดใจดำ แต่ตอนนี้มันมั่วไปหมดแล้ว เดี๋ยวกลุ่มโน้นกลุ่มนี้มา คนไร้บ้านแปลกหน้าก็เพิ่มขึ้น อยากให้ไปแจกกันในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้จะได้เป็นระเบียบเรียบร้อย ควบคุมได้ง่ายกว่านี้ หรือไม่ก็บริจาคผ่านมูลนิธิที่น่าเชื่อถือได้ ไม่ใช่มาแจกกันสะเปะสะปะอย่างที่เป็นอยู่"
นี่คือเสียงสะท้อนของชาวบ้านย่านเสาชิงช้าฝากไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
ทำบุญระวังได้บาป
หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนคนไร้บ้านที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังกทม.เพื่อให้แก้ไขปัญหามาแล้วหลายครั้งคือ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
พระราชวิจิตรปฏิภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร กล่าวว่า วัดและชุมชนหลายแห่งทั่วเขตพระนครต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแจกอาหารคนไร้บ้านที่ลานคนเมือง
"การที่รถหมูแดงมาแจกอาหารที่ลานคนเมือง เสาชิงช้า เจตนาคือต้องการสงเคราะห์คนยากจนไร้บ้าน แต่เขาไม่ได้วิจัยถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการที่มีคนไร้บ้านจำนวนมากเข้ามาพักอาศัย คนเหล่านี้ไม่ได้จรจัดแค่วันสองวัน แต่จรจัดมาเป็นสิบปียี่สิบปี ต้องขอฟ้องสังคมว่า คนพวกนี้มีพฤติกรรมดื้อด้าน กำแหง สกปรก ขับถ่ายเรี่ยราดตามกำแพง ทำให้คนไม่อยากเข้าวัด นักเรียน ชาวบ้าน พระ นักท่องเที่ยวต้องมาดมขี้ดมเยี่ยว วันไหนมีการแจกของ รุ่งขึ้นวัดสุทัศน์ต้องขอเจ้าหน้าที่จากกทม.มาทำความสะอาดกันขนานใหญ่
ยิ่งแจกบ่อยเข้ามันก็เกิดระบบเจ้าพ่อ มีหัวหน้าพรรคกระยาจกเข้ามาจัดการกันเอง ทะเลาะเบาะแว้งกัน ได้ของไม่ดีก็ด่า แจกไม่ทั่วถึงก็ด่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาคนเร่ร่อนจรจัด คนขอทาน แต่เป็นการรวบรวมคนขอทาน คนเร่ร่อนจรจัดมาไว้กลางพระนคร วันแจกของก็กลายเป็นวันชุมนุมขอทาน ชุมนุมคนขี้ลักขี้ขโมยทั่วเขตพระนคร"
พระราชวิจิตรปฏิภาณ กล่าวว่า การแจกของอย่างฉาบฉวย แทนที่จะได้บุญอาจได้บาปเป็นสิ่งตอบแทน
"อาตมาอยากทราบว่า คุณเอาปรัชญาอะไรมาแจกของคนเหล่านี้ ต้องถามว่า คนพวกนี้ยากจนเพราะบุญไม่ดี หรือยากจนเพราะไม่รักดี ยากจนเพราะความเกียจคร้าน หรือรัฐบาลบริหารงานไม่ทั่วถึง คุณเรี่ยไร ทำอาหารมาแจก แจกเสร็จแล้วก็ไป เหมือนมาขี้กองโตไว้หน้าเสาชิงช้า เมื่อมูลนิธิต่างๆทำกันอย่างฉาบฉวย ทำกันอย่างได้หน้าได้ตา แทนที่จะได้บุญกลับได้บาป เพราะคำสาปแช่งจากชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน ที่ผ่านมาเราเคยทำหนังสือเรียกร้องให้เลิกแจกของ แล้วช่วยเหลือพวกเขาให้ถูกที่ถูกทางด้วยการตรวจสอบดูว่ามีบัตรประชาชนไหม ไม่มีงานทำจริงหรือเปล่า เขามีปัญหาชีวิต มีข้อจำกัด หรือเขาเป็นคนเกียจคร้าน ไม่รับผิดชอบ ถ้าคนไร้บ้านเหล่านี้ต้องการกลับบ้าน ก็ช่วยเขาซะ ส่งกลับภูมิลำเนา ใครอยากได้งานทำก็หางานให้เขาทำ"
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ ทิ้งท้ายว่า คนไร้บ้านเร่ร่อนจรจัดเป็นปัญหาอยู่แล้ว การที่รถหมูแดง รวมถึงคนที่มาแจกต่างๆนานๆ ไม่ต่างจากตัวเสริมเร่งปัญหาให้แย่กว่าเดิม
"ไม่ว่าคุณจะไปแจกที่ไหนก็ตาม ก็จะมีคนด่าคุณ เพราะคุณไปสร้างปัญหาให้ที่นั่น คนจรจัดก็จะกรูกันไป สุดท้ายกลายเป็นปัญหาที่คุณสร้างขึ้นมาใหม่"
ขอคืนพื้นที่ลานคนเมือง
หลังมีคนจำนวนไม่น้อยหลั่งไหลกันเข้าไปแจกอาหาร เครื่องดื่ม ขนมนมเนย ข้าวของจำเป็นแก่คนไร้บ้านที่ลานคนเมือง ทางกทม.ได้เคยแก้ปัญหามาแล้วด้วยการติดป้ายประกาศข้อความว่า"ขอความกรุณาไม่แจกอาหารบริเวณพื้นที่ลานคนเมืองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป" ผลคือ ถูกกระแสคัดค้านจากผู้ไม่เห็นด้วยว่า เป็นละเมิดสิทธิในการใช้พื้นที่สาธารณะ และทำลายความสุขเล็กๆของคนไร้บ้าน
วันนี้ เมื่อลานคนเมืองตกอยู่ในภาวะไร้ระเบียบยากแก่การควบคุม กทม.จึงได้ทำการแก้ไขปัญหาอีกครั้ง โดยก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาคนไร้ที่พึ่ง เป้าหมายหลักคือ ตั้งโต๊ะรับฟังปัญหาจากคนไร้บ้านที่ต้องการความช่วยเหลือ และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนที่มาแจกของ
"เมื่อเร็วๆนี้ เราได้ประชุมหารือกับหลายฝ่าย อาทิ สน.สำราญราษฎร์ สำนักงานเขตพระนคร สำนักเทศกิจ สำนักพัฒนาสังคม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ชุมชน วัด โรงเรียนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน จนได้ข้อสรุปว่า จะตั้งศูนย์ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาคนไร้ที่พึ่ง ณ ลานคนเมือง ระหว่างวันที่ 26-30 ก.ย. เวลา 18.00 -20.00 น. เพื่อให้คนไร้บ้านเข้ามาลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ เช่น ใครอยากกลับภูมิลำเนา ใครอยากฝึกอาชีพ หางานทำ หรืออยากไปพักที่ศูนย์พักพิงต่างๆของกทม. ก็จะส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือ เราไม่ได้ไล่เขา แต่พร้อมที่จะช่วยเหลือ ซึ่งการลงทะเบียนครั้งนี้จะช่วยคัดกรองผู้ที่ไม่ใช่คนไร้บ้านออกไปจากคนไร้บ้านจริงๆ
ขณะเดียวกัน เราก็จะประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ทำความเข้าใจกับประชาชนที่มาแจกอาหารคนไร้บ้านลานคนเมืองว่า การมาแจกของที่ลานคนเมือง ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง เช่น ลานคนเมืองเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนหลายกลุ่ม ทั้งมาพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย ทำกิจกรรม แต่พอมีคนไร้บ้านจำนวนมากเกินกว่าจะดูแลไหว ทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำกิจกรรมต่างๆเหล่านั้น ทำให้เกิดปัญหาตามมาคือ ขยะ รถติด เสียงดังรบกวนชาวบ้านในพื้นที่ ดังนั้นจึงขอความร่วมมือให้ย้ายไปแจกของในสถานที่ที่เหมาะสมที่เราจัดเตรียมไว้ให้ใหม่ เช่น บ้านอิ่มใจ ศูนย์ประชาบดี บ้านมิตรไมตรี เป็นต้น"
เป็นคำอธิบายของ กนกรัตน์ พันธ์นรา ผอ.กองกลาง สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร
ผอ.กองกลาง กทม. ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่การจัดระเบียบ แต่เป็นการขอความร่วมมือด้วยการใช้วิธีรณรงค์ขอร้องให้ประชาชนแจกในสถานที่และช่วงเวลาที่เหมาะสม
"เราจะใช้วิธีค่อยๆเป็นค่อยๆไป โดยจากนี้ไปจะให้ผู้มาแจกในเวลาไม่เกิน 20.00 น. และแจกในจุดเดียวคือ ลานคนเมืองฝั่งหน้าเสาชิงช้า กินให้อิ่มแล้วทิ้งบริเวณนั้นเลยเพื่อจะได้ทำความสะอาดง่าย นอกจากนี้การไม่แจกของในยามวิกาลจะช่วยให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ถ้าประชาชนเข้าใจแจกในสถานที่ที่เราจัดเตรียมไว้ให้ และมาแจกของที่ลานคนเมืองกันน้อยลง จำนวนคนไร้บ้านก็จะลดลง ปลายปีนี้ก็น่าจะไม่มีการแจกอาหารที่นี่อีกต่อไป ทั้งหมดนี้คาดว่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้"
เจตนารมณ์ที่แท้จริงของการแจกของให้แก่คนไร้บ้าน ณ ลานคนเมือง คือ แบ่งปันน้ำใจเพื่อบรรเทาความหิวโหย มอบความสุขแม้เพียงเศษเสี้ยวให้แก่ผู้ด้อยโอกาส ทว่าเมื่อความปรารถนาดีของคนนอกกลายเป็นความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ สิ่งสำคัญที่สุดหนีไม่พ้นการเอาใจเขามาใส่ใจเรา และร่วมกันหาทางออกที่เหมาะสมสำหรับทุกฝ่ายต่อไป