5 ธันวาฯวันชาติไทย จุดเปลี่ยนสู่ระบอบประชาธิปไตย
กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างมากต่อการจัดกิจกรรม 5 ธ.ค. ซึ่งถือเป็นวันชาติไทย
โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างมากต่อการจัดกิจกรรม 5 ธ.ค. ซึ่งถือเป็นวันชาติไทย ในอนาคตจะเป็นเช่นไรต่อไป ภายหลังสำนักพระราชวังออกประกาศว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2559
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้แจกแจงทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวว่า “อย่าเพิ่งไปพูดถึง แต่การจัดงานวันชาติของสถานทูตไทยในต่างประเทศ สามารถทำได้แต่ต้องจัดให้เล็กลงเนื่องจากเป็นภาวะทุกข์โศก” เป็นคำให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งกับสื่อมวลชน
อย่างไรก็ดี ความเป็นมาของวันชาตินั้น เดิมในอดีตกำหนดให้วันที่ 24 มิ.ย. 2475 ถือเป็นวันชาติ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นการปกครองในระบอบรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย จึงเริ่มประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2481 และเริ่มงานฉลองตั้งแต่ปี 2482
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2481 รัฐบาล พ.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา (ยศขณะนั้น) ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องวันชาติ ความว่า
“ด้วยคณะรัฐมนตรีประชุมปรึกษาและลงมติว่า วันที่ 24 มิถุนายน ย่อมถือว่าเป็นวันชาติ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง วันชาติ ลงวันที่ 18 ก.ค. 2481
อย่างไรก็ตาม หลังจากวันที่ 24 มิ.ย. ถูกกำหนดให้เป็นวันชาติและใช้มาเป็นเวลา 21 ปี ก่อนถูกยกเลิกเวลาต่อมาในรัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ โดยในวันที่ 21 พ.ค. 2503 ได้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ถือวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย ความว่า
“ด้วยคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นว่า ตามที่ได้กำหนดให้มีการเฉลิมฉลองวันชาติไทยในวันที่ 24 มิ.ย.นั้น ได้ปรากฏในภายหลังว่า มีข้อที่ไม่เหมาะสมหลายประการ ในด้านประชาชนและหนังสือพิมพ์ก็ได้เสนอแนะให้พิจารณาในเรื่องนี้หลายครั้งหลายคราว
คณะรัฐมนตรีจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณา โดยมี พล.ต.พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คณะกรรมการนี้ได้พิจารณาแล้ว เสนอความเห็นว่า ประเทศต่างๆ ได้เลือกถือวันใดวันหนึ่งที่มีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับชนในชาติต่างๆ กัน
โดยถือเอาวันประกาศเอกราชวันอิสรภาพ วันตั้งถิ่นฐาน วันสาธารณรัฐ วันสถาปนาพระราชวงศ์ บ้าง ซึ่งไม่เหมือนกัน แต่ประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติโดยทั่วไปนั้น ได้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติ เช่น ประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน ญี่ปุ่น ฯลฯ เป็นต้น
แม้ประเทศไทยเราเองก็ได้ถือเอาวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยมาแล้ว เพิ่งจะมากำหนดเอาวันที่ 24 มิ.ย. เป็นวันชาติเพิ่มขึ้นอีกวันหนึ่งในระยะหลังนี้เอง
คณะกรรมการฯ จึงมีความเห็นว่า เพื่อให้เป็นไปตามขนบประเพณีของประเทศที่พระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเป็นการสมัครสมานสามัคคีรวมจิตใจของบุคคลในชาติโดยทั่วกัน จึงสมควรจะถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยต่อไป โดยยกเลิกวันชาติในวันที่ 24 มิ.ย.เสีย
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบด้วย จึงได้ลงมติให้ยกเลิกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 18 ก.ค. 2481 เรื่องวันชาติ นั้นเสีย และให้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยด้วยต่อไปตั้งแต่บัดนี้”
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ถือวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย ลงวันที่ 21 พ.ค. 2503