รุจิรพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พัฒนาธุรกิจควบคู่คืนกลับสังคม

13 พฤศจิกายน 2559

องค์กรธุรกิจต้องการจะช่วยสังคม ช่องทางหนึ่งที่นิยมใช้กันคือการทำกิจกรรมเพื่อสังคมที่เรียกว่า Corporate Social Responsibility

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

องค์กรธุรกิจต้องการจะช่วยสังคม ช่องทางหนึ่งที่นิยมใช้กันคือการทำกิจกรรมเพื่อสังคมที่เรียกว่า Corporate Social Responsibility หรือซีเอสอาร์ แต่หลายๆ ครั้งซีเอสอาร์ที่ทำออกไปมักถูกมองว่าเป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้องค์กรเท่านั้น หาใช่มีจุดประสงค์ที่จะช่วยเหลือสังคมอย่างแท้จริงไม่

ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้บริหารของหลายองค์กรเริ่มมองหนทางใหม่ ด้วยการทำธุรกิจไปพร้อมๆ กับการช่วยสังคมได้ในเวลาเดียวกัน โดยที่ไม่ต้องมานั่งแบ่งแยกว่านี่คือการทำธุรกิจ ส่วนนี่คือการช่วยสังคม หนึ่งในผู้บริหารที่มีความคิดแรงกล้าที่อยากทำเพื่อสังคมไปพร้อมกับการทำธุรกิจก็คือ “รุจิรพรรณจึงรุ่งเรืองกิจ” ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญที่ผลักดันให้สนามพัฒนากอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท เป็นหนึ่งในสถานประกอบการตัวอย่างที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจและช่วยสังคมในเวลาเดียวกันได้ดี

รุจิรพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหาร พัฒนากอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท เล่าว่า ทางครอบครัวมีรีสอร์ทอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งสมัยที่คุณแม่สร้างรีสอร์ทนี้มาก็ใช้ชื่อของคุณพ่อ คือ “พัฒนา” มาตั้งชื่อรีสอร์ท โดยคุณพ่อชอบเล่นกอล์ฟ ตอนที่สร้างรีสอร์ทจึงสร้างสนามกอล์ฟและสนามฟุตบอลอยู่ในรีสอร์ทด้วยเลย ขณะที่สนามที่มีอยู่ก็มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะเป็นแค่สนามกอล์ฟธรรมดา เมื่อคุณพ่อเสียชีวิตไปแล้ว และในฐานะลูกที่ต้องเข้ามาช่วยคุณแม่ดูแลรีสอร์ท จึงมีความประสงค์จะหาแนวคิดที่จะสามารถใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ได้ทั้งเชิงธุรกิจและสังคม

รุจิรพรรณ เล่าต่อว่า ส่วนตัวเป็นคนชอบเล่นกีฬา ดังนั้นก็เลยตั้งต้นหาแนวคิดในการทำประโยชน์ทางธุรกิจและสังคมจากเรื่องกีฬา ผ่านการทำธุรกิจเจาะตลาดกีฬา โดยเริ่มแรกได้จัดโครงการฟุตบอล สีสันตะวันออก อุตสาหกรรมคัพ เนื่องจากรีสอร์ทตั้งอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรม จึงอยากนำสนามฟุตบอลมาใช้ประโยชน์ด้วยการจัดรายการแข่งขัน โดยดึงกลุ่มคนในนิคมอุตสาหกรรมมาแข่ง ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับดี ทำต่อเนื่องมา 6 ครั้งแล้ว จากเริ่มต้นมีทีมร่วมแข่งขัน 16 ทีม ปัจจุบันก็มี 32 ทีม

เมื่อประสบความสำเร็จจากการจัดแข่งขันฟุตบอล สีสันตะวันออก อุตสาหกรรมคัพแล้ว จึงตัดสินใจต่อยอดทำสโมสรฟุตบอลเองภายใต้ชื่อ พัฒนา ฟุตบอล คลับ หรือพัฒนาเอฟซี โดยเริ่มทำมา 2 ปีกว่าแล้ว ถือเป็นโครงการสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าการทำธุรกิจและการช่วยสังคมเป็นเรื่องเดียวกันได้

“เรามองว่าเรื่องกีฬาใช้เป็นเครื่องมือพัฒนาคนได้ โดยเฉพาะเยาวชน จึงทำโครงการเป็นเรื่องเป็นราว ตั้งสโมสรฟุตบอลพัฒนาเอฟซี ในช่วงก่อตั้งก็เปิดรับเด็กอายุ 13-14 ปี 20 คน เข้ามาในทีม จากนั้นก็ได้ขยายจนปัจจุบันมีเด็กอายุ 13-18 ปี ร่วมทีมแล้วกว่า 50 คน” รุจิรพรรณ กล่าว

ทั้งนี้ เด็กที่ร่วมทีมพัฒนาเอฟซี จะได้รับการสนับสนุนด้านการศึกษา โดยเรียนกับโรงเรียนในพื้นที่ที่เข้ามาร่วมมือกับพัฒนาเอฟซี ขณะเดียวกันก็จะได้รับประทานอาหารและมีที่พักอยู่ในรีสอร์ท ซึ่งทางพัฒนาเอฟซีกำหนดเป้าหมายจะต่อยอดเด็กเหล่านี้ไปสู่เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพในอนาคต และระหว่างทางของการปั้นเด็กๆ เหล่านี้ก็มีข้อแม้ว่าเด็กๆ จะต้องให้ความสำคัญด้านการเรียนควบคู่ไปด้วย หากเด็กหนีเรียน ผลการเรียนไม่ดี ก็จะไม่ได้รับการสนับสนุนต่อ ซึ่งก็จะทำให้เด็กๆ ทุกคนต้องพยายามพัฒนาตัวเองทั้งด้านการเรียนและด้านฟุตบอล

สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาหลังตั้งทีมพัฒนาเอฟซีมาได้กว่า 2 ปี ก็ได้ไปคว้าแชมป์ฟุตบอลระดับประเทศรุ่นอายุ 14 ปี ของกรมพลศึกษามาแล้ว ก็ทำให้พัฒนาเอฟซีมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้น มีเด็กๆ อยากเข้ามาสมัครร่วมทีมต่อเนื่อง ก็ช่วยแก้ปัญหาสังคมได้ส่วนหนึ่ง เพราะเด็กกลุ่มนี้อยู่ในการดูแลของเราตลอด ก็จะลดปัญหาการไปติดยาเสพติด หรือทำสิ่งไม่ดีจนเป็นปัญหาของสังคมได้

รุจิรพรรณ กล่าวว่า การทำธุรกิจแบบคนรุ่นใหม่คือมองธุรกิจและการพัฒนาสังคมเป็นเรื่องเดียวกัน ทั้งธุรกิจและสังคมประสบความสำเร็จไปพร้อมกันทั้งสองด้านได้ เมื่อพัฒนากอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท ทำพัฒนาเอฟซี ก็ทำให้คนรู้จักสนามกอล์ฟ สนามฟุตบอลที่มีมากขึ้น มีทีมอื่นๆ มายืมใช้สนามฟุตบอลเพื่อเก็บตัวนักกีฬา จากเดิมที่สนามฟุตบอลเคยมีการใช้งานปีละแค่ 5-6 วัน จากกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่มาใช้สถานที่จัดกิจกรรมปลายปี ก็เกิดการใช้สนามฟุตบอลเกือบทั้งปี เช่น มีทีมจากต่างชาติมายืมใช้สนามช่วงฤดูหนาว 2-3 สัปดาห์ มีการใช้สนามฟุตบอลเพื่อจัดรายการแข่งขันยาว 4-5 เดือน เป็นต้น

ปัจจุบันพัฒนากอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับทีมพัฒนาเอฟซี 10 ล้านบาท/ปี ซึ่งก็ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ในอนาคตวางแผนไว้ว่าจะพัฒนาทีมไปสู่การแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้ ส่วนรีสอร์ทก็จะเน้นทำให้เป็นจุดหมายด้านกีฬาที่ครบวงจร โดยจะลงทุนพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาเพิ่มเติมปีหน้า ขณะเดียวกันเมื่อไม่นานมานี้ได้เริ่มจัดแข่งขันไตรกีฬาเพิ่ม ซึ่งก็ทำให้มีฐานลูกค้ากลุ่มนักกีฬาเข้ามาใช้บริการเก็บตัวมากขึ้น อีกทั้งมีกลุ่มองค์กรสนใจมาจัดกิจกรรมสันทนาการ ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมที่รีสอร์ทมากขึ้นเช่นกัน

เมื่อมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะทำอะไรแล้ว ทั้งเรื่องธุรกิจและการทำเพื่อสังคมก็สามารถเป็นเรื่องเดียวกันได้ หากคิดว่าการทำซีเอสอาร์ไม่ตอบโจทย์ แนวทางของ พัฒนากอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท ก็สามารถนำไปใช้สำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจที่ช่วยสังคมไปพร้อมกันได้

Thailand Web Stat