การจ่ายค่าตอบแทน
วันนี้ผมขอชี้ประเด็นเกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทน 3 รูปแบบ คือ
โดย...ธรรมนูญ มิตรเทวิน ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท เดอะไนล์
วันนี้ผมขอชี้ประเด็นเกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทน 3 รูปแบบ คือ 1.Skill based pay หรือการจ่ายค่าตอบแทนตามทักษะ 2.Competency based pay หรือการจ่ายค่าตอบแทนตามความสามารถ
3.Performance based pay หรือการจ่ายค่าตอบแทนตามผลงาน
ทั้ง 3 รูปแบบการจ่ายค่าตอบแทนนี้มีความแตกต่างกันมาก โดยในส่วนของ Skill based pay จะใช้กับพนักงานฝีมือ ซึ่งผมเคยนำ Skill based pay ไปใช้กับโรงงานขึ้นเรือนแหวน (พลอยขึ้นแหวน) ที่ จ.จันทบุรี มาแล้ว
นอกจากนี้ โรงงานในประเทศจีนเองก็ใช้ Skill based pay กล่าวคือ คนที่มีจำนวนทักษะมากก็จะได้ค่าตอบแทนมากกว่าคนที่มีทักษะน้อย ไม่เพียงเท่านี้ ทักษะบางทักษะก็ยังมีราคาสูงกว่าบางทักษะอีกด้วย
ทางด้าน Competency based pay นั้นเหมาะกับการนำมาใช้ในกลุ่มงานวิชาชีพมากที่สุด โดยเฉพาะการใช้ในกลุ่มผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษา นักออกแบบ เป็นต้น
ขณะที่ Performance based pay คือ จ่ายตามผลงานที่เป็น Output ของงาน และ Output นั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับผลประกอบการประจำปีหรือผลประกอบการ 3 ปี โดยจะใช้ KPI เป็นตัววัด
อย่างไรก็ตาม Performance based pay มักมีปัญหาในการใช้มากมาย เพราะเราไม่เข้มงวดกับขอบเขตของ “ผลงาน” มีการนำ “Competency” หรือความสามารถมาปะปนกับ “ผลงาน” ซึ่งไม่ถูกต้อง
อีกทั้ง KPI หลายๆ ตัวก็เป็น KPI “กิจกรรม” ที่ไม่ใช่ทั้ง Lead KPI และ Lag KPI ของผลประกอบการเลย
ขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lead KPI และ Lag KPI ดังนี้
- Lead KPI เป็นดัชนีวัดผลนำ หรือเป็นดัชนีที่วัดผลกันที่สาเหตุ
- Lag KPI จะเป็นดัชนีวัดผลตาม หรือเป็นดัชนีวัดผลที่เกิดขึ้นแล้วจากการปฏิบัติงาน
หากใครยังไม่เห็นภาพก็ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดมากขึ้น ว่าอะไรจัดเป็น Lead KPI (ดัชนีวัดผลนำ) และอะไรกันที่จัดเป็น Lag KPI (ดัชนีวัดผลตาม)
ตัวอย่าง ได้แก่ ความพึงพอใจของลูกค้า จัดอยู่ในกลุ่มที่เป็นดัชนีวัดผลนำ ส่วนอัตราการเพิ่มของยอดขาย จัดว่าเป็นดัชนีวัดผลตาม
ทางด้านความพึงพอใจของพนักงาน จัดอยู่ในกลุ่มดัชนีวัดผลนำ อัตราการลางาน และอัตราการลาออก อยู่ในกลุ่มดัชนีวัดผลตาม และชั่วโมงการฝึกงานหรืออบรม จัดว่าเป็นดัชนีวัดผลนำ เป็นต้น
สรุปแล้ว Lead KPI บางตัวนั้นห่างไกลจากผลประกอบการมาก คืออ้อมมาก ดังนั้นก็ต้องตัดออกไปครับ และ KPI กลุ่มนี้ต้องมีลูกค้าประเมิน จะเป็นจากภายนอกก็ยิ่งดี จากภายในก็ได้ ถ้าเป็นผลประกอบการก็จะดีที่สุดครับ