‘อาคารศาลาไทย’ ประกาศศักดา WORLD EXPO 2010
อาคารศาลาไทย หรือ Thailand Pavilion ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเจ้าภาพในการจัดงานของไทยนับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงถ้าเทียบกับอาคารของประเทศอื่นๆ เพราะของไทยมีการลงทุนในการก่อสร้างเพียง 599 ล้านบาทบนพื้นที่3.1พันตารางเมตร แต่ปรากฎว่ามีจำนวนผู้เข้าชม 3.5 หมื่นคนต่อวัน
อาคารศาลาไทย หรือ Thailand Pavilion ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเจ้าภาพในการจัดงานของไทยนับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงถ้าเทียบกับอาคารของประเทศอื่นๆ เพราะของไทยมีการลงทุนในการก่อสร้างเพียง 599 ล้านบาทบนพื้นที่3.1พันตารางเมตร แต่ปรากฎว่ามีจำนวนผู้เข้าชม 3.5 หมื่นคนต่อวัน
โดย..ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย /รายงานจากเมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน
งานมหกรรมโลก 2010 หรือ World Expo 2010 ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีนได้เปิดฉากมานานแล้วกว่า 3 เดือน โดยงานจะไปสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค. นับได้ว่าเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของจีนหลังจากเพิ่งเป็นเจ้าภาพงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิคเมื่อปี 2008 ที่ผ่านมา
คงไม่ต้องบอกงานครั้งนี้ยิ่งใหญ่อลังการขนาดไหนเพราะทางเจ้าภาพจีนได้ลงทุนในแปรสภาพเมืองเซี่ยงไฮ้อย่างมหาศาลเพื่อรองรับคนทั่วโลกที่จะเข้ามาชมงานในครั้งนี้ ขณะที่ ในส่วนของประเทศไทยก็เป็นอีกครั้งที่ได้ร่วมจัดงานในครั้งนี้
อาคารศาลาไทย หรือ Thailand Pavilion ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเจ้าภาพในการจัดงานของไทยนับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงถ้าเทียบกับอาคารของประเทศอื่นๆ เพราะของไทยมีการลงทุนในการก่อสร้างเพียง 599 ล้านบาทบนพื้นที่3.1พันตารางเมตร แต่ปรากฎว่ามีจำนวนผู้เข้าชม 3.5 หมื่นคนต่อวัน
เทียบกับอาคารจัดแสดงของประเทศซาอุดิอาระเบียทีมีการลงทุนสูงถึง 5.7 พันล้านบาท แต่ก็มีผู้เข้าชมในจำนวนที่ไล่เลี่ยกันประมาณ 3 หมื่นคน ซึ่งอาจจะถือว่าเป็นการกลับมาแก้มือของไทยหลังจากเมื่องาน World Expo2005 ที่ประเทศญี่ปุ่นที่ผ่านมาไทยทำผลงานไม่ค่อยเป็นที่ประทับใจมากนัก
โดยวันที่ 5 ก.ย.ซึ่งถือเป็นวันชาติไทยทางนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไทยจะเดินทางมาเยี่ยมชมอาคารศาลาไทยในงาน World Expo ครั้งนี้ด้วย ซึ่งที่มาของการจัดงานวันชาติในงาน World Expo ถือว่าเป็นประเพณีปฎิบัติที่จะขาดไม่ได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับงานวันชาติที่แท้จริงของแต่ละประเทศ ในงานวันชาตินี้ไทยจะใช้เป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งเพื่อแสดงออกถึงภาพลักษณ์ของประเทศให้กับผู้ที่เข้าร่วมงานได้เห็น
ทั้งนี้ ในภาพรวมของการจัดงานของไทยที่ผ่านมา นายเกรียงไกร กาญจนโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ กล่าวถึงการจัดงานที่ผ่านมาว่า จากเป้าหมายที่กำหนดว่าจะให้มีผู้เข้าชมอาคารศาลาไทย 10 % หรือ 7 ล้านคน ของจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด ปรากฏว่าจนถึงบัดนี้มีผู้เข้าชมแล้ว 4.3 ล้านคน ด้านหนึ่งมาจากการที่เราได้มีการทำการสำรวจความต้องการของชาวจีนมาก่อนทำให้สามารถรู้ว่าคนจีนต้องการงานรูปแบบไหน
นายเกรียงไกร กล่าวว่า มั่นใจว่าในเวลาที่เหลือจะมีผู้เข้าชมเพิ่มเกินเป้าอย่างแน่นอน ซึ่งถือว่าการจัดงานครั้งนี้ประเทศไทยประสบความสำเร็จมาก โดยเฉพาะได้รับความประทับใจจากคนจีน โดยผลการสำรวจขของบริษัทเนลสันไชน่าพบว่า ผู้ที่เข้าชมอาคารศาลาไทยบอกว่ารู้สึกประทับใจ และอยากจะเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยทันทีถึง 1 ใน 3 ของชาวจีนที่มาเข้าชม
“ดังนั้นจึงคิดว่าประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะเสนอตัวเป็นจัดภาพจัดงาน เวิล์ดเอ็กซ์โป ในปี 2020 ซึ่งขณะนี้มีคู่แข่งอยู่ 7 ประเทศไทยที่เสนอตัวคือ สหรัฐอเมริกา บราซิล แคนาดา ออสเตรเลีย ฟิลิปินส์ ไทย เดนมาร์ค และไทย แต่ล่าสุดปรากฎว่าองค์การนิทรรศการนานาชาติ (บีไออี) รู้สึกประหลาดใจกับความสำเร็จของประเทศไทยที่มีผู้เข้าชมอาคารศาลาไทยมาก เกินคาด ดังนั้นหากไทยได้เป็นเจ้าภาพ คาดว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินการประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และพื้นที่ที่น่าสนใจคือ ที่จ.อยุธยา หรือชลบุรี ในพื้นที่ 1.3-1.5 พันไร่” นายเกรียงไกร กล่าว