เสนอทำ "ล้อยางประชารัฐ" ช่วยระบายยาง 3.1 แสนตัน

กรรมการบริหารการยางแห่งประเทศไทยเสนอทำ "ล้อยางประชารัฐ" จำหน่ายให้หน่วยราชการ เพื่อช่วยระบายยางในสต็อก

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. นายสาย อิ่นคำ กรรมการบริหารการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคายางภายในประเทศขณะนี้พบว่ามีราคากระเตื้องขึ้นเป็นระยะ ช่วงก่อนจะถึงเทศกาลตรุษจีน แต่พอถึงช่วงตรุษจีนราคาลดลงอีก กก.ละ 2-3 บาท เนื่องจากเทศกาลตรุษจีน ทางโรงงานรับซื้อยางพารา แรงงาน ตลอดจนระบบขนส่งต่างๆ หยุดทำงานทั้งหมด จึงทำให้ราคายางลดลง ก่อนจะกลับมากระเตื้องขึ้นอีกครั้งเมื่อผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีน

นายสายกล่าวอีกว่า ในการประชุมบอร์ด กยท. เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมา ได้เสนอให้รัฐบาลมีการจัดทำโครงการล้อยางประชารัฐ คือการนำยางในสต๊อกที่มีอยู่จำนวน 3.1 หมื่นตัน โดยนำส่วนหนึ่งเพื่อออกมาแปรรูปผลิตเป็นล้อยางรถยนต์ประเภทต่างๆ เช่น รถบรรทุกสิบล้อ รถบรรทุกหกล้อ รถกระบะ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ เพื่อจำหน่ายให้แก่หน่วยงานของรัฐทั่วประเทศ ด้วยการขายผ่านระบบกลไกของ กยท.แต่ละจังหวัด ผอ.กยท. จะเป็นผู้ประสานงานในเรื่องการจำหน่าย หากทาง กยท.จังหวัด ไม่สามารถดำเนินการได้คงจะต้องพิจารณาตนเองเพราะโครงการนี้เป็นภารกิจที่ช่วยเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศ

"ทุกวันนี้ทุกอาชีพทั้งข้าราชการ เกษตรกร หรือนักธุรกิจต่างๆ ก็ต้องใช้รถยนต์ และรถยนต์ทุกคันต้องใช้ล้อรถที่ทำมาจากยางพาราคันละ 4 เส้น เช่น เกษตรกรชาวสวนยางครอบครัวหนึ่งจะมีรถกระบะอย่างน้อยครอบครับละ 2 คัน ต้องใช้ล้อรถยางพารา 8 เส้น ไม่รวมรถจักรยานยนต์อย่างน้อยครอบครัวละ 2-4 คันๆ ละ 2 เส้น เกษตรกรทั่วประเทศมีจำนวนประมาณ 1.6 ล้านครอบครัว ฐานเกษตรกรเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้บริโภคใหญ่มาก ซึ่งโครงการล้อยางประชารัฐจะช่วยให้ยางในสต๊อกมีการระบายออกทำให้กลไกการตลาดขยับไปทั้งระบบ"นายสายกล่าว

นายสายกล่าวว่า ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับโครงการนี้คือ 1.ใช้วัตถุดิบจากยางพาราภายในประเทศจะกระตุ้นให้ราคายางสูงขึ้น 2.คนไทยและเกษตรกรชาวสวนยางได้ใช้สิ่งของที่มีส่วนร่วมในการผลิตและเป็นเจ้าของทำให้เกิดความภาคภูมิใจ และ 3.ประเทศประหยัดการนำเข้ายางรถยนต์ ทำให้มีงบประมาณเหลือไปใช้บริหารด้านอื่นๆ ได้

นอกจากนี้กรณีที่เกษตรกรชาวสวนยางไม่มีเงินซื้อล้อยางรถก็จะสามารถนำผลผลิตยางพาราที่มีอยู่ไปแลกกับล้อยางรถได้