ตำรวจเชื่อประชาชนเข้าใจการทำงานจนท.ค้นธรรมกาย
ตำรวจเชื่อประชาชนเข้าใจเจ้าหน้าที่ค้นธรรมกายเอาตัวคนผิด ไม่ใช่ทำลายศาสนา มั่นใจปรับผอ.สำนักพุทธฯใหม่ทำงานง่ายขึ้น
ตำรวจเชื่อประชาชนเข้าใจเจ้าหน้าที่ค้นธรรมกายเอาตัวคนผิด ไม่ใช่ทำลายศาสนา มั่นใจปรับผอ.สำนักพุทธฯใหม่ทำงานง่ายขึ้น
พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโยและการเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกาย ว่า หลังการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้พบว่า พระภิกษุและประชาชนที่อยู่ภายในวัดลดลง ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าต้องการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ไม่ได้ต้องการปิดวัดและทำลายพระพุทธศาสนา สำหรับการเข้าตรวจค้นภายในวัดธรรมกายขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการเจรจาโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับทางวัดพระธรรมกาย และความไม่เข้าใจของมวลชน เนื่องจากมีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นเรื่องของศาสนา เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องอ่อนไหวที่สามารถชักจูงมวลชนได้ง่าย
ส่วนจะสามารถเข้าตรวจค้นภายในวัดได้เมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับการปรับแผนปฏิบัติงานของอธิบดีดีเอสไอ สำหรับการเปลี่ยนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นั้น เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกายมีความเป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีความคืบหน้าภายในสัปดาห์นี้
สำหรับการตั้งข้อสังเกตว่า มวลชนผู้สนับสนุนวัดพระธรรมกายที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ เป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น มวลชนกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์ ที่มีการเคลื่อนไหวด้านการเมืองอยู่แล้ว โดยเป็นกลุ่มการ์ดที่อยู่ภายนอกพื้นที่วัดพระธรรมกาย
พล.ต.ท.ชาญเทพ ระบุว่า กรณีการจับกุมอดีตนายตำรวจ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ เภตะนันท์ ซึ่งตรวจรถพบของกลางเป็นเสื้อเกราะ มีด และแผ่นกระดาษเขียนข้อความยกย่องนายอนวัช ธนเจริญณัชนั้นจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นการเคลื่อนไหว ที่กระทำแบบส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด