เขาชะโงกแห่งความหลัง

02 เมษายน 2560

สัปดาห์หน้า จะเป็นวาระครบรอบ 100 ปี ของการประกาศสงครามต่อเยอรมนีของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2460

โดย...กรกิจ ดิษฐาน

สัปดาห์หน้า จะเป็นวาระครบรอบ 100 ปี ของการประกาศสงครามต่อเยอรมนีของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2460 เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นการสิ้นสุดนโยบายไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดอันยาวนานของสหรัฐ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสมรภูมิในยุโรป

ส่วนสยามประกาศสงครามกับเยอรมนีและออสเตรีย-ฮังการี เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2460 กว่าจะออกเดินทางก็ปาเข้าไป พ.ศ. 2461 และเมื่อไปถึงก็ใกล้ที่จะรบกันเสร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม ทหารสยามก็มีส่วนร่วมไม่น้อย และสร้างเกียรติภูมิจนเป็นที่ประจักษ์ในเหตุการณ์ครั้งนั้น

สำหรับผู้ที่ชอบทางพระทางเจ้า สงครามโลกครั้งที่ 1 มีแง่มุมในทางธรรมเหมือนกัน เช่น กรณีที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงถอดพระเทพโมลี (สิริจันโท จันทร์) วัดบรมนิวาสวรวิหาร ออกจากสมณศักดิ์ เหตุเพราะท่านแสดงธรรมเทศนาเรื่อง “ธรรมวิจยานุศาสน์” ขึ้นต้นกระทู้ธรรมว่า

สุวิชาโน ภวํ โหติ ทุวิชาโน ปราภโว ธมฺมกาโม ภวํ โหติ ธมฺมเทสฺสี ปราภโวฯ

แล้วประณามการวิชาที่ยังให้เกิดสงครามเป็น “ทุวิชาโน ปราภโว” คือ ความรู้ชั่ว ย่อมเป็นเข็มทิศชี้ทางให้เกิดความเสื่อมทราม และสงครามเป็นการ “มุ่งแต่จะวางอำนาจจนถึงพร้อมกันประกาศสงครามเข้าสัมประหารชิงชัยซึ่งกันและกัน ลุกลามไปทั่วทั้งโลก ล้มตายกันด้วยศัสตราวุธก็นับไม่ถ้วน ล้มตายเสีย”

จะเห็นได้ว่า คำเทศนานี้กระทบกระเทือนนโยบายส่งทหารไปรบในสมรภูมิยุโรปของรัชกาลที่ 6 จึงทรงถอดสมณศักดิ์ของพระเทพโมลีเสีย หากในกาลต่อมาเมื่อสงครามสงบแล้ว ก็ทรงโปรดเกล้าฯ ให้แต่งตั้งพระเทพโมลีขึ้นใหม่ ทั้งยังยกให้เป็นถึงพระอุบาลีคุณูปมาจารย์

พูดถึงเรื่องสงครามโลก ผู้เขียนไม่ได้มีวาสนาได้ประสบกับเขา เพียงแต่เฉียดๆ สถานที่ที่เคยเป็นแดนทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาที่ไทยแลนด์กับญี่ปุ่น “รักใคร่” ปานจะกลืนกิน... (เลือดกินเนื้อ)

นึกถึงตอนยังเด็ก เคยอาศัยอยู่กับญาติผู้ใหญ่ที่เคารพที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) จ.นครนายก ตอนนั้น จปร.เพิ่งย้ายจากกรุงเทพฯ มาเขาชะโงกได้สัก 2-3 ปี สภาพใหม่เอี่ยมราวกับยกนิคมสุดหรูในเมืองกรุงมาไว้ที่กลางหุบเขา ตอนนั้น จปร.มีแต่เด็กๆ เต็มไปหมด ลูกหลานเจ้าหน้าที่/นายทหารย้ายมาจากกรุงเทพฯ  พวกเรามีอะไรสนุกๆ ทำกันเยอะมาก ยิ่งแถบเขาชะโงกมีเรื่องลี้ลับค่อนข้างเยอะ เราก็มักไปประลองความกล้าของตัวเองกันบ่อยๆ นัยว่าลูกหลานทหารต้องโชว์ความใจกล้าว่างั้นเถอะ

เรื่องแปลกๆ เรื่องหนึ่งของเขาชะโงกคือ สมบัติญี่ปุ่นกับผีญี่ปุ่น เรื่องผีเป็นอะไรที่สร้างความเพลิดเพลินให้พวกเรามาตลอด ทั้งผีไทยผีเขมรรุ่นเจ้าพ่อขุนด่าน รวมผีญี่ปุ่นรุ่นสงครามโลก เพราะที่ราบระหว่างเขาชะโงกเขาฝาละมี/เขาทุเรียน เคยเป็นที่ตั้งของกองพลที่ 37 ของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนี้ก็ยังมีอนุสรณ์สถานกองพลทหารญี่ปุ่น ที่วัดพราหมณี แถมยังมีตำนานรักขนมโมจิของซาโต้ นายทหารหนุ่มญี่ปุ่นกับ น.ส.พันนา แม่ค้าขนมชาวนครนายก เรื่องนี้เป็นตำนานที่น่าอิ่มเอมกว่าคู่กรรมอีกเพราะเป็นตำนานที่กินได้

ตอนญี่ปุ่นแพ้สงคราม มีทหารญี่ปุ่นไม่ยอมแพ้ ปีนเขาชะโงกกับเขารอบๆ กระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายกันก็มาก ส่วนที่ตายระหว่างสงครามก็น่าจะไม่น้อย เลยมีเรื่องเล่าผีๆ ใน จปร.ค่อนข้างมาก แต่ผมจำไม่ได้ค่อยได้ว่าอะไรบ้าง รู้สึกจะมีเรื่องผีญี่ปุ่นเดินสวนสนามตอนดึกๆ อะไรทำนองนี้ ซึ่งตอนเช้ามืดประมาณตี 4-5 นักเรียนนายร้อยบ้าง ทหารเกณฑ์บ้างจะรวมพลออกมาวิ่ง เด็กๆ ก็จะคอยแอบมองว่า ที่วิ่งท่ามกลางความมืดน่ะทหารไทยหรือทหารญี่ปุ่นกันแน่ จะว่าไปก็เป็นความตื่นเต้นอย่างหนึ่ง

ลือกันว่าญี่ปุ่นใช้เขาทุเรียนฝังสมบัติมหาศาลที่ยึดมาได้ช่วงรุกรานเอเชีย เขาทุเรียนอยู่ตรงข้ามกับเขาชะโงก มีหน้าผาตั้งเป็นแนวแผ่นกว้างที่ยอด ลือกันว่าตรงนั้นไม่ใช่หิน แต่เป็นปูนที่ญี่ปุ่นโบกปิดปากถ้ำสมบัติไว้ แล้ววางกับระเบิดไว้ ถ้าผมจำไม่ผิดก่อนสร้าง จปร. มีคนพยายามจะระเบิดหน้าผาแต่ไม่สำเร็จ พวกญี่ปุ่นก็พากันมาที่แถวๆ จปร.กันตลอด มาแล้วก็คอยสอดส่องดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนชาวบ้านว่ากันว่า พวกนี้แอบมาล่าสมบัติตามลายแทง

หลังจากสร้าง จปร. แล้วก็ไม่มีใครมาวุ่นวาย แต่ได้ยินว่าฝ่ายไทยก็พยายามค้นหาแต่ก็ไม่เจอ

นครนายกเป็นเมืองที่ประหลาดมาก ฟ้าผ่ารุนแรงสุด เกิดมาไม่เคยเจอที่ไหนฟ้าลงน่ากลัวเท่าที่นี่อีกแล้ว จนเดี๋ยวนี้กลายเป็นความชาชิน ต่อให้เจอฟ้าผ่าซึ่งๆ หน้าก็เฉยๆ เพราะที่ จปร.แรงสุดๆ แบบไร้เทียมทาน ไม่รู้เพราะทำไม อาจเพราะแร่ธาตุแถวนั้นเยอะดึงกระแสไฟฟ้าลงมาง่าย อีกเรื่องก็คือสัญญาณโทรศัพท์แถวนั้นไม่ค่อยดี ไม่รู้จะเกี่ยวกับแร่ธาตุใต้ดินหรือเปล่า ทำให้ จปร.เป็นมุมอับคล้ายแดนสนธยาคือสัญญาณสื่อสารก็ไม่ดี แถมฟ้ายังแรงอีก

ตอนนี้ จปร.เปลี่ยนไปมากกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีกิจกรรมให้คนนอกเข้ามาเล่นสนุกๆ มากมาย แต่ก่อนนี้เป็นเหมือนสวนสนุกเฉพาะเด็กๆ ลูกหลานข้าราชการที่นั่น  

Thailand Web Stat