ซัมซุงเร่งเครื่องรถไร้คนขับ

ในช่วงปีที่ผ่านมา ซัมซุงเผชิญวิกฤตอันหนักหน่วงมาโดยตลอด ไม่ว่าจะทั้งการที่บรรดาผู้บริหารบริษัทเข้าไปมีส่วนพัวพันกับคดีอื้อฉาวของอดีตประธานาธิบดี ปาร์กกึนเฮ หรือปัญหาแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนเรือธง กาแล็คซี่ โน้ต 7 ติดไฟลุกไหม้ จนเสียค่าเรียกเก็บคืนไปจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังต้องจ่ายค่าบทเรียนราคาแพงด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมาเป็นเวลานานของบริษัท

แต่ล่าสุด ซัมซุงพร้อมมุ่งคว้าโอกาสธุรกิจครั้งใหม่อีกครั้ง โดยเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจยานยนต์ไร้คนขับ หลังได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้เริ่มทดสอบรถยนต์ไร้คนขับได้ในเกาหลีใต้

สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า รถยนต์ไร้คนขับที่ซัมซุงจะทดสอบนั้น เป็นรถที่ผลิตโดยบริษัท ฮุนได บริษัทรถยนต์รายใหญ่ของเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์เรียบร้อยแล้ว

ด้านกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และคมนาคม ของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ซัมซุงเป็นบริษัทเทคโนโลยีแห่งแรกที่ได้รับใบอนุญาตทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนท้องถนนของประเทศ โดยก่อนหน้านี้ทางกระทรวงผ่านใบอนุมัติให้ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง ฮุนได และเกีย รวมถึงสถาบันวิจัยอื่นๆ

ซีเอ็นเอ็น มันนี่ รายงานว่า ซัมซุงดูจะมุ่งเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ไร้คนขับมากกว่าต้องการผลิตยานยนต์ไร้คนขับเสียเอง โดยเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา บรรดาผู้บริหารจากซัมซุงและฮาร์มาน หารือแผนการสร้างแพลตฟอร์มยานยนต์ไร้คนขับ เพื่อจำหน่ายให้บริษัทผลิตรถยนต์โดยเฉพาะ

ซัมซุงก่อตั้งหน่วยรถยนต์ไร้คนขับเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวโดยเฉพาะในปี 2015 หลังจากนั้นเมื่อเดือน พ.ย. 2016 ซัมซุงได้ซื้อบริษัท ฮาร์มาน สัญชาติอเมริกัน ซึ่งพัฒนาซอฟต์แวร์และชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์อัจฉริยะมูลค่า 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.75 แสนล้านบาท) ถัดมาในเดือน ก.พ. ซัมซุงเข้าลงทุนในเททราวู บริษัท พัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งใช้ระบุความผิดปกติของรถยนต์ไร้คนขับ

อย่างไรก็ตาม แม้ซัมซุงเป็นบริษัทไอทีรายแรกที่ได้รับอนุญาตดังกล่าวในเกาหลีใต้ แต่ ซงมยองซบ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เอชไอ อินเวสต์เมนต์ แอนด์ ซิเคียวริตี้ส์ มองว่า ซัมซุงเข้าสู่ธุรกิจยานยนต์ไร้คนขับช้ากว่าบริษัทอื่นๆ โดยการเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวนับเป็นความพยายามของซัมซุงในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์อิเล็กทรอนิกส์

ปัจจุบันบริษัทไอทียักษ์ใหญ่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น กูเกิล แอปเปิ้ล และไป่ตู้ รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังอย่าง จีเอ็ม ฟอร์ด และบริษัทให้บริการไรด์-แชริ่ง เช่น อูเบอร์ และตีตี้ ต่างตบเท้าเข้าแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ไร้คนขับอย่างคับคั่ง