‘โอกินาวา’ สวรรค์ของคนรักทะเล จุดหมายปลายทางของนักดำนำทั่วโลก
ประเทศญี่ปุ่นมีภูมิประเทศเป็นเกาะน้อยใหญ่ รวมกันแล้วกว่า 3,000 เกาะ ขนาบด้วยทะเลทั้งสองฝั่ง คือ
โดย...ทีมงานโลก360องศา
ประเทศญี่ปุ่นมีภูมิประเทศเป็นเกาะน้อยใหญ่ รวมกันแล้วกว่า 3,000 เกาะ ขนาบด้วยทะเลทั้งสองฝั่ง คือ ทะเลญี่ปุ่นทางฝั่งตะวันตก และทะเลแปซิฟิกทางฝั่งตะวันออก แต่ภาพการเดินทางไปท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่ปรากฏสู่สายตาผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งสื่อออนไลน์ มีภาพชายหาด ท้องทะเลสวยๆ น้อยมาก
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าประการแรกเป็นเหตุผลทางด้านธรณีวิทยา เนื่องจากเกาะหลักๆ ของญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย เกาะฮอนชู เกาะชิโกกุ และเกาะคิวชู มีภูมิประเทศประมาณ 70% เป็นภูเขา และใต้ดินลึกลงไป ประกอบไปด้วยชั้นหินหนา รวมถึงหินลาวาที่แข็งตัวแล้ว ดังนั้นชายฝั่งทะเลของญี่ปุ่นส่วนมากจึงเป็นแนวโขดหิน มีหาดทรายแทรกตัวเป็นระยะทางสั้นๆ และทรายมีลักษณะเป็นกรวดหยาบๆ ไม่ละเอียด มีสีคล้ำจากแร่ธาตุภูเขาไฟ ด้วยเหตุนี้ชายหาดส่วนมาก จึงไม่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนท้องถิ่นเท่านั้น
ประการที่สอง ก็คือ ประเทศญี่ปุ่นเผชิญภัยพิบัติบ่อย ทั้งแผ่นดินไหว ดินถล่ม และน้ำท่วม ส่งผลให้ลักษณะการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือน จะนิยมตั้งบริเวณที่ราบชายฝั่ง เพราะมีความเสี่ยงน้อยกว่าการอยู่ใกล้ภูเขา ทำให้ชายหาดที่เคยมีอยู่ถูกรุกล้ำแปรเปลี่ยนเป็นเขตที่อยู่อาศัยและเขตอุตสาหกรรม พื้นที่ชายหาดในญี่ปุ่นจึงลดลงทุกปี
ขณะเดียวกันชาวญี่ปุ่นเองไม่นิยมเที่ยวทะเลในประเทศ เพราะประเทศมีฤดูร้อนเหมาะแก่การเล่นน้ำทะเลอันแสนสั้นตั้งแต่เดือน พ.ค.-ส.ค.เท่านั้น หลังจากนั้นจะเข้าสู่ฤดูมรสุมและฤดูหนาว ด้วยเหตุนี้ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมไปเที่ยวทะเลในต่างประเทศมากกว่า เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเกาะฮาวาย ที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ทุกอย่างก็ย่อมมีข้อยกเว้นเสมอ “โอกินาวา” ก็เช่นกันที่มีความผิดแผกแตกต่างจากเกาะทั้งมวลในญี่ปุ่น ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเอง ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะที่ตั้งของเกาะโอกินาวาอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร จึงมีภูมิอากาศแบบกึ่งเขตร้อน ลมหนาวจากแผ่นดินใหญ่พัดพามาถึงที่นี่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โอกินาวาจึงมีฤดูร้อนยาวนานที่สุดในญี่ปุ่น
“โอกินาวา” มีน้ำทะเลสีฟ้าใสสะอาดตัดกับชายหาดสีขาวทอดยาว ซึ่งข้อมูลทางธรณีวิทยาระบุว่า เกาะแห่งนี้เกิดขึ้นจากการยกตัวของแผ่นดินใต้ทะเล ซึ่งเคยมีการทับถมของปะการังนับล้านๆ ปีที่ย่อยสลาย จนกลายมาเป็นส่วนประกอบหลักของทรายสีขาวนวล และที่สำคัญ คือ โอกินาวามีอากาศบริสุทธิ์และเงียบสงบ เพราะที่นี่ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม มีประชากรเบาบาง และยังมีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
ที่ดี นักท่องเที่ยวจึงนิยมทำกิจกรรมทางน้ำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำดูปะการังและฝูงปลา พายเรือคายัก และนอนพักโฮมสเตย์
สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลบนเกาะโอกินาวามีหลายแห่ง ที่มีชื่อเสียงและไม่ควรพลาด คือ แหลม “มันซาโม” (Cape Manzamo) มีลักษณะคล้ายเป็นเหมือนหัวช้างยืนลงไปในทะเล เกิดจากการกัดกร่อนของน้ำทะเลและสายลม ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงพระอาทิตย์ตกดินจะสวยงามที่สุด
ตลาดปลา Tomari ศูนย์กลางการค้าส่งปลาที่ใหญ่ที่สุดในโอกินาวา
“โอกินาวา” เป็นจุดหมายปลายทางแห่งหนึ่งที่อยู่ในใจของนักดำน้ำจากทั่วโลก เพราะมีแนวปะการังทอดตัวยาวกว่า 1,000 กม. เกิดจากแนวปะการังของโอกินาวารวมกับหมู่เกาะริวกิว จึงเป็นจุดดำน้ำที่สำคัญเทียบเท่าได้กับเกรตแบร์ริเออร์รีฟ ในประเทศออสเตรเลีย หมู่เกาะบาฮามาส และหมู่เกาะกาลาปากอส
ส่วนคนที่ไม่อยากดำน้ำ แต่อยากสัมผัสชีวิตในท้องทะเลอย่างตื่นตาตื่นใจแบบไม่เปียก ก็ต้องเข้าชมที่พิพิธ ภัณฑ์ สัตว์น้ำ “ชูราอูมิ” (Okinawa Churaumi Aquarium) ตั้งอยู่ที่เมืองโมตาบุ (Motabu) ทางตอนเหนือของเกาะโอกินาวา ห่างจากเมืองหลวงนาฮะประมาณ 80 กม.
คำว่า “ชูราอูมิ” ก็คือชื่อที่ประชาชนร่วมกันตั้งให้ ซึ่งคำว่า “ชูรา” เป็นภาษาถิ่นโอกินาวา แปลว่าสวยงาม หรือสง่างาม ส่วนคำว่า “อูมิ” เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “มหาสมุทร” ส่วนที่เป็นไฮไลต์สำคัญได้รับความสนใจมากที่สุดของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ ก็คือ ส่วนจัดแสดงที่เรียกว่า “คุโรชิโอะ ซี” (Kuro shio Sea) ซึ่งเป็นตู้ปลาแบบโปร่งใสขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีความสูง 35 เมตร ยาว 24 เมตร และมีกระจกอะครีลิกหนาถึง 2 ฟุต ภายในสามารถบรรจุน้ำได้ถึง 1.981 ล้านแกลลอน ที่นี่จะได้เห็นการแหวกว่ายของปลาฉลามวาฬขนาดยาวกว่า 5 เมตร ซึ่งในหมู่นักดำน้ำยกย่องให้ปลาชนิดนี้เป็นหนึ่งใน Big Five แห่งท้องทะเล ดังนั้นนักดำน้ำทุกคนจึงใฝ่ฝันว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องได้ดำน้ำเคียงคู่ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเลตัวนี้ให้ได้ นอกจากปลาฉลามวาฬแล้ว ยังมีปลาสายพันธุ์หายากที่น่าสนใจอีก เช่น ปลาฉลามทราย ปลากระเบนราหู ปลากระเบนลายเสือ และปลาโรนัน หนึ่งในสายพันธุ์ปลาที่กำลังลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วในท้องทะเลไทย
“คุโรชิโอะ ซี” (Kuroshio Sea) ตู้ปลาแบบโปร่งใสขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
นอกจากชายหาดและท้องทะเลที่สวยงามแล้ว โอกินาวายังมีตลาดปลาอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะตลาดปลา Tomari ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าส่งปลาที่ใหญ่ที่สุดในโอกินาวา ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมบรรยากาศของการประมูลปลาได้ ตลาดปลาแห่งนี้ คือ ส่วนหนึ่งของท่าเรือโทมาริ ศูนย์กลางการขนส่งทางทะเลของโอกินาวา ในทุกๆ เช้าเริ่มตั้งแต่ประมาณตี 3 เรือประมงจะนำปลามาส่งที่ท่าเรือ พอถึงตี 5 พ่อค้าส่งก็จะมารอประมูลปลาก่อนที่จะส่งปลาไปตามภัตตาคารแล้วก็ร้านอาหารที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง
ทุกๆ วันจะมีปริมาณสัตว์ทะเลที่ถูกขนส่งมายังตลาดแห่งนี้ เฉลี่ยประมาณ 20-50 ตัน ในจำนวนนี้กว่า 70% จะเป็นปลาทูน่า และที่เหลือคือปลาขนาดเล็กและสัตว์ทะเลมีเปลือก
ตลาดปลาอีกแห่งที่มีชื่อเสียง คือ ตลาดปลาอวาเซะ (Awase) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของเกาะ ใกล้กับฐานทัพอเมริกา จึงเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติมากกว่าตลาดโทมาริ หลังจากดูปลาในตลาดแห่งนี้แล้ว หากนักท่องเที่ยวต้องการจะลองลิ้มชิมรส ก็จะมีร้านค้าปลีกให้บริการ เช่น หอยนางรม ใส่น้ำมะนาว ใส่ซอส รับประทานแบบสดๆ หรือจะลองปลาดิบ ปลาย่าง หมึกย่าง ก็มีให้บริการ สนนราคาถูกกว่าในโตเกียวเพราะอยู่ในพื้นที่
ภาพรวมของการไปท่องเที่ยวโอกินาวาในหลากหลายแง่มุมที่ทีมงานโลก 360 องศานำมาเสนอทั้ง 4 ตอน สิ่งที่สัมผัสได้ ก็คือ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับมาเที่ยวเอง เพราะเดินทางได้ง่ายและสะดวก
แหลม “มันซาโม” (Cape Manzamo)