มาปลูกต้นไม้จิ๋วกันเถอะ
ต้นไม้จิ๋ว หรือต้นไม้แคระ ที่คนทั่วไปรู้จักกันดีน่าจะเป็นต้นไม้จำพวกบอนไซ แต่ช่วงนี้ใครที่เดินผ่านตลาดต้นไม้คงจะสังเกตเห็นว่า
โดย...นิตยสารบ้านและสวน
ต้นไม้จิ๋ว หรือต้นไม้แคระ ที่คนทั่วไปรู้จักกันดีน่าจะเป็นต้นไม้จำพวกบอนไซ แต่ช่วงนี้ใครที่เดินผ่านตลาดต้นไม้คงจะสังเกตเห็นว่านอกจากบอนไซแล้ว ยังมีต้นไม้อีกหลายชนิดที่ลงท้ายด้วย “จิ๋ว” หรือ “แคระ” มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไม้ใบ ไม้ดอก หรือไม้ผลที่มีลักษณะสวยงามเหมือนต้นไม้ใหญ่ แต่ถูกย่อขนาดลงเพื่อตอบโจทย์คนเมืองที่อยากปลูกต้นไม้แต่มีพื้นที่จำกัด “บ้านและสวน” จะพาคุณไปรู้จักต้นไม้ประเภทนี้กัน
ต้นไม้จิ๋วและต้นไม้แคระที่เราพบเห็นกันทั่วไปตามท้องตลาดอาจเกิดจากการควบคุมบังคับปัจจัยต่างๆ เช่น กระถาง ดิน น้ำ ปุ๋ยที่ช่วยในการเจริญเติบโต ทำให้ต้นไม้มีขนาดเล็กกว่าปกติ หรือเรียกว่า “จิ๋ว” แต่ถ้าหากเลิกควบคุมปัจจัยเหล่านั้น ต้นไม้ก็อาจกลับมาเจริญเติบโตได้ตามปกติ
ส่วนต้นไม้แคระ หรือสายพันธุ์แคระเกิดจากการกลายพันธุ์ของต้นไม้แล้วนำไปขยายพันธุ์ต่อให้คงที่ ซึ่งแต่ละครั้งนั้นใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานในการทำให้ความสูง ลำต้น ใบมีขนาดเล็ก และโตช้า แต่ยังสามารถให้ดอกออกผลได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เหมือนกับต้นไม้ที่เป็นโรคแคระแกร็น ซึ่งถ้าต้นที่เป็นโรคอาจเกิดจากการขาดธาตุอาหาร หรือมีเชื้อโรคและแมลงศัตรูพืชเข้าทำลาย ทำให้ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ
ปัจจุบันนิยมใช้ต้นไม้จิ๋วและต้นไม้แคระในการจัดสวนมากขึ้น เหมาะสำหรับสวนที่มีพื้นที่เล็ก เพราะต้นไม่ใหญ่หรือสูงจนเกินไป แถมดูแลได้ง่าย เช่น หญ้าน้ำพุแคระ ยี่โถแคระ หลิวแคระ และแก้วแคระ
การดูแล
เมื่อต้นไม้มีขนาดเล็กลงความต้องการปัจจัยในการเจริญเติบโตก็ย่อมน้อยตามไปด้วย โดยเฉพาะไม้จิ๋วหรือบอนไซควรควบคุมการเจริญเติบโตและตัดแต่งเป็นประจำ เพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโตช้าและได้รูปทรงตามต้องการ
1.กระถาง ควรเลือกใช้กระถางที่มีขนาดเล็ก พื้นที่จำกัด และมีรูระบายน้ำ เพื่อให้สามารถควบคุมปริมาณดินและน้ำได้ แต่จะต้องมีปริมาณที่เพียงพอต่อการหาอาหารของรากไม่น้อยหรือมากจนเกินไปจนทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตงอกงามหรือขาดธาตุอาหาร และเมื่อปลูกไว้นานๆ ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนกระถาง เปลี่ยนดิน ก็สามารถตัดเล็มรากบางส่วนเพื่อลดขนาดลงได้
2.การตัดแต่ง เป็นการบังคับทั้งขนาดและรูปทรงของต้นไม้ รวมถึงทำให้ต้นไม้แตกยอดและใบออกมามากขึ้น จึงควรหมั่นตัดแต่งเล็มกิ่งใบอยู่เสมอ ถ้าเป็นบอนไซอาจมีการดัดพันลวดเพิ่มเติมเพื่อควบคุมทรง โดยสามารถเริ่มดัดได้ตั้งแต่กิ่งของต้นไม้นั้นยังมีขนาดเล็ก หรือถ้าหากต้นไม้นั้นมีขนาดใหญ่ มีใบ และกิ่งค่อนข้างเยอะแล้ว ควรตัดแต่งกิ่งและใบที่ไม่จำเป็นออกก่อนแล้วจึงค่อยเข้าลวด เพื่อให้สะดวกและป้องกันความเสียหาย
3.การรดน้ำ ควรควบคุมปริมาณน้ำให้พอเหมาะ การรดน้ำมากเกินไปอาจทำให้ต้นไม้โตเร็วหรือมีน้ำท่วมขังจนเกิดโรครากเน่าได้ แต่ถ้ารดน้ำน้อยเกินไปก็อาจทำให้ต้นไม้เหี่ยวเฉาและตายได้เช่นกันซึ่งปริมาณการรดน้ำนี้ขึ้นอยู่กับการระบายน้ำของกระถางและวัสดุปลูก รวมถึงสถานที่ในการปลูกด้วย
4.แสงแดด ที่พอดีจะช่วยบังคับไม่ให้ลำต้นสูงชะลูดหรือกิ่งยาวจนผิดรูปและช่วยในการเจริญเติบโตของต้นไม้ ทำให้ลำต้นแข็งแกร่งและใบมีสีเขียวจัด หากปริมาณแสงมากเกินไปหรือแดดจัดก็จะทำให้เกิดอาการใบไหม้ และถ้าแสงแดดไม่เพียงพอ ต้นไม้ก็จะมีลักษณะเขียวซีด ลำต้นยืดยาวผิดปกติ และไม่แข็งแรง
5.ลม ควรปลูกต้นไม้ไว้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทมีลมพัดผ่าน จะช่วยควบคุมให้ต้นไม้ค่อยๆ เจริญเติบโต แต่พื้นที่ที่มีลมโกรกอยู่ตลอดเวลาก็อาจทำให้ดินแห้งเร็ว จึงควรหมั่นสังเกตและแก้ปัญหาด้วยการพรมน้ำเมื่อเห็นว่าหน้าดินเริ่มแห้ง
การเลือกซื้อ
1.เลือกจากความชอบและความเหมาะสมของสถานที่ปลูก
2.ควรเลือกซื้อจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือและควรสอบถามให้ชัดเจนก่อนการตัดสินใจ บางทีต้นที่ดูแคระอาจจะเป็นแค่การตัดใบ หรืออยู่ในช่วงที่กำลังเติบโตเท่านั้น
3.เลือกต้นที่สมบูรณ์ ไม่มีโรค แมลง และให้สังเกตที่ก้นกระถาง ถ้ามีรากออกมาเล็กน้อยแสดงว่าต้นนั้นเติบโตแข็งแรง
4.หาข้อมูล หรือสอบถามวิธีการเลี้ยงต้นไม้นั้นๆ
5.ตั้งปณิธานกับตัวเองว่าจะเลี้ยงดูต้นไม้นี้ให้ดีที่สุด