เสียงพิณ-แคนอีสาน โกยรายได้ปีละ100ล้าน
ปัจจุบันบ้านท่าเรือกลายเป็นหมู่บ้านเครื่องดนตรีอีสานที่เป็นแหล่งผลิต พิณ แคน โหวด ที่ใหญ่ที่สุดของไทย
โดย...พัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย
หากนักท่องเที่ยวอยากไปเที่ยวให้มีความสุข สนุกสนาน ครื้นเครง ต้องไปที่หมู่บ้านท่าเรือ ต.ท่าเรือ อ.นาหว้า จ.นครพนม
หมู่บ้านท่าเรือถือเป็นหมู่บ้านแห่งเดียวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน ที่มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก เนื่องจากมีการสืบสานนำเอาอาชีพจากภูมิปัญญาท้องถิ่น จากรุ่นสู่รุ่น จนตกทอดมาสู่ลูกหลาน เป็นเวลายาวนานกว่า 100 ปี ในการผลิตเครื่องดนตรีอีสาน พิณ แคน โหวด ออกจำหน่าย กลายเป็นสินค้าภูมิปัญญาไทยสามารถสร้างรายได้เข้าหมู่บ้านปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
คุณตานุช แมดมิ่งเหง้า อายุ 80 ปี ถือเป็นต้นตำรับของอาชีพคนทำแคน ที่สืบทอดมาจากปู่ย่า ตายาย เล่าให้ฟังว่า ได้เริ่มฝึกทำแคนตั้งแต่อายุ 15 ปี มาถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 60 ปี ที่เรียนรู้ พัฒนาฝีมือ ในการทำแคน เพื่อให้มีเสียงที่ออกมามีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของตลาด ที่สำคัญในการทำแคน จะไม่มีโรงเรียน หรือสถาบันสอน แต่จะต้องมีการเรียนรู้พัฒนาจากภูมิปัญญาชาวบ้านเท่านั้น เพราะการทำแคนจะเป็นความสามารถ ความชำนาญเฉพาะบุคคล เพื่อให้เสียงแคนออกมาไพเราะ ส่วนแคนจะประดิษฐ์ขึ้นจากไม้ไผ่คู่แคน ที่นำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เพราะบ้านเราหายาก
หลังจากนั้นจะนำมาคัดเลือกเอาลำไม้ไผ่คู่แคนที่สวยงาม มาตากแดด รมควัน ให้ได้คุณภาพ ก่อนนำมาตัดให้ได้ขนาด ตามวิธีภูมิปัญญาชาวบ้าน ก่อนนำมาประกอบใส่ลิ้นให้เกิดเสียง โดยลิ้นแคนถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เสียงไพเราะ ไม่ไพเราะ จะต้องขึ้นอยู่กับการประกอบลิ้นที่ต้องมีความชำนาญ ซึ่งลิ้นแคนจะมีสองชนิด ชนิดแรก คือ ลิ้นเงิน จะมีเสียงดีนุ่มนวล ทำจากเงินเหรียญบาทสมัยโบราณ มาหลอมผสมทองแดง ก่อนแปรรูปออกมาเป็นเส้น และนำมาตีเป็นลิ้น ทำหน้าที่ควบคุมลมเข้า-ออกให้เกิดเสียง
ชนิดที่สอง คือ ลิ้นทอง ทำมาจากทองแดงที่หลอมจากเหรียญสตางค์แดง เพราะจะได้ทองแดงบริสุทธิ์ จากนั้นจะมีการเทียบเสียงจากเครื่องเทียบเสียงให้ได้เสียงเข้ากับคีย์มาตรฐาน แล้วนำไปประกอบกับ เต้าแคน ที่ทำจากไม้รักหรือชาวอีสานเรียกว่าไม้น้ำเกลี้ยง เพราะมีเนื้อลวดลายสวยงาม ซึ่งในการประกอบจะใช้ความชำนาญส่วนตัวที่ฝึกฝนมา เพื่อให้ได้แคนที่มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด
“แคนมาตรฐาน จะมีขนาดทั้งหมด 6-7-8-9 คือ นับจากจำนวนคู่ไม้ไผ่ที่นำมาประกอบ ส่วนใหญ่จะใช้มากที่สุด คือ แคน 8 จะมีทั้งหมด 8 คู่ ความยาวประมาณ 1.5 เมตร ใช้เวลาในการประกอบ ประมาณ เต้าละ 2-3 วัน ราคาขาย แคนลิ้นเงิน ราคาเต้าละ 1,000-1,200 บาท ส่วนแคนชนิดสั่งทำพิเศษ จะมีราคาสูง 5,000-7,000 บาท สามารถสั่งทำได้ตามความต้องการ”
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องดนตรีอีสานประเภทโหวด มีราคาขายชิ้นละประมาณ 150-200 บาท ตามขนาด รวมถึงพิณสามสาย เครื่องดนตรีอีสาน ที่สร้างความไพเราะ จะประดิษฐ์ขึ้นจากไม้ขนุน หรือไม้ประดู่ มีทั้งพิณโปร่ง และพิณไฟฟ้า มีราคาขายประมาณชิ้นละ 1,500-2,000 บาท แล้วแต่การออกแบบ
ปัจจุบันบ้านท่าเรือกลายเป็นหมู่บ้านเครื่องดนตรีอีสานที่เป็นแหล่งผลิต พิณ แคน โหวด ที่ใหญ่ที่สุดของไทย เป็นอาชีพเสริมหลังเสร็จสิ้นจากการทำเกษตรกรรม สามารถสร้างรายได้เข้าหมู่บ้านปีละ 100 ล้านบาท อย่างน่าทึ่ง