ค้านประกันตัว "วศิน" แก๊งหั่นศพ ยื่นฝากขังต่อ

ตร.ค้านประกันตัว "วศิน" พร้อมยื่นคำร้องต่องศาล ฝากขังผัด 2 อีก 12 วัน ด้านชุดสืบสวนตรวจมือถือ"แอ๋ม" หาข้อมูลในคดีเพิ่ม

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. พนักงานสอบสวน สภ.เขาสวนกวาง ได้ยื่นคำร้องต่อศาล จ.ขอนแก่น เพื่อขออำนาจศาลฝากขัง นายวศิน นามพรม ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม หลังครบกำหนดการฝากขังผัดในวันนี้

พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง กล่าวว่า ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว มีทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นายวศิน  นามพรม ซึ่งครบกำหนดของการฝากขังผัดแรกวันนี้ ขณะที่ผู้ต้องหาที่เหลือประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว,น.ส.กวิตา ราชดา และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัญฑิต หรือแจ้ ครบกำหนดฝากขังในวันที่ 16 มิ.ย.ขณะที่ น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือเบนซ์ เข้าสู่การฝากขังในผัดที่ 2 แล้ว โดยผู้ต้องหาทั้งหมด ถูกดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลอบฝัง ซ่อนเร้นหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์หรือรับของโจร และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยตระเตรียมการและไตร่ตรองไว้ก่อน ตามมาตรา 289 ขณะที่ น.ส.เบนซ์ ไม่ได้ถูกตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มในมาตรา 289

"คดีนี้มีเพียง น.ส.เบนซ์ ให้การปฏิเสธ ทุกข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า ช่วงวันเวลาดังกล่าว ยังทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ แต่คืนวันที่ 23 พ.ค. มีผู้ต้องหา 3 คน คือ นายวศิน น.ส.เปรี้ยวและ น.ส.เอินไปหาที่ห้องพัก เช้าวันที่ 24 พ.ค.ทั้งหมดพากันไปเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า นายวศินได้ยื่นโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟนให้ บอกให้เอาไปขาย จึงเดินเข้าไปขายในร้านรับซื้อขายโทรศัพท์มือถือ ภายในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ได้เงินมา 3,500บาท ซึ่งเงินทั้งหมดได้มอบให้กลุ่มผู้ต้องหา จึงไม่มีส่วนรู้เห็นกับการตายของน.ส.แอ๋มแต่อย่างใด"

พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวอีกว่า คดีความดังกล่าวในชั้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด และในวันนี้ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอฝากขังนายวศินเป็นผัดที่ 2 อีก 12 วันเนื่องจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดียังคงต้องสอบปากคำพยานต่างๆเพิ่มเติม รวมทั้งการรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งหากศาลมีคำสั่งคุมขังนายวศิน ก็จะยังคงต้องถูกคุมขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนได้มีการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ น.ส.วริศรา ที่ผู้ต้องหาทั้งหมดนำไปจำหน่าย ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ที่กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.3 บก.สส.ภ.4 ยังคงสืบค้นข้อมูลว่า ก่อนวันที่จะถูกฆาตกรรมนั้น มีใครติดต่อกับผู้ตายบ้าง และใครที่ติดต่อบ่อยที่สุด ซึ่งหากพบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี รวมทั้งอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือพัวพันการเสียชีวิตของผู้ตาย เจ้าหน้าที่จะทำการรียกบุคคลดังกล่าวมาสอบสวนทันที