posttoday

ตำรวจสรุปสำนวนคดี “ซินแสโชกุน” ส่งฟ้องอัยการ

23 มิถุนายน 2560

ตำรวจหอบสำนวนคดี “ซินแสโชกุน-พวก” ฉ้อโกงประชาชน จำนวน 42 แฟ้มส่งให้อัยการสั่งฟ้อง พบมีผู้เสียหาย 757 คน ความเสียหาย 51 ล้านบาท

ตำรวจหอบสำนวนคดี “ซินแสโชกุน-พวก” ฉ้อโกงประชาชน จำนวน 42 แฟ้มส่งให้อัยการสั่งฟ้อง พบมีผู้เสียหาย 757 คน ความเสียหาย 51 ล้านบาท

 เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 มิ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.กวี สุภานันท์ ที่ปรึกษา สบ.10 ด้านกฏหมายและการสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงสรุปสำนวนคดี ซินแสโชกุน กับพวก และเตรียมจะส่งให้อัยการในช่วงบ่ายวันนี้ 

ล่าสุดมีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนแล้วจำนวนทั้งสิ้น 757 คน สอบพยานไปทั้งหมด 175 ปาก มูลค่าความเสียหายรวม 51 ล้านบาทเศษ มีการตรวจธุรกรรมทางการเงินไปประมาณ 9,000กว่าธุรกรรม

สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 10 ราย แบ่งออกเป็นนิติบุคคล 1 ราย และบุคคล 9 ราย ประกอบไปด้วย นส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน, นส.มณฑญาณ์ นิรันดร, นายก้องศรัณย์ แสงประภา, นส.ทัศย์ดาส สมัครกสิกรรณ์, นางประนอม พลานุสนธิ์, นางณิชมน แสงประภา, นส.พารินธรญ์ หงษ์หิรัญหรือ ดัคกอร์, นส.สุดารัตน์ เอนกนวล และนายโกวิท ช่วยสัตว์ 

ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1-10 มีความผิดฐาน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยผู้ต้องหาที่ 2-10 ยังมีความผิดฐาน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และซ่องโจร
นอกจากนี้ ผู้ต้องหาที่ 1-2 ยังร่วมกันกระทำความผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายอาหารที่ควบคุมฉลากโดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง และผู้ต้องหาที่ 2 กระทำความผิดฐาน ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวข้องแก่ของนั้น

ขณะที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ระบุว่า ปปง. ได้ใช้มาตรการกับคดีของซินแสโชกุนทั้งมาตรการทางแพ่ง และอาญา และหากปปง.ตรวจพบว่ามีใครเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ฐานฟอกเงิน ก็จะทำการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป

ส่วนตัวเลขผู้เสียหายที่ยื่นเรื่องขอคุ้มครองสิทธิ์ขณะนี้มีอยู่ทั้งสิ้น 1,028 ราย  อยู่ในขั้นตอนยื่นคำร้องต่อพนักงานอัยการเพื่อให้ศาลสั่งคุ้มครองสิทธิ์ โดยจะเอาเงินที่ยึดและอายัดมาได้ทั้งหมดมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย ซึ่งถ้าผู้เสียหายมีเบาะแสว่าผู้ต้องหามีเงินซุกซ่อนอยู่ที่ไหนบ้าง ก็สามารถร้องเรียนมาทางปปง.หรือที่กองปราบได้

ภาพประกอบข่าว