พญาชาละวัน
เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ความยิ่งใหญ่ของ “พญาชาละวัน” แห่งเมืองพิจิตร
เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ความยิ่งใหญ่ของ “พญาชาละวัน” แห่งเมืองพิจิตร
พระครูพิราชธรรมกิจ เจ้าอาวาสวัดคลองคู้และชาวบ้านคลองคู้ ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร ร่วมแรงร่วมใจสร้างรูปปั้นพญาชาละวันตัวใหญ่ คาบตะเภาแก้ว นอนผงาดขวางคลองน้ำ มีขนาดความยาวถึง 47 เมตร กว้าง 5.5 เมตร และความสูง 5.5 เมตร เด่นตระหง่านอยู่บริเวณลำคลองคู้ หมู่ที่ 6 ต.ท่าหลวง
พญาชาละวันยักษ์ใหญ่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือน ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมานี่เอง และกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองพิจิตรอีกแห่ง เพราะหลังประชาชนและนักท่องเที่ยวทราบข่าวต่างก็จูงมือลูกหลานไปท่องเที่ยวชมความอลังการของพญา
ชาละวัน พร้อมเซลฟี่กับรูปปั้นพญาชาละวันตัวใหญ่เก็บไว้เป็นที่ระลึก
รูปปั้นพญาชาละวันขนาดใหญ่ยักษ์ถูกสร้างขวางลำคลองคู้ ซึ่งลำคลองแห่งนี้เดิมเป็นคุ้งน้ำที่มีประวัติว่ามีจระเข้ชุกชุมจำนวนมาก เนื่องจากเป็นลำคลองเก่าแก่ที่มีความกว้าง ความลึก ซึ่งในอดีตเคยมีจระเข้อาศัยอยู่มากมาย เจ้าอาวาสจึงมีแนวคิดปั้นรูปจระเข้ขวางคลองเพื่อสร้างให้เป็นตำนาน
“ที่สร้างจระเข้ขวางคลองให้เป็นตำนานนั้น แต่แฝงด้วยกุศโลบายและคำสอนว่า คำว่าจระเข้ขวางคลองมิใช่หมายความว่าจะคิดจะค้านแบบหัวชนฝา แต่ถ้ามองโลกในแง่ดีก็ต้องคิดว่า คิดดีทำดี แบบจระเข้ขวางคลอง คือต้องคิดขัดขวางสิ่งที่เป็นความชั่ว สิ่งที่เป็นอบายมุขสุรายาเมา การพนัน และยาเสพติด ไม่ให้เข้าหมู่บ้าน ซึ่งถ้าคิดบวกเช่นนี้จระเข้ขวางคลองคือสิ่งสำคัญ และจำเป็นในยุคที่คนในสังคมกำลังมัวเมากับวัตถุมากกว่าเชื่อ หรือปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า” พระครูพิราชธรรมกิจ กล่าว
ที่สำคัญรูปปั้นจระเข้ขวางคลองที่วัดคลองคู้แห่งนี้มีความแปลกที่แฝงไปด้วยกุศโลบาย คำสอนตามแนวของพระพุทธเจ้า จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันมากมาย และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อีกด้วย