ม.รามฯจ่อฟ้องกลับ "สกอ." เปิดชื่อหลักสูตรไม่ผ่านการรับรองคลาดเคลื่อน
อธิการบดีรามคำแหงสั่งฝ่ายกฎหมายหาช่องดำเนินการฟ้อง "สกอ." หลังเปิดชื่อหลักสูตรไม่ผ่านการรับรองคลาดเคลื่อน
อธิการบดีรามคำแหงสั่งฝ่ายกฎหมายหาช่องดำเนินการฟ้อง "สกอ." หลังเปิดชื่อหลักสูตรไม่ผ่านการรับรองคลาดเคลื่อน
นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง(ม.ร.) เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายหาช่องทางดำเนินการทางกฎหมายกับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ได้เปิดเผยข้อมูลรายชื่อหลักสูตรสถาบันอุดมศึกษา ทั้งระดับปริญญาตรี โท และเอก ที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานหลักสูตรจากผลการประเมินการประกันคุณภาพภายใน (IQA) เฉพาะในองค์ประกอบที่1 เรื่องจำนวนและคุณสมบัติอาจารย์ การบริหารจัดการหลักสูตร ตามเกณฑ์มาตรฐาน เป็นเวลา 2ปี ติดต่อกัน คือ ปีการศึกษา 2558 และ 2559 ซึ่งมีการจัดการเรียนการสอนระดับ ปริญญาตรี–โท–เอก 9,099 หลักสูตร ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชนทั้งหมด 155 แห่ง โดยระบุว่ามีหลักสูตรของ ม.รามอยู่ในรายชื่อถึง 40 หลักสูตร
นายวุฒิศักดิ์ กล่าวว่า ข้อมูลที่สกอ.เปิดเผยนั้นคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง และทำให้มหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียงอย่างมาก เพราะจำนวนหลักสูตรที่กล่าวถึงเป็นข้อมูลเก่าที่มหาวิทยาลัยปิดหลักสูตรไปแล้ว 23 หลักสูตรและใน 17 หลักสูตร มี 6 หลักสูตรที่งดรับนักศึกษาไปแล้ว และมี 1 หลักสูตรที่กำลังปิดในปีการศึกษา 2561 ส่วนหลักสูตรที่เหลือได้มีการปรับปรุงหลักสูตรเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ภาษาที่ใช้ ที่กล่าวหาม.ร.หรือมหาวิทยาลัยอื่นๆ จัดการศึกษาไร้คุณภาพมาตรฐาน เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายอย่างมาก และขอให้เข้าใจว่า สกอ.ไม่ได้สั่งปิดหลักสูตร งดรับนักศึกษา รอปรับปรุง สิ่งเหล่านี้มหาวิทยาลัยเป็นผู้ปฎิบัติเอง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะทำหนังสือถึงสกอ.ขอผลการประชุมกกอ.เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการพิจารณาเรื่องใดบ้าง และทำไมถึงได้คัดเลือก 40 สถาบันนี้ ขึ้นมาประกาศ เลือกมาในกลุ่มแรก และอยากฝากให้ทำมติ ข้อมูลให้ดี
อย่างไรก็ตาม ผลการประเมินภายในของสกอ.ครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อนักศึกษา เนื่องจากหลักสูตรที่สกอ.ประกาศไปนั้นได้ผ่านการรับทราบจากสกอ.เรียบร้อย ดังนั้น บัณฑิตทุกคนที่จบสามารถไปทำงานได้ตามปกติ แต่ผลการประเมินครั้งนี้จะมีผลต่อมหาวิทยาลัยที่จะต้องไปปรับปรุงการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่สกอ.กำหนด
"สาเหตุที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน เนื่องจากจำนวนอาจารย์ประจำหลักสูตร ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ และเป็นเกณฑ์กำกับมาตรฐานเพียงเรื่องเดียวที่ม.ร.ไม่ผ่าน เพราะว่ามีปัญหาในทางปฎิบัติ โดยอาจารย์ประจำหลักสูตรบางท่านเกษียณอายุ ต้องรออีก 1 ปี กว่าสำนักงบประมาณจะจัดอัตรากำลังให้ ซึ่งเป็นปัญหาที่สกอ.มองข้าม และทำตัวเป็นศาลที่คอยบอกว่าคนอื่นไม่มีคุณภาพ"นายวุฒิศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ อยากให้สกอ.ทบทวนถึงการเปิดเผยข้อมูล ว่า มีเวลาให้มหาวิทยาลัยดำเนินการหรือไม่ เพราะเกณฑ์ปี 2558-2559 เป็นเกณฑ์ที่ประกาศในปี 2557 และก่อนหน้านี้สกอ.ไม่ได้เข้มงวด เพิ่งมาเข้มงวดในปี 2557 ถือว่าไม่เป็นธรรม และตอนนี้มหาวิทยาลัยก็มีการปรับปรุงแล้ว ทำไมถึงมาประกาศว่าเกณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งที่ เราดำเนินการแล้ว และหลายเรื่องส่งไปที่สกอ.แล้ว หลักสูตรต่างๆ รวมถึง อยากให้สกอ.ทบทวนอะไรที่เป็นไปได้ในทางปฎิบัติ และอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ภาพจากเฟจเฟซบุ๊ก สวป. ม.รามคำแหง