posttoday

จนท.ตรวจสอบพบ "บ้านสุขาวดี" รุกที่สาธารณะพัทยา

23 มกราคม 2561

เจ้าหน้าที่พัทยาเข้าตรวจสอบแนวเขตที่ดิน "บ้านสุขาวดี" พบมีการรุกล้ำที่สาธารณะ ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต

เจ้าหน้าที่พัทยาเข้าตรวจสอบแนวเขตที่ดิน "บ้านสุขาวดี" พบมีการรุกล้ำที่สาธารณะ ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายวิเชียร พงษ์พานิชย์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา สำนักงานเจ้าท่าพัทยา และสำนักงานที่ดิน รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบแนวเขตที่ดินสาธารณะ บริเวณด้านหลัง “บ้านสุขาวดี” ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับรายงานว่ามีการปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายในพื้นที่สาธารณะริมทะเล และมีการปิดทางถนนสาธารณะโดยมีการก่อสร้างกำแพงปิดกั้นและก่อสร้างอาคารเพื่อใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีตัวแทนจากบ้านสุขาวดี เข้าร่วมสังเกตการณ์และให้ข้อมูลเบื้องต้น

นายวิเชียร กล่าวว่าจากการตรวจสอบแผนที่โดยสังเขป และการรังวัดของสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาอำเภอบางละมุง พบว่าแปลงที่ดินส่วนหนึ่งบริเวณที่ติดกับทางเท้าริมทะเล ซึ่งตามเอกสารระบุว่าเป็น “ทะเล” ในพื้นที่ 11 ไร่เศษซึ่งมีแนวติดกับที่ดินของวัดช่องลม นาเกลือนั้น ปัจจุบันมีสภาพเป็นที่ดินแปลงขนาดใหญ่ ที่พบว่าทางบ้านสุขาวดีได้ทำการจัดตกแต่งสวน พร้อมปลูกสร้างอาคารขนาดใหญ่หลายอาคาร รวมทั้งมีการจัดทำรั้วบริเวณริมทางเท้าชายทะเลคล้ายเป็นที่ส่วนบุคคล

ซึ่งอาคารเหล่านี้ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่ได้มีการขออนุญาตก่อสร้าง ด้วยเหตุที่ไม่สามารถอนุญาตได้เนื่องจากเป็นที่สาธารณะประโยชน์ ขณะที่แปลงที่ดินดังกล่าวแต่เดิมนั้นทางบ้านสุขาวดี เคยยื่นร้องขอเพื่อออกโฉนดมาก่อน แต่ช่วงนั้นได้มีคำสั่งระงับและไม่อนุญาตให้ได้ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นที่ดินแปลงนี้เกิดขึ้นมาจากการถมทะเลโดยไม่ใช่ที่งอกขึ้นเองตามธรรมชาติจึงถือว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่สาธารณะ ซึ่งหลังจากนี้เมืองพัทยาจะได้ดำเนินการเสนอตามขั้นตอนของกฎหมายในส่วนของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารต่อไป

นายวิเชียร กล่าวว่านอกจากแปลงที่ดินขนาดใหญ่ริมทะเลแล้ว จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าภายในขอบเขตของบ้านสุขาวดี มีทางถนนสาธารณะประโยชน์ขนาด 6x150 เมตร จำนวน 1 เส้น ที่ต่อเชื่อมจากถนนสาธารณะของซอยบางละมุง 8 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งมีการระบุไว้ว่ามีการยกให้เป็นทางสาธารณะประโยชน์ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 2530 ที่ผ่านมา แต่ต่อมาพบว่าทางบ้านสุขาวดี ได้ทำกำแพงรั้วปิดกั้นทางไว้และมีการก่อสร้างอาคารทับทางสาธารณะบางส่วน ซึ่งกรณีนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการกำหนดแนวเขตและขอความร่วมมือจากทางบ้านสุขาวดี ให้ทำการเปิดทางและรื้อถอนอาคารในส่วนที่รุกล้ำทาง อย่างเร่งด่วนก่อนจะเข้ามาดำเนินการตรวจสอบต่อไป

ขณะที่ปัญหาทางเท้าริมทะเลบริเวณด้านหลังบ้านสุขาวดี ที่เมืองพัทยาใช้งบประมาณในการปรับ ปรุงภูมิทัศน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวเพื่อใช้ในการสัญจรและพักผ่อน โดยไม่อนุญาตให้มีการนำยานพาหนะขนาดใหญ่สัญจรไปมานั้น  แต่ที่ผ่านมาทางบ้านสุขาวดีได้นำรถบัสโดยสารขนาดใหญ่มาวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยว เพื่อนำรถไปจอดพักบริเวณลานจอดบริเวณที่ต่อเชื่อมกันในเขตบริเวณของวัดช่องลม นาเกลือ ที่มีการทำสัญญาเช่าไว้ กระทั่งต่อมาได้มีการขออนุญาตจากเมืองพัทยาอย่างเป็นทางการนั้น กรณีดังกล่าว นายวิเชียร รองนายกเมืองพัทยา ระบุว่าหนังสือขอนุญาตจากทางบ้านสุขาวดีนั้น ปัจจุบันเมืองพัทยายืนยันไม่ให้อนุญาตไปแล้ว เพราะจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าฟุตปาธที่รถบัสโดยสารวิ่งผ่านนั้นเริ่มมีสภาพชำรุดขึ้นเรื่อยๆ

จากนี้ได้สั่งการให้ทางสำนักการช่างมาทำการก่อสร้างเสาปูนคอนกรีตหรือเสาเหล็กขวางทางไว้เพื่อป้องกันรถขนาดใหญ่เข้ามาสัญจรไปอีกในระยะเวลา 1 เดือนจากนี้ ซึ่งจะมีการเดินทางมาตรวจสอบความก้าวหน้าของปัญหาทั้งหมดอีกครั้ง

จนท.ตรวจสอบพบ \"บ้านสุขาวดี\" รุกที่สาธารณะพัทยา

จนท.ตรวจสอบพบ \"บ้านสุขาวดี\" รุกที่สาธารณะพัทยา

จนท.ตรวจสอบพบ \"บ้านสุขาวดี\" รุกที่สาธารณะพัทยา

จนท.ตรวจสอบพบ \"บ้านสุขาวดี\" รุกที่สาธารณะพัทยา