"โยชิ 300" จากเด็กติดเกมหนักสู่ "ยูทูปเบอร์" สายฮาสุดครีเอท
เปิดเส้นทางชีวิต "โยชิ" หนุ่มหน้ามึน มาดกวนสุดฮอต ที่แจ้งเกิดจากการแปลงเนื้อเพลงและร้องออกมาอย่างจริงใจ
โดย...วรรณโชค ไชยสะอาด
ท่ามกลางกระเเสฟีเวอร์ของยูทูปเบอร์หน้าใหม่ๆ ที่ออกมาสร้างสรรค์ไอเดีย
ชายหนุ่มผิวคล้ำ หน้าตาธรรมดา ออกเเนวโหดๆ ผมยาวหยิก หนวดเคราเฟิ้ม เสียงร้องก็ไม่ได้เรื่อง กำลังได้รับความนิยมอย่างเหนือความคาดหมาย
จากเด็กติดเกมอย่างหนัก ไม่กินไม่นอนเคยขโมยเงินกว่าหนึ่งหมื่นบาทของพ่อแม่ไปเล่นเกม ไม่ชอบเรียนหนังสือเเละผ่านอาชีพมาสารพัด ชีวิตของ โยชิ - ธนมงคล จำปาเฟื่อง วันนี้กำลังปังไม่หยุดกับพลังเเห่งความสร้างสรรค์ผ่านเนื้อร้องเเละเสียงเพลง
“สวัสดีครับ ขึ้นมาเลย” โยชิยิ้มอย่างเป็นมิตร ในชุดเสื้อยืดแขนยาว กางเกงขาสั้นขับมอเตอร์ไซค์สีแดงออกมารับหน้าปากซอยทางเข้าบ้านพักที่ย่าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ติดเกมหนัก แม่เรียกไอ้สารเลว
ชายหนุ่มเกิดที่ จ.กำแพงเพชร ก่อนย้ายไปเติบโตที่ จ.นครราชสีมา เมื่ออายุได้ 12 ปี เขาเรียนจบเพียงแค่ชั้น ม.6 และเคยซ้ำชั้นตอนเรียนม.3 เนื่องจากไม่ชอบเรียนหนังสือ ขณะเดียวกันก็ติดเกมอย่างหนักถึงขนาดขโมยเงินแม่ไปเล่น พูดง่ายๆ ว่าหายใจเข้าออกเป็นมีแต่เกม
“ผมไม่ได้โง่นะแต่ไม่ชอบเรียนจริงๆ รู้สึกว่าโรงเรียนมันน่าเบื่อ ไม่ใช่ความคิดที่ดีหรอกแต่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ คิดว่าครูไม่ได้เหนือไปกว่าเราในการใช้ชีวิต เขาก็ไปเรียนรู้จากที่อื่นมาเพื่อมาสอนเราอีกทีซึ่งเราน่าจะเรียนรู้จากข้างนอกเองได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบ”
“ส่วนเกมนั้นติดหนักมาก มอมแมมเหมือนติดยาเสพติด พ่อแม่ตีจนเหนื่อย ด่าผมไอ้สารเลวก็ไม่หยุด อยู่ที่ไหนก็ได้ที่มีเกม ทุกวันนี้มานั่งคิดทำไมผมถึงเป็นไปได้ขนาดนั้น” น้ำเสียงของเขาสุภาพ แตกต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกที่ทุกคนเห็น
สิ่งที่ทำให้เขาเลิกเล่นเกมได้คือ การเต้นบีบอยและสตรีทแดนซ์ ซึ่งพบเข้าระหว่างเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า
“โคตรเท่ มันเท่มาก เห็นแล้วอยากเต้นเป็น สาวต้องกรี๊ดแน่ ผมเดินเด๋อๆ ด๋าๆ เข้าไปขอทำความรู้สึกและบอกว่าอยากเต้นด้วย เขาก็ยินดีนัดมาเจอกันและเริ่มซ้อมตั้งแต่ตอนนั้น”
เห็นท่าทางแบบนี้ เขาพัฒนาฝีมือการเต้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มเข้าแข่งขันตามรายการประกวดต่างๆ ทั้งในระดับจังหวัดและประเทศ โดยความสำเร็จสูงสุดคือการคว้ารองแชมป์ประเทศไทย รายการแบทเทิลออฟเดอะเยียร์ ประเภททีม ปี 2011
นอกเหนือจากเต้นแล้วชีวิตด้านอาชีพของเขาไม่ประสบความสำเร็จ ไล่ตั้งแต่เป็นเด็กเสิร์ฟ พนักงานรักษาความปลอดภัย ทหาร เด็กวิ่งพร๊อพในกองถ่ายละคร เจ้าหน้าที่ฝ่ายศิลป์ ทั้งหมดผ่านมาแล้วผ่านไป
“ผมไม่ชอบทำงานแบบเข้ากะ อยู่ในกฎเกณฑ์มีความแน่นอน แต่ทุกอาชีพก็มีอะไรให้เรียนรู้และศึกษาทั้งนั้น”
ตำแหน่งงานสุดท้ายของโยชิคือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายศิลป์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ก่อนจะลาออกมาทำคลิปเป็นยูทูปเบอร์อย่างเต็มตัวเหมือนวันนี้
แจ้งเกิดจากไอเดียและความบังเอิญ
ห้องพระขนาดเล็กบนชั้นสองของบ้านพักย่านบางบัวทอง กลายเป็นสตูดิโอที่โยชิใช้ถ่ายทำ โดยมีเพียงไอเดียและโทรศัพท์ 2 เครื่องเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน คลิปแรกที่สร้างชื่อให้กับเขาคือการลิปซิงค์เพลงกวนตีน ของศิลปิน Mad Pack It
“ว่างครับเลยอยากทำคลิปเล่น อยากทำคลิปร้องเพลงแต่ไม่กล้า ช่วงนั้นใช้เสียงเรียกเข้าเป็นเพลงกวนตีนพอดี เลยเอามาลิปซิงค์ซะเลย” หนุ่มหน้าหนวดบอกและแม้การลิปซิงค์จะสร้างชื่อและเรียกเสียงฮาได้ไม่เบา แต่เขากลับรู้สึกว่าอยากแต่งเนื้อเพลงเป็นของตัวเอง โดยยังคงใช้ทำนองของศิลปินท่านอื่น
“จริงๆ ไม่ชอบร้องเพลง ไม่มั่นใจในเสียงตัวเอง เสียงไม่ดี กล้าทำทุกอย่างยกเว้นร้องเพลง แต่นั่นแหละ สุดท้ายด้วยความที่ผมชอบเอนเตอร์เทรนคนอื่น ชอบทำอะไรประหลาดๆ เลยออกมาแบบที่เห็น”
เดือนเมษายน 2560 โยชิเดินทางไปร่วมงานบวชของน้องชายที่ จ.กำแพงเพชร ระหว่างนอนฟังเพลง In The End ของ Linkin Park สภาพแวดล้อมและเสียงรอบข้างได้นำพาจินตนาการของเขาพุ่งกระฉูดก่อนกลั่นออกมาเป็นบทเพลง “ตังยายเจน” ดังสนั่นไปทั่วโลกโซเชียล
“ผมฟังภาษาอังกฤษแล้วได้ยินคำว่าโซฟา ก็เลยใส่คำว่าโซฟา มางานบวชน้องก็นึกถึงพระ ระหว่างนั้นมีเสียงตะกุกตะกักข้างล่าง คิดว่าใครมาทำอะไรแถวนี้วะ ผีหรือขโมย มันเลยปิ๊งพอดีว่า ขโมยยันพระกะทะโซฟา จดใส่โทรศัพท์และแต่งเป็นเรื่องเป็นราวเลย มียายชื่อเจน มีตาชื่อมี มีขโมย กลายเป็นเพลงตังยาเจน”
หลังอัปโหลดคลิปดังกล่าวช่วงเดือนมิถุนายน มีคนเข้ามาคอมเม้นท์ชื่นชมต่างๆ นานา และเรียกร้องให้สร้างสรรค์ผลงานออกมาอีก จนตามมาด้วยเพลงมนต์รัก ROV ที่เกิดขึ้นเพราะอารมณ์เสียจากการเล่นเกม โดยใช้ทำนองของเพลงของ ยิ่งยง ยอดบัวงาม กลายเป็นกระแสอีกรอบจนนำไปสู่การตั้งแฟนเพจโยชิ 300
“300 มาจากคลิปลิปซิงค์เพลงไอ้ขี้งก (คืนได้ไหมแค่ 300) ของศิลปิน Win Collins คนก็เรียกเราพี่ 300 ก็เลยเอานี่แหละ โยชิ 300” ชายหนุ่มบอกซึ่งจริงๆ แล้วเขาชื่อเล่นว่าหยก เพียงแต่ตอนไปอยู่โคราช ด้วยน้ำเสียงของคนที่นั่นทำให้ถูกเรียกเพี๊ยนไปเป็น โย๊ก เพื่อนเลยตั้งชื่อให้ใหม่ว่าโย กระทั่งเข้าวงการเต้นบีบอย จึงใช้นามแฝงจากตัวละครในเกมที่ชื่นชอบนามว่า โยชิมิสึ
งานดีจะคุ้มครองเรา
เมื่อเร็วๆ นี้เขาโด่งดังเป็นพลุแตกจากการหยิบเพลงดัง “คุกกี้เสี่ยงทาย” Koisuru Fortune Cookie ของเกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอต BNK48 และ AKB48 มาแปลงเนื้อเพลง กลายเป็นเพลงคุกกี้เสี่ยงคุก เนื้อหาพาดพิงไปถึง ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี
“จริงๆ ผมทำตั้งแต่ก่อน BNK จะออกเอ็มวี แต่ชื่นชอบ AKB จากญี่ปุ่นอยู่แล้ว เพลง Koisuru Fortune Cookie เพราะดี และช่วงนั้นมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์นายกลุงตู่ด้วย ผมเลยเลือกแกเป็นพระเอกหลัก กลายเป็นเพลงคุกกี้เสี่ยงคุก”
หลักคิดในการแต่งเพลงของโยชิคือการไอเดียส่วนตัว ประเด็นสังคม รวมไปถึงความคิดเห็นต่อเรื่องนั้นๆ ของผู้คน ก่อนประมวลออกมาเป็นเนื้อเพลง ขณะที่ทำนองเพลงเกิดจากอารมณ์ส่วนตัวล้วนๆ
“ปกติผมชอบฟังเพลงเมทัล แต่เวลาแต่งจริง ค่อนข้างอิสระอยากใส่อะไรก็ใส่ไปตามจินตนาการ ส่วนใหญ่ที่วิ่งเข้ามาในหัวน่าจะเป็นเรื่องฟลุคมากกว่า แต่ผมเป็นคนสมาธิสั้น นึกอยากทำอะไรแล้วต้องทำเลย ไม่งั้นลืมต้องจดไว้”
อีกเพลงที่เกาะกระแสจนโด่งดัง คือ “เพื่อนโคตรสนิท” ที่เนื้อหาพูดถึงประเด็นนาฬิกาเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
“ผมเคยคิดจะล้อตั้งนานแล้ว ตั้งแต่มีข่าวออกมาใหม่ๆ ใช้เวลาเขียนวันเดียว ตัดต่อเสร็จ อีกวันลงคลิปเลย”
เขาบอกว่าทุกผลงานที่ทำไม่ได้วางแผนอย่างจริงจังเป็นระบบ ทุกอย่างเกิดจากความชอบ ต้องการสร้างเสียงหัวเราะ ความสุขให้กับผู้ชมเท่านั้น “ผมเน้นเอาฮา เอามันส์ ผลพวงจะตามมาเองทีหลัง ตอนทำงานมีพี่ผู้กำกับท่านหนึ่งบอกว่าถ้าทำงานอย่างตั้งใจและผลงานออกมาดี งานจะคุ้มครองเราเอง นี่คือคติประจำใจของผม”
เมื่อให้วิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จของตัวเอง เขาบอกว่าน่าจะเกิดจากความเป็นธรรมชาติ จริงใจ ผลงานที่สะกิดใจผู้ชม รวมไปถึงเหตุผลสำคัญอย่างหน้าตา
“ความหล่อของผม ผมมั่นใจมาก คนติดตามเพราะผมชอบทำอะไรปั่นประสาท เลอะเทอะไร้สาระ คนชอบดูอะไรที่มันบันเทิงอยู่แล้ว พอผลงานมันสะกิดใจอยู่ในกระแสสังคม บวกกับหน้าตาทรงผมเข้าไปอีก ลองให้ผมโกนหนวดโหนเครา ตัดผม ไม่น่าจะดัง”
เนื้อเพลงคุกกี้เสี่ยงคุกที่เขาเขียน
การวิจารณ์เป็นเรื่องปกติในสังคม
การนำประเด็นสังคมมาวิพากษ์วิจารณ์และสอดแทรกในเนื้อหาเพลง โยชิบอกว่าเป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตย และถือเป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนสังคม โดยเฉพาะการล้อเลียนรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในทั่วโลกมายาวนาน
“คนเราถ้าไม่มีสิทธิวิจารณ์ก็อย่ามีเลยประชาธิปไตย ผมไม่กลัวช่องบิน แต่ไม่อยากไปปรับทัศนคติแน่ๆ เรื่องบางเรื่องเด็กมัธยมยังรู้เลยว่าถูกหรือผิด บางคนบอกว่า ลาก่อนเพจโยชิ ผมอยากจะตอบว่า ถ้าเกิดไม่คิดที่จะเป็นประชาธิปไตย มีสิทธิเสรีภาพ ก็อย่าคิดจะเป็นคนไทยเลย แต่ไม่ได้มีเจตนาโจมตี ผมรู้จุดที่ตัวเองอยู่ มีลิมิตในการทำงาน เต็มที่ก็ได้แค่สะกิดหรือกระตุ้นสังคม”
เขาบอกต่อว่าการวิจารณ์เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ไม่มีใครปิดบังความจริงหรือความผิดไปได้ตลอด มีเพียงคนที่ตายไปแล้วเท่านั้น
“เราปิดหูปิดตาตัวเองและคนอื่นไม่ได้ตลอดหรอก เมื่อหลับตาสักวันก็ต้องลืม ถ้าไม่ลืมเลยก็แสดงว่าเราได้ตายไปแล้ว”
เป้าหมายของผู้ชายมาดกวน คือพัฒนาคลิปต่างๆ เพื่อให้มีคนติดตามมากขึ้น โดยปัจจุบันยอดผู้ติดตาม (subscribe) ในยูทูปมีประมาณ 3.8 หมื่นคน ขณะที้ในเฟซบุ๊กแฟนเพจนั้นมีไม่ต่ำกว่า 1.38 แสนราย โดยสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จคือหัวใจและไอเดีย
“คนที่อยากแจ้งเกิดต้องมีใจก่อน เต็มที่และคิดออกไอเดีย อุปกรณ์นั้นค่อยๆ พัฒนาได้ ที่สำคัญอย่าดีใจกับชัยชนะหรือความสำเร็จนาน มันเป็นแค่จุดเริ่มต้น เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” เขาทิ้งท้าย
----
ลิปซิงค์เพลงแรก กวนตีน