3 เงื่อนปมสังหารนางแบบ FHM เปิดพิรุธฆาตกรรมอำพราง
กรณีการเสียชีวิตของ “น้องปิ๊ก” ศศิธร อ่อนวิมล นางแบบจากเวทีการประกวดนิตยสาร FHM ปี 2008 โดยมีเงื่อนงำที่ถูกทิ้งและสร้างไว้อย่างน่าสงสัย....
กรณีการเสียชีวิตของ “น้องปิ๊ก” ศศิธร อ่อนวิมล นางแบบจากเวทีการประกวดนิตยสาร FHM ปี 2008 โดยมีเงื่อนงำที่ถูกทิ้งและสร้างไว้อย่างน่าสงสัย....
โดย...ธนก บังผล
ความสวยงามคือภัย ยิ่งถ้าความสวยงามนั้นถูกการันตีด้วยมงกุฎ สายสะพาย หรือตำแหน่ง
กรณีการเสียชีวิตของ “น้องปิ๊ก” ศศิธร อ่อนวิมล นางแบบจากเวทีการประกวดนิตยสาร FHM ปี 2008 โดยมีเงื่อนงำที่ถูกทิ้งและสร้างไว้อย่างน่าสงสัย น่าจะเป็นบทเรียนให้กับหญิงสาวที่ใฝ่ฝันจะเข้ามาสู่วงการบันเทิง
หลังจากที่ พ.ต.ท.บรรหาร นิติอมรกุล พนักงานสอบสวน สบ.3 สน.ห้วยขวาง ได้รับแจ้งจากแม่บ้าน คอนโดกลางกรุง รีสอรท์ ถนนรัชดา ว่า มีผู้หญิงเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง เลขที่ห้อง 20/31 ชั้น 4
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าศพผู้หญิงคนดังกล่าวคือ ศศิธร อ่อนวิมล หรือ “น้องปิ๊ก” ซึ่งเคยผ่านเวทีการประกวดนางแบบ FHM นิตยสารชื่อดัง
ทั้งนี้ น้องปิ๊กยังเคยได้รับรางวัลจากการประกวดนางแบบมาอีกหลายเวที
เธอนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน สวมชุดนอนสีดำบางๆ และมีผ้าห่มคลุมจนถึงหน้าอก ใกล้ๆกับข้อศอกขวามีอาวุธปืนชนิดลูกโม่ ขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก แขนซ้ายอยู่ในผ้าห่ม แขนขวางอมือพาดที่หน้าอก
สภาพศพถูกปืนยิงเข้าที่ขมับด้านขวา 1 นัด โดยในห้องพักยังคงเปิดแอร์ทิ้งไว้ ไม่มีร่องรอยการรื้อค้น และศพไม่มีร่องรอยการถูกข่มขืน
คาดว่าเธอน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 วัน
นางรัตนา แม่บ้านซึ่งเป็นผู้แจ้งเหตุ บอกว่า คนที่พักอาศัยอยู่ข้างห้องน้องปิ๊กได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาเป็นระยะๆจากห้องของเธอ เมื่อเรียกช่างทำกุญแจมาเปิดห้องก็ต้องตะลึงเพราะกลิ่นเน่าเหม็นนั้นทะลักออกมาอย่างรุนแรง
พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ให้ความเห็นหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า เฉพาะสภาพศพพบพิรุธในหลายประเด็นด้วยกัน ซึ่งวิเคราะห์แล้วเหมือนกับการจัดฉาก
ฉากที่ว่านั้น ถูกตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่า หากผู้เสียชีวิตต้องการที่จะยิงตัวตายก็ไม่น่าจะมีเขม่าดินปืนติดอยู่ที่ผ้าห่ม แต่จากการตรวจสอบพบว่า มีเขม่าดินปืนถึง 2 จุดด้วยกัน
พิรุธอย่างที่ 2 คือ ท่านอนการเสียชีวิต ที่ดูเหมือนถูกจัดฉากในท่าที่จงใจให้มือขวากับปืนอยู่ใกล้กัน แต่ตามธรรมชาติแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะมือไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะจับปืนได้
พิรุธอีกประการหนึ่งซึ่งสำคัญมากคือ ปลอกกระสุน 2 นัด นัดหนึ่งอยู่ใต้เตียงโดยถูกรองเท้าแตะสีขาวทับไว้ และอีกนัดหนึ่งอยู่ในลิ้นชักปลายเตียง!! ในขณะที่สภาพศพน้องปิ๊กถูกยิงเข้าที่ขมับแค่นัดเดียว
และหากคดีนี้เป็นการฆาตกรรมจริง คาดว่าคนร้ายอาจจะเอาผ้าห่มทำการปิดหน้าของผู้ตาย จากนั้นจึงลงมือสังหารเหยื่อ แต่ทั้งนี้ก็จะให้ทางนิติวิทยาศาสตร์ ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นรอยเปื้อนหรือเป็นเขม่าดินปืนกันแน่
โดยในชั้นการสอบสวนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพยานและหลักฐานๆต่าง อย่างละเอียดเสียก่อน รวมทั้งกล้องวงจรปิดด้วย ซึ่งถ้าเป็นการฆาตรกรรมจริง กล้องวงจรปิดก็ต้องจับภาพของคนร้ายเอาไว้ได้ ซึ่งคงจะต้องขอตรวจสอบภาพจากกล้องเสียก่อน
แต่จนแล้วจนรอด กล้องวงจรปิดก็ไม่เผยให้เห็นคนร้ายตามที่ตั้งใจไว้
ในขณะที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโด ให้ข้อมูลว่า เห็นน้องปิ๊กครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ก่อนจะรู้ว่าเสียชีวิตในห้องพักเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม
ผู้ต้องสงสัยจึงหนีไม่พ้นคนรู้จัก หรือคนที่สนิทสนมใกล้ชิดที่สามารถเข้ามาอยู่ในห้องกับน้องปิ๊กได้
หากมองไปที่ประเด็นชู้สาว หลังทราบข่าวการเสียชีวิต น้องชายแฟนเก่าน้องปิ๊ก ออกมาบอกว่าเธอไม่น่าคิดสั้น เพราะปกติแล้วน้องปิ๊กเป็นคนที่มีบุคลิกร่าเริง
เขาบอกอีกว่า น้องปิ๊กได้เลิกรากับพี่ชายมาได้ประมาณเดือนกว่าแล้ว และเคยเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันบ้าง ล่าสุดแฟนเก่าน้องปิ๊กเข้าให้ปากคำตำรวจ ยอกมรับว่าเคยทะเลาะกันจริง แต่สาเหตุที่เลิกกันนั้นไม่ได้สาหัสถึงขั้นต้องใช้ความรุนแรงฆ่าแกงกัน
คดีนี้ตำรวจเชื่อมั่นว่าเป็นการฆาตกรรมอำพรางอย่างแน่นอนโดยตั้งประเด็นไว้ 3 กรณีคือ 1.ชู้สาว ซึ่งต้องรอการสอบปากคำอีกหลายคน 2.เรื่องขัดแย้งในกองมรดก ที่พ่อของน้องปิ๊กได้ทำพินัยกรรมยกมรดกทั้งหมดให้กับน้องปิ๊กเพียงคนเดียว ก่อนที่จะเสียชีวิตไปเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว และ 3.คือ ปมหนี้สิน เนื่องจากระยะหลังมานี้งานเดินแบบถ่ายแบบของน้องปิ๊กน้อยลงมาก
หลักฐานสุดท้ายที่น้องปิ๊กเหลือทิ้งไว้ในเครื่องโทรศัพท์ Blackberry (BB) คือสถานะ (status) ที่เธอพิมพ์เอาไว้ว่า
“Just let it be”
ย้อนกลับไปดูเมื่อครั้งที่น้องปิ๊กเข้าประกวด FHM น้องปิ๊ก ระบุว่า น้ำหนัก 42 กก.สูง 161 ซม. เกิดวันที่ 8 มิถุนายน 2526 จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล คณะนิเทศศาสตร์ โดยก่อนหน้านี้เคยเข้าประกวด “สาวหน้าใสโอเลย์” มาแล้ว และเคยมีผลงานโฆษณา “แครี่บอย”
แต่เวทีที่สร้างชื่อให้กับเธอคือ FHM Girls Next Door 2008 ซึ่งนับเป็นกิจกรรมที่นิตยสาร FHM ทั่วโลกได้จัดขึ้น เพื่อเป็นการค้นหาสาวเซ็กซี่เข้าสู่วงการแฟชั่น
ปีที่น้องปิ๊กสมัครนั้น เป็นการจัดงานปีที่ 5 โดยตัดสินจากผู้เข้าประกวดเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ ทุกคนต้องผ่านการสัมภาษณ์ เพื่อที่จะคัดให้เหลือ 100 คน
หลังจากนั้นจะเปิดให้ทุกคนร่วมโหวตจนได้สาวสวยเซ็กซี่ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมา 10 คน โดยน้องปิ๊ก ได้เบอร์ GND003 ซึ่งเพื่อนรุ่นเดียวกันในเวที FHM ครั้งนั้น อาทิ ''น้องเกศ'' เกศสุดา ทิศภาค, ''น้องกิ๊ฟ'' จุฑามาศ พุกจินดา, ''น้องเบียร์'' จุฑาทิพย์ พุทธเสน, ''น้องออย'' พัชรินทร์ ส่องศรี เป็นต้น
โดยทั้ง 10 คนได้เข้าร่วมกิจกรรมเก็บตัวกันที่พัทยา ก่อนเข้าสู่วันประกาศผลการตัดสินในวันที่ 9 เม.ย.51 ที่ Baroque อาร์ซีเอ พระราม 9
รูปแบบการจัดงานวันนั้น เต็มไปด้วยบรรดาสาวงาม เหล่าพริตตี้ที่มาร่วมสร้างสีสันภายใต้คอนเซปต์สบายๆ ต้อนรับวันสงกรานต์ ทางทีมงานได้แจกอุปกรณ์การเล่นน้ำสงกรานต์ เป็นปืนฉีดน้ำ และผ้าเช็ดหน้า ให้แก่แขกที่มาร่วมงานได้สนุกสนานกันด้วย
ผลการประกวดในวันนั้น ตำแหน่งชนะเลิศ FHM Girls Next Door 2008 คือ “น้องออย'' นางสาวพัชรินทร์ อายุ 19 ปี น้ำหนัก 50 กก. สูง 170 ซม. ได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท พร้อมขึ้นปกนิตยสาร FHM
ส่วนน้องปิ๊กได้รางวัลพิเศษ ''Miss Photogenic by Big Camera'' ได้รับเงินรางวัลพร้อมกล้อง Canon XZ-80 ซึ่ง “ชิดชัย เธียรกาญจนวงศ์” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด เป็นกรรมการตัดสิน
นับจากวันนั้นถึงวันนี้ ผ่านมา 2 ปี การเสียชีวิตของน้องปิ๊ก ได้กลายเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนางแบบ ดารา นักร้องที่มีชื่อเสียง เพราะถนนสายมายานี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
และก่อนที่ความจริงทั้งหมดจะปรากฏ ทีมงาน FHM บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จํากัด ได้แสดงความไว้อาลัยกับการจากไปของ “น้องปิ๊ก” ว่า
"ขอคุณจงหลับไหล
ไปพร้อมความอบอุ่นจากใจเรา
ในค่ำคืนอันเปลี่ยวเหงา
ใจของเราส่งไปหา
ค่ำคืนอันมืดมิด
แสงแห่งธรรมจะส่องทาง
โปรดจงปล่อยวาง
อย่าเหนี่ยวรั้งสิ่งใด
ให้เป็นภาระแห่งดวงวิญญาณเลย"