สร้างจิตสำนึกการเมืองที่ดี ชงสอบในโอเน็ต-ออกกม.หนุนค่านิยม
คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งขึ้นได้นำเสนอแผนปฏิรูปให้รัฐบาลเห็นชอบแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดย ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งขึ้นได้นำเสนอแผนปฏิรูปให้รัฐบาลเห็นชอบแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองที่มี เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน ได้เสนอแนวทางปฏิรูปไว้ 5 ประเด็น เพื่อนำไปสู่การมีประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 1.การเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.กลไกการแก้ไขปัญหา ความขัดแย้งโดยสันติวิธีและการรู้รักสามัคคีของสังคมไทย 3.การกระจาย อำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการจัดสรรทรัพยากรที่เป็นธรรม 4.การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมเพื่อการปฏิรูปประเทศ และ 5.การสร้างรัฐธรรมาธิปไตย
เริ่มต้นด้วยการเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ในทุกระดับชั้น เสนอให้เป็นหลักสูตรภาคบังคับ เพื่อให้มีการถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับระบบการเมืองการปกครอง หน้าที่พลเมือง คุณธรรมจริยธรรม และคุณธรรมให้แก่เด็กและเยาวชนให้เป็นวิถีชีวิต เพื่อให้ระบบการศึกษาได้ขัดเกลาบ่มเพาะเยาวชนให้มีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ รวมทั้งให้ประชาชนมีความสำนึกในความเป็นพลเมืองคู่กับระเบียบวินัย หน้าที่ ความรับผิดชอบ และการเป็นพสกนิกรของพระมหากษัตริย์
นอกจากนี้ เสนอให้สถาบันทางการศึกษาจัดให้มีการทดสอบความรู้การเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยผ่านระบบแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) และแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นสูง (GAT-PAT) รวมทั้งต้องพัฒนาโรงเรียนทุกโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการให้เป็น “โรงเรียนประชาธิปไตย”
สำหรับนอกระบบการศึกษาต้องพัฒนาการเรียนรู้ใน 3 ระดับ คือ 1.การพัฒนา ครูผู้สอนในการสร้างหลักสูตรและคู่มือการเรียนการสอน 2.การสร้างสื่อการเรียนการสอน และ 3.กิจกรรมการเรียนรู้ เช่น การทัศนศึกษาการจัดค่ายอบรมผู้นำ เยาวชนประชาธิปไตย การสร้างวิทยากร เผยแพร่ประชาธิปไตย การสร้างจิตอาสา พัฒนาการเมือง เป็นต้น
ประเด็นการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งเป็นหัวใจการปฏิรูปการเมือง นอกจากทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด ให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็งและเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง การเลือกตั้งจะต้องคัดสรรเพื่อให้ได้นักการเมืองที่ดีมีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม รักษาประโยชน์ของชาติ
สิ่งสำคัญจากนี้ไปคดีเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งต้องมีจำนวนลดลง ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้งของทุกภาคส่วนมากขึ้น พรรคการเมืองมีระบบการบริหารจัดการที่ดี มีประสิทธิภาพในการบริหารงาน ประชาชนมีส่วนร่วม นักการเมืองมีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม รักษาประโยชน์ของชาติและเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง
อีกประเด็นคือ การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น มีข้อเสนอที่น่าสนใจ เช่น จัดให้มีหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับผู้ที่สนใจจะสมัครเป็นนักการเมืองท้องถิ่นเพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ให้ผู้สมัครเป็น
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับท้องถิ่นทุกตำแหน่งยื่นหลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้ย้อนหลัง 3 ปี พร้อมทั้งแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และให้มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ให้มีอาสาสมัครพัฒนาการเมืองท้องถิ่น เพื่อร่วมกันรณรงค์ให้การเลือกตั้งมีความสุจริตและเที่ยงธรรม
นอกจากนี้ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศฯ ได้เสนอให้ผลักดันร่างกฎหมายการเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ มีความเชื่อ ค่านิยม และทัศนคติที่ดีในทางการเมืองและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ รวมถึงเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบการทุจริตและประพฤติมิชอบ การจัดทำงบประมาณแผ่นดิน รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนมีสำนึกความเป็นพลเมือง เข้าใจและตระหนักในสิทธิหน้าที่ ความรับผิดชอบของตน เคารพกฎหมายและกติกาในการอยู่ร่วมกันในสังคม รู้จักยอมรับในความเห็นทางการเมืองโดยสุจริตที่แตกต่างกัน มีจิตสาธารณะ ไม่เห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และออกเสียงประชามติโดยไม่ซื้อสิทธิขายเสียงหรือปราศจากการครอบงำ
สุดท้ายเป็นเรื่องการสร้างรัฐธรรมาธิปไตย คือ ได้กำหนดเนื้อหาสาระที่สำคัญ ประกอบด้วย การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และการปฏิบัติหน้าที่โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การควบคุม การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและการลงโทษ และการส่งเสริมสนับสนุนและเสริมสร้างธรรมาธิปไตย ให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง