ศาลนครพนมออกหมายจับ5ผู้ต้องหาพาเจ้าคุณจำนงค์หลบหนี
นครพนม-ตำรวขอศาลอนุมัติหมายจับสีกาคนสนิทและพวกรวม5คนพาเจ้าคุณจำนงค์อดีตพระพรหมเมธีหนีคดีทุจริตเงินทอนวัดข้ามประเทศ
นครพนม-ตำรวขอศาลอนุมัติหมายจับสีกาคนสนิทและพวกรวม5คนพาเจ้าคุณจำนงค์อดีตพระพรหมเมธีหนีคดีทุจริตเงินทอนวัดข้ามประเทศ
พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจนครพนมรวบรวมพยานหลักฐาน เสนอศาลจังหวัดนครพนม ขออนุมัติออกหมายจับบุคคลที่ให้การช่วยเหลือพระจำนงค์ หรืออดีตพระพรหมเมธี หรือเจ้าคุณจำนงค์ เอี่ยมอินทรา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ กทม. ผู้ต้องหาคดีทุจริตเงินทอนวัดหลบหนีออกนอกประเทศ รวม 5 คน ประกอบด้วย
1. นางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล อายุ 54 ปี สีกาคนสนิท
2.นายพีรวิช ศรีศรัทธา อายุ 28 ปี เป็นคนที่คอยให้การช่วยเหลือ
ส่วนอีก 3 คน เป็นชาวสปป.ลาว อยู่ระหว่างการหลบหนี ตำรวจจะได้เร่งประสานงานติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
ผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกออกหมายจับ ถูกตั้งข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือ เป็นผู้ต้องหากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือ โดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษ จำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ต.สุวิชาญ ระบุด้วยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสั่งการลง ส่วนตำรวจในพื้นที่ พร้อมดำเนินการทุกขั้นตอนตามกฎหมาย แต่ไม่สามารถให้สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูลเชิงลึกได้ จะต้องรอคำสั่งผู้บังคับบัญชาเท่านั้น เกรงว่าจะกระทบการทำงานของตำรวจ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนางศศิร์อรได้แล้วจากตรวจสอบประวัติพบว่า เป็นมีฐานะร่ำรวย มีสามีไปประกอบธุรกิจทำเหมืองแร่ ในสปป.ลาว ทำให้รู้ช่องทางในหารเลี่ยงการจับกุม และสามารถพาหนีออกนอกประเทศได้ง่าย รวมถึงมี ลูกสิทธิ์ คนสนิท อีก 1 คน คือ นายพีรวิช ศรีศรัทธา อายุ 28 ปีโดยจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า สีกาคนสนิท รวมถึงลูกศิษย์ อีกคน อยู่ในการควบคุมของ พล.ต.อ.จักรทิพย์แล้ว