ใกล้เส้นตาย 90 วัน การเมืองจัดทัพ-เร่งแรงดูด
ทุกพรรคการเมืองพร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้ง เหลือแค่รอระฆังการปลดล็อกการเมืองดังขึ้นเมื่อไหร่ การเมืองจะเข้าสู่โหมดสงคราม เลือกตั้งทันที
ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
การเมืองไทยเดินทางเข้าสู่เดือน พ.ย.อย่างเป็นทางการ การเข้าสู่เดือนที่ 11 ของปีในครั้งนี้มีความหมายมากกว่าทุกครั้ง เพราะนั่นหมายถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองมีความชัดเจนขึ้น
ความชัดเจนในที่นี้หมายถึงการครบกำหนด 90 วัน ในการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองจนถึงวันเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา 97 ของรัฐธรรมนูญ กำหนดให้บุคคลที่จะมีคุณสมบัติเป็นผู้สมัคร สส.จะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียวเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในกรณีที่มีการเลือกตั้งทั่วไป เพราะเหตุยุบสภาระยะเวลา 90 วันดังกล่าวให้ลดลงเหลือ 30 วัน
วันสุดท้ายของการเข้าเป็นสมาชิกพรรคที่จะทำให้มีอายุของการเป็นสมาชิกครบ 90 วัน และคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ คือ วันที่ 26 พ.ย. โดยเป็นวันที่อยู่บนพื้นฐานที่ว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. 2562 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศเอาไว้
ยิ่งเข้าใกล้วันที่ 26 พ.ย. มากเท่าไร ดูเหมือนว่าพรรคการเมืองใหญ่น้อยจะมีการขยับตัวมากขึ้นเท่านั้น
พรรคเพื่อไทย เป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่หลายฝ่ายจับตามองพอสมควร โดยเฉพาะการวางตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่ในที่สุดแล้วที่ประชุมใหญ่ของพรรคก็ยังคงให้ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคคนเดิมเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป โดยมี ภูมิธรรม เวชยชัย ทำหน้าที่เลขาธิการพรรค
แต่ความน่าสนใจของพรรคเพื่อไทยอยู่ที่การกลับเข้ามามีบทบาทภายในพรรคของ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ในฐานะประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรค พร้อมกับถูกคาดหมายว่าจะเป็นเพียงหนึ่งเดียวของพรรคเพื่อไทยที่จะอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคที่จะต้องเสนอให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันสมัครรับเลือกตั้ง สส.
การประกาศตัวชัดเจนของคุณหญิงสุดารัตน์ในครั้งนี้ เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีความพร้อม เต็มที่แล้วสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้
พรรคพลังประชารัฐ เป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองที่บรรดาผู้สันทัดกรณีมองว่าจะเป็นพรรคการเมืองขั้วที่ 3 อย่างแท้จริง ภายหลังมีแรงสนับสนุนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะจาก คสช.และรัฐบาลชุดปัจจุบัน เนื่องจากมีรัฐมนตรีของรัฐบาลถึง 4 คน ตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรค
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีบรรดาอดีต สส.สารพัดในนามกลุ่มสามมิตรเข้ามาร่วมงานเต็มตัว ทั้งในการจัดตัวผู้สมัครและการกำหนดยุทธศาสตร์หาเสียงเลือกตั้ง หรือแม้แต่การจัดเตรียมกระสุนดินดำลงสนามรบเลือกตั้ง
ทว่ากลับเริ่มปรากฏปัญหาความไม่ลงรอยกันในการวางตัวผู้สมัครระหว่างนักเลือกตั้งอาชีพกับนักเลือกตั้งมือใหม่ที่มากบารมี เพราะในบางพื้นที่ต่างฝ่ายต่างต้องการเอาเด็กของตัวเองลงสนาม ทำให้ในช่วงใกล้ครบกำหนด 90 วัน อาจมีการหักเหลี่ยมโหดกัน เว้นเสียแต่จะเคลียร์กันลงตัว
พรรคชาติไทยพัฒนา กำลังเป็นพรรคการเมืองที่มาเงียบๆ แต่ดูดเรียบเหมือนกัน แม้ช่วง 1-2 เดือนจะมีสมาชิกพรรคระดับบิ๊กเนมย้ายออกไปหลายคน เช่น ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ อดีต สส.สุพรรณบุรี หรือกลุ่มยาวอหะซัน แต่ก็มีกลุ่มการเมืองใหญ่เข้ามาไม่น้อย
ดังจะเห็นได้จากการเข้ามาของกลุ่มสะสมทรัพย์ เจ้าของพื้นที่นครปฐม และกลุ่มไกรวัตนุสสรณ์ เจ้าของพื้นที่สมุทรสาคร กลุ่มพรรคมาตุภูมิ ที่เคย มีอดีต สส.ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
แต่หากจะบอกว่าความเคลื่อนไหวไหนของพรรคชาติไทยพัฒนาที่มีนัยทางการเมืองมากที่สุด ต้องยกให้กับการกลับมาเป็นเลขาธิการพรรคของ "ประภัตร โพธสุธน" ซึ่งเป็นนักการเมืองมากบารมีอีกคน อาจทำให้พรรคชาติไทยพัฒนามีเสน่ห์และดึงดูดให้นักเลือกตั้งมาอยู่กับพรรคมากขึ้น
พรรคภูมิใจไทย หากจะบอกว่าเป็นพรรคการเมืองที่ดูดเงียบๆ แต่ดูเรียบเหมือนกัน คงไม่เป็นเรื่องเกินจริงไปนัก ภายหลังมีอดีต สส.แถวหน้าเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เช่น ชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตสส.อุทัยธานี สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีต สส. ศรีสะเกษ เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต สส.พระนครศรีอยุธยา
เหนืออื่นใดที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยมีแรงดึงดูดคือ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีคอนเนกชั่นต่อได้กับทั้งทหารและนักการเมือง อีกทั้งที่ผ่านมาไม่ค่อยแสดงท่าทีต่อต้าน คสช.เท่าใดนัก และมีแนวโน้มว่าจะได้ สส.จำนวนในระดับที่สามารถเข้าร่วมเป็นรัฐบาลได้ จึงช่วยให้พรรคภูมิใจไทยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยมากกว่าพรรคการเมืองอื่น
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้ยังไม่ค่อยปรากฏความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการดูดอดีต สส.มากนัก เนื่องจากวุ่นอยู่กับการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่เมื่อการจัดการภายในของพรรคเรียบร้อยเมื่อไหร่ พร้อมจะเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนอดีต สส.อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ทุกพรรคการเมืองพร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้ง เหลือแค่รอระฆังการปลดล็อกการเมืองดังขึ้นเมื่อไหร่ การเมืองจะเข้าสู่โหมดสงคราม เลือกตั้งทันที