ปปช.เตรียมยืดเวลาเวลาบังคับใช้ประกาศยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ปปช.เตรียมยืดเวลาบังคับใช้ประกาศยื่นบัญชีทรัพย์สิน ยืนยันหลักการเดิมแต่ช่วยให้มหาวิทยาลัยหาคนมาแทนทัน
ปปช.เตรียมยืดเวลาบังคับใช้ประกาศยื่นบัญชีทรัพย์สิน ยืนยันหลักการเดิมแต่ช่วยให้มหาวิทยาลัยหาคนมาแทนทัน
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า สำหรับการแก้ปัญหากรณีกรรมการสภามหาวิทยาลัยต่างๆเตรียมยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่พอใจประกาศป.ป.ช.ที่ให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ทางป.ป.ช.ได้ส่งตัวแทนไปหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ในการประชุม ป.ป.ช.ในวันที่ 13 พ.ย.นี้จะมีการหยิบยกประเด็นปัญหารวมถึงข้อห่วงใยมาพิจารณา
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ส่วนที่มีการขอให้ ป.ป.ช.ทบทวนบางตำแหน่งที่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินนั้น ยังยืนยันว่าผู้บริหารระดับสูงมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามกฎหมาย แต่เมื่อ ป.ป.ช.ออกประกาศไปแล้ว ก่อให้เกิดผลกระทบทำให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยบางคนประสงค์ที่จะลาออก ดังนั้นจึงต้องมาพิจารณาขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศดังกล่าวทั้งฉบับไม่ใช่เฉพาะกรณีของกรรมการสภามหาวิทยาลัย
"อย่างไรก็ตามการประชุม ป.ป.ช.ในวันที่ 13 พ.ย.จะยังไม่ตกผลึกในแนวทางการแก้ไขปัญหา แต่จะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าจะขยายเวลาในการยื่นบัญชีทรัพย์สินออกไปเท่าไหร่เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเพราะจากเดิมจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ธ.ค. หากขยายเวลาออกไปอีก 30 วัน รวมเป็น 60 วัน ก็จะมีเวลาเหลือเฟือ เพื่อให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยที่มีความประสงค์ที่จะลาออกได้เตรียมตัว เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยที่จะต้องหาคนมาทดแทนกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่ลาออก แนวทางนี้จะทำให้การดำเนินการตามกฎหมายไม่เกิดความสะดุด"พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
เมื่อถามว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นห่วงกรณีที่สมเด็จพระสังฆราชต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามประกาศดังกล่าวด้วย พล.อ.วัชรพล กล่าวว่า ประเด็นนี้ ป.ป.ช.ได้วินิจฉัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีความชัดเจนว่าองค์สมเด็จพระสังฆราชไม่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามประกาศ ป.ป.ช. เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานสงฆ์ที่โปรดเกล้าฯโดยพระมหากษัตริย์ แต่ไม่รวมถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในสภามหาวิทยาลัย ดังนั้นพระเถระหลายๆรูปก็จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร