จี้กกต.สอบพรรคระดมทุน "สมชัย"แจ้งเบาะแสส่อขัดคำสั่งคสช.
“สมชัย” ได้ข้อมูลพรรคการเมือง ระดมทุนเอิกเกริกท้าทายคำสั่ง คสช.เร่งเอาผิด
“สมชัย” ได้ข้อมูลพรรคการเมือง ระดมทุนเอิกเกริกท้าทายคำสั่ง คสช.เร่งเอาผิด
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “สมชัย ศรีสุทธิยากร” ว่า แจ้งเบาะแส กกต.นนทบุรี และผู้ตรวจการเลือกตั้งนนทบุรี ทราบข่าวมาว่ามีพรรคการเมืองหนึ่งจะจัดงานเลี้ยงระดมทุนอย่างเอิกเกริก ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ย่านเมืองทองธานี ประมาณวันที่ 19 ธ.ค. 2561
“หากยังไม่มีการปลดล็อกทางการเมือง ถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย ทำผิดคำสั่ง คสช. ที่ 57/2557 เรื่อง ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย ระบุว่า แม้อาจจะมีคำสั่งของหัวหน้า คสช. ออกมาก่อนวันที่ 19 ธ.ค. 2561 ทำให้การจัดงานในวันดังกล่าวไม่เป็นความผิด แต่การทำกิจกรรมทางการเมืองน่าจะรวมไปถึงการเตรียมการ เช่น การจองสถานที่ การมัดจำ การส่งเอกสารเชิญ การติดต่อเพื่อให้องค์การธุรกิจมาร่วมงาน จึงขอให้ทาง กกต.หาเบาะแสในเรื่องดังกล่าวว่าเป็นการทำผิดคำสั่งของหัวหน้า คสช.หรือไม่
ทั้งนี้ นายสมชัย ยังลงท้ายว่าหน่วยงานธุรกิจใด นักธุรกิจคนใด ที่ได้รับจดหมายเชิญที่มีหัวจดหมายพรรคการเมืองดังกล่าวและลงนามโดยผู้บริหารพรรคการเมือง สามารถเสนอต่อสื่อหรือส่งมาที่ตนเองก็ได้
นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเป็นกังวลมาตลอดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ไม่ควรเข้าร่วมประชุมแม่น้ำ 5 สาย เพราะมีสถานะเป็นทั้งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รวมทั้งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ
“เมื่อเข้าประชุมจึงมีปัญหาตามมา อีกทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็มีท่าทีสอดรับในเรื่องการกำหนดให้ไม่มีชื่อผู้สมัครหรือชื่อพรรค และโลโก้พรรคด้วย โดยขณะนี้ทีมกฎหมายของพรรคกำลังพิจารณาเรื่องนี้ว่าขัดต่อกฎหมายหรือไม่” นายธนา กล่าว
ทั้งนี้ ไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคใหญ่กับพรรคเล็ก แต่มองว่าอาจจะทำให้คนมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยลง เพราะการกาบัตรมีความยุ่งยากและสับสนในการลงคะแนน ซึ่งถือว่าเป็นการบั่นทอนพรรคการเมืองอย่างชัดเจน
นายธนา กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีความเป็นธรรมและสร้างความสับสนให้กับประชาชนอีกหลายเรื่อง เช่น การโฆษณาหาเสียงที่ไม่รู้ว่าจะทำได้เพียงใด การแบ่งเขตเลือกตั้ง จึงเรียกร้องให้ กกต.ทำหน้าที่เป็นกลางและบริสุทธิ์ยุติธรรม เพื่อไม่ให้ 4 ปีที่ผ่านมาสูญเปล่า
นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า หาก กกต.ยังไม่มีการทบทวนใส่ชื่อและโลโก้พรรคการเมืองในบัตรเลือกตั้ง ก็จะประสานหารือกับพรรคการเมืองอื่นๆ ที่มีจุดยืนตรงกันในการแสดงท่าทีคัดค้านและกำหนดมาตรการดำเนินการร่วมกันต่อไป