ปลดล็อคประมงไทยไม่ช่วยแก้ปัญหาชี้กม.400ฉบับคือตัวอุปสรรค
นายกสมาคมประมงอวนล้อมแห่งประเทศไทยขอรัฐบาลเปิดโอกาศชาวประมงมีส่วนร่วมแก้กฏหมาย ชี้ไอยูยูเข้ามาปรับปรุงแก้ไข 4 ปียาวนานที่สุดในโลกกิจการประมงเสียหลายแสนล้านหากินยากทำเศรษฐกิจทรุด
นายกสมาคมประมงอวนล้อมแห่งประเทศไทยขอรัฐบาลเปิดโอกาศชาวประมงมีส่วนร่วมแก้กฏหมาย ชี้ไอยูยูเข้ามาปรับปรุงแก้ไข 4 ปียาวนานที่สุดในโลกกิจการประมงเสียหลายแสนล้านหากินยากทำเศรษฐกิจทรุด
เมื่อวันที่ 9 มค. 62 นายภูเบศ จันทนิมิ นายกสมาคมประมงจังหวัดปัตตานี ในฐานะนายกสมาคมประมงอวนล้อมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การปลดล็อคของไอยูยูยังไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี สำหรับผู้ประกอบการประมงไทยซึ่งได้ประสบมาร่วม 4 ปี เพราะยังมีกฎหมาย และประกาศต่างๆ รวมแล้ว400 ฉบับที่เป็นอุปสรรคไม่สามารถประกอบอาชีพได้ และเป็นความเสียหายไปแล้วหลายแสนล้านบาท มีทั้งทรัพย์สินเรือ ปริมาณสัตว์น้ำที่ไม่ได้จับสูญหายไป ฯลฯ ส่งผลต่อการค้าขายส่งผลต่อเศรษฐกิจภาพรวม ทางออกของชาวประมงที่ดีขึ้นคือกฎหมายทั้งหมดต้องเปิดโอกาสให้ชาวประมงเข้าไปมีส่วนร่วมในการนำเสนอและแก้ไขร่วมกัน ไม่ใช่การกระทำอยู่ข้างเดียว โดยเฉพาะพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และ พระราชกำหนด การประมง (ฉบับบที่ 2) พ.ศ.2560
“ทุกฝ่ายต้องมานั่งดูหารือทบทวนกันใหม่ อันไหน มีปัญหา อุปสรรคมาต่อการประกอบอาชีพ และอยู่ไม่ได้ จะต้องแก้ออก เรียงลำดับกฎหมายใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะต้องทำร่วมกัน โดยชาวประมงจะต้องมีส่วนร่วม หากไม่ดำเนินการ พรก. กฎหมาย และประกาศต่าง ๆ รวม 400 ฉบับ ก็ยังคงประสบปัญหาเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในส่วนอุตสาหกรรมการประมง ก็จะดีขึ้น”นายภูเบศ กล่าว
ทั้งนี้ กฎหมายบางตัวแก้ไขโดยไอยูยู โดยไม่ได้บังคับไทย เพราะการทำกฎหมายขาดการมีส่วนร่วมของชาวประมงเป็นการกระทำกฎหมายอยู่ข้างเดียว ไอยูยูเข้ามาแก้ไขปรับปรุง ถือว่ายาวนานที่สุดในโลกเกือบ 4 ปี ชาวประมงร้องขอมาตลอดว่า ควรทบทวนว่าสิ่งใดที่เกินไป ส่วนไอยูยูก็ไม่ได้ร้องต้องกลับมาคืนความเป็นธรรมให้กับชาวประมง เรือประมง ที่ไม่ถูกต้องทางรัฐบาลก็เอาออกไปแล้วเป็นเรือขาว แดง ประมาณกว่า 10,000 ลำ มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จากเรือประมงประมาณ กว่า 20,000 ลำ และที่ถูกต้องมีประมาณ 10,000 ลำต้น และที่ออกประกอบการได้ประมาณ7,000 ลำ จะต้องดูแล อย่าให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้
ภาพประกอบข่าว