อัยการแจงยิบ เหตุฟ้อง"แรมโบ้อีสาน"ไม่ทัน จนคดีหมดอายุความ
อัยการ แจง เหตุส่งฟ้อง "แรมโบ้อีสาน" ไม่ทัน ยันทำตามขั้นตอน มีการส่งหนังสือด่วนที่สุดถึง ตร.ให้จับกุม ออกหมายจับก่อนคดีหมดอายุความแล้ว เผย เหตุฟ้องช้า ได้รับสำนวนเมื่อคดีผ่านไปแล้ว 8ปี จำเลยร้องขอความเป็นธรรม เลื่อนคดีบ่อย และไม่ได้ตัวมาส่งฟ้อง
อัยการ แจง เหตุส่งฟ้อง "แรมโบ้อีสาน" ไม่ทัน ยันทำตามขั้นตอน มีการส่งหนังสือด่วนที่สุดถึง ตร.ให้จับกุม ออกหมายจับก่อนคดีหมดอายุความแล้ว เผย เหตุฟ้องช้า ได้รับสำนวนเมื่อคดีผ่านไปแล้ว 8ปี จำเลยร้องขอความเป็นธรรม เลื่อนคดีบ่อย และไม่ได้ตัวมาส่งฟ้อง
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.62 "นายประยุทธ เพชรคุณ" รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่พนักงานอัยการสำนักงานจังหวัดพัทยา ไม่สามารถนำตัว "นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์" หรือแรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำร่วม นปช. ยิ่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา คดีชุมนุมช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เมื่อปี 2552 จนคดีขาดอายุความว่า เรื่องนี้ได้รับชี้แจงข้อมูลจากสำนักงานอัยการจังหวัดพัทยาว่าเหตุการณ์ในคดีเกิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.52 ซึ่งข้อหาที่ถูกดำเนินคดีนั้นมีอายุความ 10 ปีจะหมดอายุความในวันที่ 11 เม.ย.62
โดยพนักงานสอบสวน ได้รวบรวมสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. , นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. , นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. , นายจักรภพ เพ็ญแข (ผู้ต้องหาที่หลบหนีคดี) , นายอดิศร เพียงเกษ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำร่วม นปช. รวม 7 คน ในความผิดฐานร่วมกันโฆษณาหรือประกาศให้ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งให้เลิกการมั่วสุม , ร่วมกันโฆษณาหรือประกาศให้กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มาส่งอัยการ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.60 โดยในส่วนของนายจักรภพ ผู้ต้องหานั้นได้หลบหนีออกนอกประเทศ จึงขอศาลออกหมายจับตั้งแต่ต้นแล้ว
ซึ่งหลังจากที่อัยการพัทยารับสำนวนมา ก็สั่งสอบสวนเพิ่มเติมตามรูปคดี ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหายื่นร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาด้วยอัยการก็ได้พิจารณร่วมไปด้วย จนเมื่อวันที่ 8 ก.พ.62 พนักงานอัยการสำนักงานจังหวัดพัทยามีคำสั่งให้ฟ้องผู้ต้องหาทุกคน และนัดผู้ต้องหาให้มาพบในวันที่ 25 ก.พ.เพื่อนำตัวไปยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา แต่ปรากฎว่าผู้ต้องหาทั้ง 7 คนขอเลื่อนการส่งตัวฟ้องอัยการก็อนุญาตให้เลื่อนเป็นวันที่ 19 มี.ค.62 โดยก่อนถึงวันนัดดังกล่าวปรากฏว่าเมื่อวันที่ 15 มี.ค."นายสุภรณ์" หรือแรมโบ้ อีสาน ก็ได้มาขอเลื่อนนัดฟังคำสั่ง อ้างเหตุติดปราศรัยเลือกตั้ง
ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือคือ นายวีระกานต์ ,นายณัฐวุฒิ , นายจตุพร ,นพ.เหวง ได้เดินทางมาพบอัยการจังหวัดพัทยาตามนัดวันที่ 19 มี.ค. อัยการจึงยื่นฟ้องแกนนำ นปช. ทั้ง 4 คน เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพัทยาในวันดังกล่าว ส่วนนายอดิศร ก็ไม่ได้มาโดยอ้างเหตุติดหาเสียงเช่นเดียวกัน อัยการจึงมีคำสั่งให้ "นายอดิศร" และ "นายสุภรณ์" มาพบในวันที่ 2 เม.ย. กระทั่งถึงวันนัด "นายอดิศร" เดินมาตามนัด อัยการจังหวัดพัทยาจึงนำตัวฟ้องศาลเช่นเดียวกับ แกนนำ นปช.ทั้ง 4 คนที่ฟ้องไปก่อนหน้านี้แล้ว
"รองโฆษกอัยการฯ" กล่าวอีกว่า ส่วน "นายสุภรณ์" หรือแรมโบ้อีสานนั้น ก่อนที่จะถึงวันนัดที่ 2 เม.ย.62 นายศุชัยวุฒิ ชาวสวนกล้วย ทนายความ ก็ได้มายื่นคำร้องขอเลื่อนนัดฟังคำสั่ง ระบุเหตุนายสุภรณ์มีอาการหายใจไม่ออก นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่อัยการพิจารณาแล้วก็ไม่อนุญาตให้เลื่อนนัด โดยเมื่อถึงเวลานัดแล้วผู้ต้องหาไม่มา อัยการจึงได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง ผกก.สภ.เมือง พัทยา และ ผบช.ภ.2 ให้ดำเนินการจับกุมตัว "นายสุภรณ์" มาส่งอัยการฟ้องต่อศาลให้ได้ภายในวันที่ 5 เม.ย.62
แต่ตำรวจแจ้งว่ายังไม่สามารถนำตัวมาได้ จึงดำเนินการขอศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ "นายสุภรณ์" วันที่ 4 เม.ย.62 โดยหลังออกหมายจับ อัยการยังได้มีหนังสือด่วนที่สุดออกมาอีก ส่งถึงผกก.สภ.พัทยา , ผบช.ภ.2 , ผบก.ชลบุรี , นายอำเภอ เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการจับกุมตัว "นายสุภรณ์" มาให้อัยการฟ้องต่อศาลให้ได้ เนื่องจากคดีของนายสุภรณ์จะหมดอายุความในวันที่ 11 เม.ย.62 ซึ่งในหนังสือที่ส่งถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เน้นย้ำเป็นอักษรดำเข้ม
“ผมขอเรียนว่าเรื่องนี้ อัยการไม่ได้มีการปล่อยปละละเลยจากที่ตนได้อธิบายเป็นขั้นตอนจะเห็นได้ว่าในระหว่างดำเนินการที่เรารับสำนวนมาเป็นช่วงหลังเกิดเหตุถึง 8 ปีกว่า ซึ่งเราจะสั่งคดีเลยก็ไม่ได้เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม พอเราสั่งเด็ดขาดช่วง ก.พ.62 เราก็มีการเร่งรัดที่จะฟ้องมาตลอดอย่างกรณีนายณัฐวุฒิ , นายจตุพร ก็เลื่อนหลายครั้งจนมาฟ้องชุดแรกได้ 15 มี.ค.62 และนายอดิศร ได้เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ส่วนแเรมโบ้ ไม่มาเราก็ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างละเอียด เราไม่ได้ปล่อยปละละเลยแน่นอนคดีนี้ที่เราไม่ได้ตัวมาฟ้องจนหมดอายุความ ก็จะมีนายสุภรณ์กับนายจักรภพที่หนีไปต่างประเทศ การไปตามจับก็ไม่ใช่หน้าที่อัยการ แต่เราทำตามขั้นตอนทุกอย่าง" นายประยุทธ รองโฆษกอัยการฯ กล่าวและว่า ส่วนเรื่องจะมีการตั้งสอบอัยการเจ้าของสำนวนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานมา ซึ่งอัยการเจ้าของสำนวนก็ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว