posttoday

"อนุทิน" ชี้ กรณี"นาที" แค่คนรวยลืมแจ้งบัญชีทรัพย์สินไม่เจตนาปกปิด

04 กรกฎาคม 2562

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชี้กรณี "นาที" เป็นเรื่องของคนรวยลืมแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ไม่ได้เจตนาปกปิด มั่นใจ รัฐบาลเรือเหล็กยุคใหม่ สนิมไม่ขึ้น วอน ตั้งรัฐบาล อย่าช้าไปกว่านี้

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชี้กรณี "นาที" เป็นเรื่องของคนรวยลืมแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ไม่ได้เจตนาปกปิด  มั่นใจ รัฐบาลเรือเหล็กยุคใหม่ สนิมไม่ขึ้น วอน ตั้งรัฐบาล อย่าช้าไปกว่านี้

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. นายอนุทิน ชาญชีวรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลในส่วนของพรรคภูมิใจไทยว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยถือว่านิ่งมานานแล้ว โดยตนได้ส่งประวัติของว่าที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทั้ง7 คน8 ตำแหน่ง ไปครบถ้วนแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมา ส่วนกรณีน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาวของนายธาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าถูกตีกลับนั้นไม่มีอะไร เคลียร์กันแล้ว เพราะท่านก็มีความเหมาะสมเคยเป็นถึงผู้บริหาร และนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ซึ่งทางนายธาดาเองก็มีความเป็นห่วงว่าจะไม่มีใครคอยช่วย ท่านก็เลยเสียสละให้น้องสาวขึ้นมาเป็น และนายธาดาเองก็จะไปทำหน้าที่ประธานวิปของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งส่วนตัวถือว่าเหมาะสม

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีนางนาที รัชกิจประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ที่ออกมายอมรับว่าลืมแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.ว่า นางนาทีได้บอกว่าลืมแจ้งไปตั้งแต่ปี 54 คนรวยก็มักจะมีปัญหาแบบนี้ทุกปี ซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่านางนาทีลืมโดยไม่ตั้งใจจริงๆเพราะเท่าที่ตนจำได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสำนักงานของพรรคภูมิใจไทยที่จังหวัดสตูล แกคงลืมเพราะมีตึกแถวเยอะ ที่ผ่านมานางนาทีก็มายอมรับกับตน ดังนั้นเมื่อตนทราบก็บอกไปว่าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการทำงาน เลยได้มีการเสนอชื่ออีกนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ขึ้นมาเป็นว่าที่รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา ซึ่งปัยหาดังกล่าวนางนาทีไม่ได้ทราบมาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี ก็ได้มีการตรวจสอบประวัติจึงได้พบปัญหาดังกล่าว พอตนพิจารณาแล้วก็เลยมองว่าอย่าเพิ่งเป็นรัฐมนตรีในตอนนี้ดีกว่า จนกว่าศาลจะมีการพิพากษาออกมาอย่างไร ตนมองว่าไม่กระทบต่อพรรคเพราะนางนาทีเองเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ หากหลุดจากตำแหน่ง ก็มีการเลื่อนลำดับอื่นขึ้นมา

ส่วนที่นางนาทีถือเป็นแม่ทัพในพื้นที่ภาคใต้จะกระทบต่อฐานเสียงในพื้นที่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาที่ไม่สุจริต ซึ่งตนมองเป็นเรื่องของความผิดพลาด หากเทียบกับโทษที่เขาจะได้รับตามรัฐธรรมนูญก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคไม่ดี จะโดนกี่ปีก็แล้วแต่ศาลจะพิจารณา และโดยฐานะเขาก็มีธุรกิจร่ำรวย ไม่ได้เป็นส.ส.ก็ไม่ได้ลำบากอะไร เขามาเล่นการเมืองเพราะมุ่งประโยชน์ส่วนรวม ตนให้ความนับถือเขาในฐานะที่เป็นตัวแทนของพรรคภูมิใจไทยในส่วนของภาคใต้ ที่สามารถนำส.ส.เข้ามาได้ถึง11 คน ตนก็ต้องดูแลเพราะถือว่าเป็นคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามว่ามีความกังวลต่อกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มองว่ารัฐบาลชุดใหม่เป็นเหมือนเรือเหล็กที่อาจจะมีสนิมเนื้อใน หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ก่อนทำเรือเขาได้เคลือบบลิ๊งโค๊ด สนิมขึ้นไม่ได้ เวลาทำเรื่องเหล็กต้องถามผม เพราะต้องมีหลายชั้น หลายขั้นตอน ไม่มีปัญหาหรอกครับ ทำงานเพื่อบ้านเมืองอะไรดีก็ว่ากันไป อะไรไม่ดีต่อให้เสียงปริ่มน้ำหรือไม่ปริ่มน้ำก็ต้องค้านกัน รัฐบาลจะอยู่รอดได้ก็ต้องทำความดี ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทำงานเพื่อประชาชนและบ้านเมือง ถ้าทำแบบนี้ต่อให้มีเสียงเกินหนึ่งเสียงก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าถ้าทำสิ่งที่ไม่ได้ความ ต่อให้เสียงเกินกึ่งหนึ่งก็พังมาให้เห็นหลายรัฐบาลแล้ว”นายอนุทินกล่าว

ส่วนจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเป็นกังวลหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่าไม่กังวลเพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เพียงแต่อย่าทำให้ช้ามากกว่านี้เลย เพราะจากที่ตนลงพื้นที่ ประชาชนก็ถามว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาทำงานสักทีทั้งที่ผ่านการเลือกตั้งมาตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ตามตนคิดว่าก็คงใกล้แล้ว คงจะยืดไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ส่วนจะมองว่าอายุรัฐบาลจะอยู่ได้ประมาณ3-6 เดือนนั้น หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่าเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เพราะไม่ได้กังวลเรื่องเวลา ทุกคนตั้งใจทำงานก็ไปได้ และเราทำในสิ่งที่ดีเราก็ต้องมั่นใจ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ตั้งใจทำงานตามนโยบายที่ให้กับประชาชน เมื่อเข้าไปก็ทำงานได้ทันทีเลย โดยพรุ่งนี้(5 ก.ค.) ตนจะเดินทางไปยังร.พ.อภัยภูเบศร เพื่อหารือเรื่องการใช้กัญชาในการรักษาโรค เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าเราได้ทำตามนโยบายที่หาเสียง ในอนาคตจะได้เลือกเรากลับมาอีก

เมื่อถามว่าพรรคยังมั่นใจว่าในนโยบายที่สนับสนุนให้ประชาชนปลูกกัญชาครอบครัวละ6 ต้น จะได้บรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนมั่นใจ ส่วนที่นายกฯเคยระบุว่าไม่เห็นด้วยนั้นก็เป็นการพูดโดยทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสพูดกับนายกฯแล้ว ท่านก็มีความเห็นด้วยว่าพร้อมที่จะผลักดันเรื่องนี้ ขอเน้นว่านโยบายของพรรคเป็นการให้ประชาชนปลูกเพื่อการแพทย์ และเพื่อการรักษาโรคเป็นหลัก ส่วนจะทำให้เป็นรูปธรรมได้ขนาดไหน หลังจากที่ตนได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแล้วก็จะผลักดันให้ถึงที่สุด ส่วนไหนที่สามารถทได้โดยตำแหน่งไม่ว่าจะประกาศของกระทรวง หรือการแจ้งไปยังครม.ก็สามารถดำเนินการได้เลย ส่วนไหนที่จะไปแก้ไขกฎหมาย หรือตราพ.ร.บ.ใหม่ขึ้นมาก็จะดำเนินการตามกระบวนการไป