posttoday

"ธนาธร"ย้อนเวลาขอปลุกธงเขียวแก้รัฐธรรมนูญ

04 สิงหาคม 2562

เสนอ 4 ฉันทามติ วางแนวทางจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่เชื่อเป็นไปได้

 เสนอ 4 ฉันทามติ วางแนวทางจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่เชื่อเป็นไปได้

 4 ส.ค.  62 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวปาฐกถาในงาน"จินตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่ ประเทศไทยแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน" ตอนหนึ่งว่า  การแสวงหาฉันทามติครั้งใหม่ของสังคมการเมืองไทย" โดยระบุว่า สำหรับคนที่มาอยู่ร่วมกันที่นี่ ขอเริ่มต้นกับคำถามที่ว่า คุณพอใจกับความขัดแย้ง 13 ปีหรือเปล่า พอใจกับเนื้อหาสาระรัฐธรรมนูญ 60 หรือไม่ ซึ่งถ้าคำตอบคือไม่ นั่นคือเราเห็นตรงกัน เห็นเหมือนกันกับกับประชาชนอีกหลายล้านคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ นี่คือเหตุผลที่เรามารวมกัน เพื่อแสวงหาฉันทามติครั้งใหม่ของสังคมการเมืองไทย โดยเริ่มจากคำถามง่ายๆ ว่า สังคมแบบไหนที่เราอยากเห็นร่วมกัน วันนี้ เราเปิดตัวรณรงค์และหวังว่าจะกระจายไปทั่วทุกภูมิภาค และหวังว่าจะนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชน รัฐธรรมนูญ หรือข้อตกลงใหม่ที่เราคิดว่าจะสร้างให้อย่างยั่งยืน เราคิดว่า

1.ไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร เพราะไทยมีประวัติศาสตร์ มีมรดกสังคม วิถีชีวิตต่างจากประเทศอื่นๆ จะเอาจากประเทศอื่นมาใช้ทั้งดุ้นคงทำไม่ได้

2.ต้องเกิดขึ้นจากความต้องการของคนส่วนใหญ่ในสังคม

3. ประชาชนทุกชนชั้น ต้องมีส่วนร่วมในการสร้างข้อตกลงใหม่นี้ร่วมกัน และ

4. ตั้งอยู่บนบนเรียนและประสบการณ์ที่เป็นจริงของสังคมไทย

ธนาธร กล่าวว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราต้องแสวงหาฉันทามติร่วมกัน เราเคยทำและทำสำเร็จมาแล้วในรัฐธรรมนูญ 2540 ที่กว่าจะผ่านได้ นักการเมือง ข้าราชการ กลไกรัฐเก่าๆ ไม่อยากผ่าน ไม่อยากปฏิรูป องค์กรตุลาการก็คัดค้าน แต่ท้ายที่สุดรัฐสภาก็ต้องยกมือผ่านเพราะฝ่ากระแสความต้องการของประชาชนไม่ไหว มติประชาชนมีพลังเกินกว่าที่เขาจะทัดทานได้ นั่นคือสิ่งที่เคยทำสำเร็จ และครั้งนี้ก็ขอให้เราเชื่อว่าความเป็นไปได้มีอยู่ เราจะทำงานร่วมกัน เราจะผลักดันความเป็นไปได้นั้นให้เกิดขึ้นเป็นจริงได้ ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปที่ฉันทามติ ตอนรัฐธรรมนูญปี 40 เกิดขึ้น อยู่ภายใต้ประสบการณ์และความต้องการร่วมกันของสังคม 5 ชุด คือ

1.พอแล้วกับประชาธิปไตยครึ่งใหม่ สังคมไทยต้องการประชาธิปไตยเต็มใบ วุฒิสภา และ สภาผู้แทนราษฎรต้องมาจากการเลือกตั้ง

2.ต้องการการเมืองที่โปร่งใส ตรวจสอบได้

3.สังคมไทยต้องการให้กองทัพกลับเข้าสู่กรมกอง ต้องไม่มีรัฐประหารอีก และต้องมีการปฏิรูปกองทัพให้กองทัพอยู่ใต้รัฐบาลจากการเลือกตั้ง

4.สังคมไทยต้องการการเมืองที่มีประสิทธิภาพ การปฏิรูปการเมืองในยุคโลกกาภิวัฒน์ การเมืองที่พาประเทศไทยต่อกรกับคลื่นโลกาภิวัฒน์ได้ และ

5. ภาคประชาสังคมเติบโตได้ สังคมไทยต้องการการประกันสิทธิเสรีภาพ

"ฉันทามติ 5 ข้อนี้ ทำให้เกิดการสร้างกระแสรัฐธรรมนูญฉบับธงเขียว ซึ่งถ้าจะสรุปหลักใหญ่ใจความ 3 ข้อ คือ "ปิดทุจริต เปิดประสิทธิภาพ ประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน" เกิดเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 ที่รวมอำนาจและความชอบธรรมในการใช้อำนาจมาอยู่ที่รัฐบาลและรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง" นายธนาธร กล่าว 

ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งครั้งแรก เราได้เห็นการแข่งขันแย่งชิงเสียงประชาชนผ่านนโยบาย และหลังเลือกตั้งเราก็ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และสามารถส่งมอบนโยบายที่เคยใช้หาเสียงได้จริง แต่ทว่า ก็ถูกหลายฝ่ายมองว่าไม่สนใจเสียงข้างน้อย แทรกแซงองค์กรอิสระ ละเมิดสิทธิมนุษยชน และเป็นรัฐบาลมีผลประโยชน์ทับซ้อน จากการถูกมองอย่างนั้นก็นำมาสู่รัฐประหาร 2549 ที่เกิดการดึงอำนาจที่รวมอยู่รัฐบาลประชาชนไปสู่อำนาจไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และจากปี 2549-2562 รวมระยะเวลา 13 ปี เป็นทศวรรษแห่งความสูญเสีย เกิดบาดแผลร้าวลึก ยากเกินเยียวยา 13 ปีนี้ มีรัฐประหาร 2 ครั้ง มีรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ มีรัฐบาล 8 ชุด ประชาชนแบ่งฝักฝ่าย ขั้วทัศนคติขัดแย้งกระจายไปในทุกสังคม ทั้งในโรงเรียน ในที่ทำงาน ในตลาด ในครอบครัว และที่สำคัญมีคนตายมากกว่า 130 ชีวิต คนบาดเจ็บนับพันจากคนทุกสีเสื้อ รวมถึงที่ไม่ได้อยู่สีเสื้อไหน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายธนาธร พร้อมด้วย ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ กว่า 40 คน ร่วมเดินรณรงค์แจกโบรชัวร์ “อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน”โดย เริ่มต้นเดินจากบริเวณประตูท่าแพ ผ่านถนนคนเดิน และสิ้นสุดที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์