กอ.รมน.ฟ้อง "7พรรคฝ่ายค้าน-นักวิชาการ"ปลุกแก้รธน. ผิดม.116 ฐานยุยงปลุกปั่น
กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ฟ้องเอาผิด 7 พรรคฝ่ายค้าน - นักวิชาการ รวม 12 คน ขึ้นเวทีสัญจรภาคใต้ ปลุกแก้รธน. ผิดม.116 ฐานยุยงปลุกปั่นประชาชน
กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ฟ้องเอาผิด 7 พรรคฝ่ายค้าน - นักวิชาการ รวม 12 คน ขึ้นเวทีสัญจรภาคใต้ ปลุกแก้รธน. ผิดม.116 ฐานยุยงปลุกปั่นประชาชน
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. พล.ต. บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ได้รับมอบอำนาจจากแม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ให้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับบุคคลรวม 12 คน ประกอบด้วย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อายุ 78 ปี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย , นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อายุ 40 ปี หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ , พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตรอายุ 64 ปี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) , นางชลิตา บัณฑุวงศ์ อายุ 47 ปี อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษรศาสตร์ , นายสมพงษ์ สระกวี อายุ 69 ปี, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อายุ 75 ปี หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ , นายมุข สุไลมาน อายุ 70 ปี , นายนิคม บุญวิเศษ อายุ 49 ปี หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย , นายรักชาติ สุวรรณ อายุ 55 ปี , นายอสมา มังกรชัย อายุ 45 ปี , นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อายุ 75 ปี หัวหน้าพรรคประชาชาติและนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ อายุ 48 ปี
โดยทั้ง 12 คน จัดกิจกรรม 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจัดกิจกรรมฝ่ายค้านเพื่อประชาชน ได้สัญจรภาคใต้ และได้จัดเสวนา “พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ที่บริเวณลานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 62 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กองด้วยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่าการจัดเวทีสวนาดังกล่าวของผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 12 คน ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบนเวทีเสวนา มีประชาชนร่วมรับฟังประมาณ 150 คน ซึ่งการจัดเสวนาดังกล่าว ได้มีการถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์ Facebook พรรคประชาชาติ และมีการอัพโหลดการจัดเสวนาดังกล่าวลงในช่อง YouTube เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้กับประชาชนทั่วไปรับรู้รับทราบ รับชม รับฟัง ลักษณะการจัดเวทีเสวนาดังกล่าว
โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 12 คน ได้มีการพูดนำเสนอข้อมูลในลักษณะมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือ กระด้างกระเดื่องต่อประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบภายในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน