อย่าให้ไวรัสโคโรนามาสร้างความเกลียดชังให้พี่น้องไทยจีน
ผลกระทบท่องเที่ยวเชียงใหม่กระอักเป็นลูกระนาดจากไวรัสมรณะอู่ฮั่น ทัวร์จีนจะหายพรึบ วอนอย่ารังเกียจชาวจีนเหมารวม ต้องให้กำลังใจและภาวนาให้จีนคุมสถานการณ์ได้เร็วที่สุด
โดย...ภาณุเมศ ตันรักษา
วิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เวลานี้สร้างความวิตกกังวลอย่างมาก ไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ แต่รวมถึงด้านธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวโยงกับชาวจีนด้วยโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวทั้งหมด
นายมานพ แซ่เจีย นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. 2563 จนถึงวันที่ 7 ก.พ.2563 กรุ๊ปทัวร์จากทุกเมืองที่จะเดินทางมายัง จ.เชียงใหม่จะหายไป 100% อย่างชัดเจน สัดส่วนของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามายังจ.เชียงใหม่ 40% เป็นกรุ๊ปทัวร์ที่ใช้บริการของบริษัททัวร์จะหายไปทั้งหมด และ 60% เป็นกลุ่ม FIT (Free Independent Travellers) หรือกลุ่มที่เข้ามาท่องเที่ยวด้วยตนเองด้วย แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาก่อน วันที่ 27 ม.ค. 63 มีบางส่วนที่ทยอยเดินทาง และมีบางส่วนที่อยู่ในพื้นที่ต่อ แต่ก็ไม่มากนักกลุ่มนี้ก็มีความกังวลและได้รับผลกระทบเรื่องสภาพจิตใจและความกดดันอื่นด้วย เช่น ถูกมองว่า ไม่อยากให้อยู่ใกล้กลัวเอาเชื้อมาระบาด ซึ่งถูกมองจากคนจีนด้วยกันด้วย โดยเฉพาะชาวอู่ฮั่น ทราบว่าตอนนี้ถูกส่งตัวออกไปแล้วน่าเห็นใจสำหรับคนที่เขาไม่ป่วยหรือมาก่อนโรคระบาด
“ประชาชนคนไทยไม่ควรแสดง ความรังเกียจ นักท่องเที่ยวชาวจีนจนเกินเหตุครับ เพราะตลอด เวลา 30 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ประเทศจีนเปิดประเทศให้มีการออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 1991 ประเทศไทยเป็นเมืองที่คนจีนมีความใฝ่ฝันที่อยากเดินทางมาท่องเที่ยว มากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก คนจีนทั้งประเทศมีความรู้สึกว่า คนไทย เป็นประเทศบ้านพี่เมืองน้องของคนจีน เขาจะมีความรู้สึกว่า คนไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่เคยดูถูกและเหยียดหยาม คนจีน พวกเราคนไทยทั้งประเทศจึงควร ดูแลและรักษา น้ำใจ ที่มีให้กันและควรทะนุถนอม อย่าให้โรคไวรัสโคโรนามาสร้างความแตกแยกและเกลียดชังให้พี่น้องไทยจีน 2 ประเทศกันเลยครับ” นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่กล่าว
ทั้งนี้ เรื่องวิกฤตที่ทัวร์จีนหาย เป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในวิสัยที่เราจะควบคุมได้ ก็ได้แต่ภาวนาให้ทางการของจีนสามารถควบคุมปัญหาภายในประเทศให้ได้เร็วที่สุด วิกฤตครั้งนี้ คนที่อยู่ในวงการไม่นานอาจจะปรับตัวหรือรับสภาพไม่ได้ โดยหลังวันที่ 30 ม.ค.นี้เป็นต้นมารถบัสที่รับนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 250 คัน ต้องจอดสนิทไม่มีงาน ไกด์ก็จะเริ่มตกงานตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. 63 เป็นต้นไป
โรงแรมของจ.เชียงใหม่และเชียงราย ไม่ต่ำกว่า 30 โรงแรม จะเกิดผลกระทบทันที ร้านอาหารที่รับทัวร์จีน ร้านค้าขายของที่ระลึกสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมไป เช่น ปางช้างต่าง ๆ เชียงใหม่ไนท์ Safari แม่ค้าผลไม้ แม่ค้าถนนคนเดิน ทางเชียงใหม่-เชียงราย วัดต่างๆ ที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมถึงวัดร่องขุ่นของอาจารย์เฉลิมชัย นักท่องเที่ยวชาวจีนเฉลี่ยต่อวันจะหายไปทันทีไม่ต่ำกว่า 2 พันคน
ขณะนี้ บริษัททัวร์จีนในจ.เชียงใหม่ประมาณ 20 แห่งหลักๆ ตอนนี้ ได้มีการหารือกันตลอดเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งกำลังประสานกันของผู้ประกอบการทัวร์ในจีนจะคืนเงินให้กับลูกค้า และก็ต้องประสานกับทางโรงแรมในจ.เชียงใหม่ ในเรื่องของการยกเลิก และการคืนเงินให้ลูกค้าที่จองและเลิกไป
จากการหารือทางสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ พบว่า ได้รับผลกระทบเช่นกัน และมีการยกเลิกการจองโรงแรมแล้ว ทั้งในส่วนของโรงแรม 4 ดาว และโรงแรม 5 ดาว รวมทั้งจากการสอบถามไปทางบริษัทสแตนดาร์ดทัวร์ ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าใหญ่รายหนึ่งของ จ.เชียงใหม่ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับตลาดนำนักท่องเที่ยวจีน เข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งใช้โรงแรมในการรองรับประมาณ 50-60 โรงแรม พบว่า ขณะนี้ได้มีการยกเลิกทั้งหมด ไปจนถึงเดือน ก.พ.แล้ว
ซึ่งทุกส่วนต่างยอมรับว่า มีผลกระทบในวงกว้างกับภาคธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเป็นวิกฤตที่มัคคุเทศก์บางคนไม่เคยเจอมาก่อน กลุ่มรุ่นใหม่ๆที่เกิดขึ้นพร้อมกับกระแสนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามา ซึ่งในขณะนี้มัคคุเทศก์ภาษาจีนที่มีในภาคเหนือราว 2,000 คน ได้เกาะติดสถานการณ์ว่า ทางรัฐบาลจีนจะมีนโยบายอย่างไรวันต่อวัน หากว่า ปิดการท่องเที่ยวระยะยาว จะมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ที่หนัก ซึ่งก็เข้าใจว่า การดูแลความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญในขณะนี้ ต้องควบคุมการระบาดให้ได้จะได้ไม่กระทบนาน
สำหรับ การดูแลนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามากับกรุ๊ปทัวร์ ยังสามารถเฝ้าระวังได้อย่างใกล้ชิด แต่เป็นห่วงกรณีของกลุ่มนักท่องเที่ยว FIT ที่บางครั้งมีการเข้าไปเช่า คอนโดมิเนียม หอพักรายวัน หรือบ้านจัดสรรต่างๆ ในจ.เชียงใหม่ ซึ่งนอกเหนือจากการดูแลของกลุ่มมัคคุเทศก์ ซึ่งแม้ว่าทางจ.เชียงใหม่จะมีการคัดกรองอย่างเข้มข้นผ่านทางท่าอากาศเชียงใหม่ แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่
ด้าน นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และสถานการณ์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จากการตรวจสอบหากมีการยกเลิกการเดินทางผู้ประกอบการเองก็ยินดีที่จะคืนเงินให้ และยินดีที่จะเลื่อนการให้บริการจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น ดังนั้นจากวิกฤติที่เกิดขึ้นทางผู้ประกอบการก็ยินดีให้ความร่วมมือทุกด้าน แต่ถ้าหากในช่วงเดือนมี.ค. สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่คลี่คลาย ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวช่วงไตรมาส 2 ด้วย
Li Li Xin นักท่องเที่ยวสาววัย 28 ปีจากกวางโจว ที่ชอบมาเที่ยวจ.เชียงใหม่และมาเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ประทับใจหลายอย่าง แต่พอมีเรื่องของไวรัสโคโรนาทำให้เป็นที่วิตก ส่วนตัวก็กังวลเพราะติดตามข่าวมีกรระบาดและทางการจีนพยายามแก้ไขเต็มที่ตอนนี้ มันเป็นเรื่องสำคัญในยุคนี้เรื่องความไวของการสื่อสารข้อมูลหลากหลายมากจนไม่รู้อะไรถูกหรือไม่ถูก
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ เพื่อนที่อยู่เมืองอู่ฮั่น กลายเป็นคนที่ถูกมองในทางลบ และได้รับความกดดันรอบด้านมาก บางคนแทบไม่กล้าออกไปไหน เพราะมีสายตามอง แต่คนจ.เชียงใหม่ยังไม่มีภาพการต่อต้านหรือรังเกียจอยากให้เข้าใจ อย่าเหมารวมว่าคนอู่ฮั่นต้องเป็นผู้ติดเชื้อทุกคน ขนาดตนเองก็ยังมีคนถามว่า มาจากจุดที่ระบาดหรือไม่ มันรู้สึกไม่ดีเลย แต่หลายคนก็เข้าใจและให้กำลังใจตอนนี้ยังมีเวลาประมาณสัปดาห์ตามที่จัดเวลามาเที่ยว ก็ขอให้ทุกอย่างดีขึ้นจะได้ไม่เดือดร้อน
ด้าน Ms.ZHANG PEI อาจารย์สอนภาษาจีน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยดังทำงานอยู่ จ.เชียงใหม่มากว่า 2 ปี บอกว่า พอมีเรื่องหลายคนเป็นห่วงและสอบถามกันมาก ปกติไม่ได้เป็นคนที่อู่ฮั่น แต่เชื่อว่าความหวาดระแวงในยามวิกฤตเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่เราต้องให้ความเข้าใจ ให้ข้อมูลกัน เชื่อว่าเมื่อคนเราไม่ตื่นตระหนกและติดตามความจริงที่เกิดขึ้นก็ไม่น่าจะมีอะไร อาจจะมีบ้างที่ทำให้เราถูกมองเหมารวมไปด้วยว่า เป็นคนจีนเสี่ยงไหม เราไปห้ามคนอื่นคิดไม่ได้ ถามเพื่อนทางจีนเขาก็กังวลกันมากเช่นกันแต่เราก็ต้องไม่ตื่นตระหนกเกินไปด้วย
ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีน เช่น นายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนากุล ผู้บริหารบริษัทสแตนดาร์ดทัวร์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมนักธุรกิจไทยจีนเชียงใหม่ ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับทัวร์จีนเกือบ 100% ในจ.เชียงใหม่และภาคเหนือ ก็ยอมรับว่า วิกฤตครั้งนี้น่าห่วงมาก ทัวร์ต้องปรับมากและพยามทำตลาดอื่นมาช่วยเพราะแน่นอนหลังจากนี้นักท่องเที่ยวจากจีนหายไปแน่ๆกว่าครึ่งหรือมากกว่านั้น ทั้งมาตรการปิดเมืองของจีนเอง และการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาหากยังไม่สามารถควบคุมได้กระทบอย่างหนักโดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว อย่าลืมว่าเราพึ่งพิงนักท่องเที่ยวจากจีนเป็นสัดส่วนที่สูงมากในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา เราต้องเตรียมพร้อมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นครั้งใหญ่และอยู่กับมันให้ได้