รวบผู้กองเก๊จนมุมคาบ้านเหยื่อข้าราชการสาวรายล่าสุด
นครพนม-กองปราบบุกรวบผู้กองเก๊ลวงโลกคาบ้านข้าราชการสาวเหยื่อคนล่าสุดแฉพฤติกรรมแสบพึ่งพ้นคุกสร้างโปรไฟล์หลอกเป็นแฟนคบหายืมเงินกรรโชกทรัพย์สารพัด
เมื่อวันที่ 17 มกราคม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม สั่งการให้ พ.ต.ต.สิทธิพร มีอาสา สารวัตร กองกำกับการ 3 กองปราบปราม ร่วมกับ ร.ต.อ.ธานินทร์ เทพชารี ร.ต.อ.โกญจนารถ ชาวยามกา รองสารวัตร กองกำกับการ 3 กองปราบปราม ประสานงานร่วมกับ พ.ต.ท.อภิเชษฐ์ ทรัพย์ส่งเสริม รอง ผกก.สืบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และกำลังตำรวจกองปราบปรามนำหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ คือ นายสมบัติ ทนทาน อายุ 33 ปี ชาว ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังมีการสืบสวนแกะรอยพบว่า หนีมากบดาน ในพื้นที่ บ้านขามเปี้ยน้อย ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุขโมยชุดเครื่องแบบตำรวจ ของ ร.ต.อ.จตุพล กล้าหาญ หรือผู้กองก็อต ตำแหน่ง ผู้บังคับหมวดกองกำกับการ 4 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ภายในบ้านพักค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา จากนั้นได้นำมาสวมใส่สร้างโปรไฟล์ทางสื่อโซเชียล อ้างเป็นตำรวจยศร้อยตำรวจเอก เรียกตัวเองว่า ผู้กองเอ้ และมีพฤติกรรมไปทักตีสนิท กับเหยื่อในเชิงชู้สาว ทำให้สาวๆ ที่หลงรักชื่นชอบชายในเครื่องแบบตกเป็นเหยื่อหลายราย ทั้งสูญเสียเงิน ในลักษณะการยืมเงิน และตีสนิทเป็นแฟน รวมถึงเรียกรับเงินวิ่งเต้นช่วยคดีต่างๆ มีผู้เสียหายหลายรายตกเป็นเหยื่อ จนกระทั่งรู้ความจริงภายหลัง จึงเข้าแจ้งความตำรวจ และมีการสืบสวนรู้ภายหลัง เป็นตำรวจจอมปลอมบางรายสูญเสียเงินหลักแสน
กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จึงนำหมายศาลเข้ายืนยันจับกุมตัว นายสมบัติผู้ต้องหาตามหมายจับ หลังหนีมากบดานที่บ้านพักแฟนสาว ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งเป็นเหยื่อรายล่าสุด โดยผู้ต้องหาใช้วิธีการตีสนิททางสื่อโซเชียล และคบกันเป็นแฟน ได้ประมาณ 2 -3 เดือน ก่อนหนีมาพักอยู่ที่บ้านแฟนสาวที่ตกเป็นเหยื่อ ทางแฟนสาวยังไม่รู้ว่าเป็นตำรวจจอมปลอม จนกระทั่งตำรวจกองปราบปราม เข้าจับกุมความจึงแตก ถึงกับตกใจหน้าซีด และขณะจับกุมทางผู้ต้องหายังสวมเสื้อกีฬามีโลโก้บนหน้าอกตราสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้านหลังมีข้อความสืบสวนภาค 7 และตัดผมสั้นเกรียนคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นทางตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวน ลงบันทึกจับกุม ที่ สภ.เมืองนครพนม เบื้องต้นฐานความผิด ลักทรัพย์ในเคหสถานหรือรับของโจรเพื่อนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ สอบสวนดำเนินคดีในข้อหาความผิดอื่นๆ ต่อไป
ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง ทำไปด้วยความคึกคะนอง รวมถึงแฟนสาวคนล่าสุดที่ทำงานรับราชการ ได้ตีสนิทจากสื่อโซเชียล หลอกว่าเป็นตำรวจยศร้อยเอก และมาทำงานสืบสวนในพื้นที่อีสานจนเชื่อสนิท และคบกันเป็นแฟนมานานหลายเดือน นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบพบว่า มีประวัติเคยก่อคดีกรรโชกทรัพย์ ถูกตัดสินจำคุก ปีครึ่งพ้นโทษมาได้ 5-6 เดือน และกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับสาวๆ ที่หลงชื่นชมคนในเครื่องแบบ ระวังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพทางโซเชียล
ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ต่อสายโทรศัพท์ ไปยังผู้เสียหายสาวรายหนึ่ง ชาว จ.อุบลราชธานี ที่ตกเป็นเหยื่อ เล่าพฤติกรรมว่า เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาติดต่อกันทางสื่อโซเชียล ทำให้รู้จักกัน และมีการพูดคุยกันในเชิงชู้สาวเป็นแฟน และมีการช่วยเหลือ ในลักษณะขอยืมเงิน อ้างว่าจะเอาไปวิ่งเต้นตำแหน่งบ้าง ยืมไปใช้จ่ายชั่วคราวบ้าง รวมถึงจะวิ่งเต้นคดีเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัว ทำให้สูญเงินไปกว่า 40,000 – 50,000 บาท จนมารู้ทีหลัง เพราะถูกบ่ายเบี่ยงไม่คืนเงิน และตรวจสอบข้อมูลพบว่า หลักฐานจากชื่อในเครื่องแบบที่สวมใส่เป็นคนละคน จึงได้ประสานไปยังเจ้าตัวที่เป็นตำรวจจริง และเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ
นอกจากนี้ ทางผู้เสียหายคนสำคัญ คือ ร.ต.อ.จตุพล กล้าหาญ หรือ ผู้กองก็อต ผู้บังคับหมวดกองกำกับการ 4 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่เป็นเจ้าของเครื่องแบบ ยังได้ติดต่อโทรมาสอบถาม พูดคุยกับผู้ต้องหา หลังทราบข่าวมีการจับกุม และได้พูดคุยถึงผลกระทบที่ทำให้เกิดความเสียหาย ทั้งบุคคล และชื่อเสียงของหน่วย รวมถึงไปหลอกผู้เสียหายอีกหลายราย และขอให้กลับตัวกลับใจหากพ้นโทษมา ทั้งนี้ทางตนพร้อมจะให้อภัย ในส่วนตัว แต่ขอให้คิดใหม่ กลับใจเป็นคนดี แต่ในส่วนของกฎหมายบ้านเมือง ต้องรับโทษตามกฎหมาย เพราะมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่โดนหลอก