ตร.วิสามัญโจ๊กมือยิงน้องโตมี่

12 ธันวาคม 2553

ตำรวจวิสามัญ "โจ๊ก" มือยิงน้องโตมี่เร่งล่า "จิ๊บ" หลังหลบหนีไปได้ ค้นแมนชั่นห้องพักพบปืน ยาบ้าเงินสดอีกนับล้าน อัศวินระบุคนร้ายเคยก่อเหตุยิงรถชาวบ้านมาแล้ว 4 ครั้ง 

ตำรวจวิสามัญ "โจ๊ก" มือยิงน้องโตมี่เร่งล่า "จิ๊บ" หลังหลบหนีไปได้ ค้นแมนชั่นห้องพักพบปืน ยาบ้าเงินสดอีกนับล้าน อัศวินระบุคนร้ายเคยก่อเหตุยิงรถชาวบ้านมาแล้ว 4 ครั้ง 

ตำรวจอยุธยาวิสามัญฆาตรกรรมนายชาญชัย หรือ โจ๊ก ประสงค์ศิล อายุ 29 ปี ผู้ต้องสงสัยที่คาดว่า เป็นหนึ่งในคนร้ายลงที่มือยิงด.ช.โภคิน ดีผิว หรือ น้องโตมี่ อาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เหตุวิสามัญฆาตกรรม เกิดขึ้นที่บริเวณอาคาร สมายด์แมนชั่น 1 หมู่ 4 ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะตำรวจนำกำลังเข้าปิดล้อมผู้ต้องสงสัย2คน และเกิดการต่อสู้ขัดขวางการจับกุม อย่างไรก็ตาม นายนพพล หรือจิ๊บ ไผ่เขียว ประสงค์ศิล อายุ 23 ปี น้องชายของผู้ตาย หลบหนีการจับกุมไปได้ 

ต่อมาตำรวจเข้าตรวจค้นห้องบนชั้น7 ของอาคาร สมายด์แมนชั่น 1 ที่ห้องหมายเลข 4701, 4703 และ 4707 ซึ่งเป็นห้องที่คนร้ายทั้ง 2 ได้เช่าเอาไว้ เพื่อพักอาศัย ภายในห้องตำรวจ พบอาวุธปืนขนาดต่างๆ จำนวน19กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวนมาก เงินสดบรรจุกล่องกระดาษ และเงินสดในกระเป๋า จำนวนหลายล้านบาท พร้อมยาบ้า 17 มัด ยาไอซ์ 1 กล่อง นอกจากนี้ยังได้ตรวจค้นรถยนต์อีก 2 คัน พบอาวุธปืน และยาเสพติด

ด้านพล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า นายโจ๊ก หรือ นายชาญชัย เป็นคนลงมือยิงยิงน้องโตมี่ จึงได้ทำการดักซุ่มที่แมนชั่นระหว่างคนร้ายได้เดินลงมาจากห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม จึงเกิดการปะทะกัน ส่งผลให้นายโจ๊ก เสียชีวิตส่วนนายจิ๊บ หนีไปได้ และผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับในข้อหาพยายามฆ่าตำรวจ ในพื้นที่ปทุมธานีด้วย

การจับกุมครั้งนี้ตำรวจ ใช้กำลังกว่า 100 นาย นายโจ๊กได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าตำรวจเพื่อหลบหนี ตำรวจจึงยิงป้องกันตัว กระสุนไปถูกนายโจ๊ก เสียชีวิต พบอาวุธปืนขนาด 9 มม.กล็อค 1 กระบอก บรรจุ 26 นัด ปืนกล ขนาด.45 มม. 1 กระบอก  ปืนสั้น ออโตเมติก .45 มม. 1กระบอก  กระสุน 31 นัด  เงินสด57,600 บาท  

นอกจากนี้ จากการตรวจห้องพัก ยังพบอาวุธปืนขนาดต่างๆอีก 16 กระบอก คือปืนกล็อก 3 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆ  953 นัด ยาบ้า32,608 เม็ดยาไอซ์ จำนวน37.88 กรัม  ตู้เซฟ 1 ตู้ ทองรูปพรรณหนักกว่า 8 บาท   เงินสด 2,374,190 บาท ซุกซ่อนอยู่ในลังเบียร์และกระเป๋าเดินทาง มีบางส่วนเป็นธนบัตรปลอม รถยนต์ 3 คัน

เจ้าหน้าที่ยังได้ เข้าตรวจบ้านพักของนายโจ๊ก ที่บริเวณม.4 ต.คุ้งลาน อ.บางปะอิน พบรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ยี่ห้อต่างๆ 13 คัน  รถจักรยานยนต์แบบกึ่งวิบาก 4 คัน อาวุธปืนลูกซองยาว 4 กระบอก กระสุน 17 นัด  ตู้เซฟ1 ตู้ ยาบ้าจำนวนหนึ่ง เครื่องนับเงินสด 1  เครื่อง แผ่นป้ายทะเบียนรถชนิดต่าง ๆ 7  แผ่น  

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดตู้เซฟ พบเงินสดอีก 6,007,200 บาท รวมเป็นเงินสด 8,381,390 บาท  นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือจำนวน12  เครื่อง กล้องถ่ายรูป สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ  8 เล่ม  มีเงินหมุนเวียนกว่า 3 ล้านบาท เป็นของนายโจ๊กและนายจิ๊บ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดรถเอาไว้ตรวจสอบ สำหรับพี่น้องคู่นี้นับว่าเป็นพ่อค้ายาบ้าที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง

ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน  ขวัญเมือง  ที่ปรึกษา  สบ.10 และรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1   เปิดเผยว่า ตำรวจมีหลักฐานว่าทั้ง 2 คน  เป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงถล่มรถเก๋งยาริสสีขาว  จนทำให้น้องโตมี่  เสียชีวิต   โดยผู้ที่ลงมือยิงถล่มรถเก๋ง คือนายชาญชัย ประสงค์ศิลป์  หรือ โจ๊ก ไผ่เขียว ส่วนคนที่ขับรถคือนายนพพล ประสงค์ศิลป์ หรือ  จิ๊ป ไผ่เขียว

หลักฐานที่นำไปสู่กับวิสามัญในครั้งนี้  คือปลอกกระสุนปืนที่ นายนพพล ประสงค์ศิลป์ หรือ จิ๊ป ไผ่เขียว ยิงขึ้นฟ้าบริเวณหน้าโรงเรียนเสริมมิตร  ในเขตชุมชน ไผ่เขียว เมื่อวันลอยกระทงที่ผ่านมา  ซึ่งครั้งนั้นตำรวจได้เก็บปลอกกระสุนปืนไว้ เพราะมีพลเมืองดีแจ้งเข้ามา

กระทั่งมีการนำปลอกกระสุนปืนซึ่งตกในที่เกิดเหตุคดีคนร้ายยิงถล่มรถเก๋งยาริส สีขาว  คืนวันที่  4  ธันวาคม  ที่ผ่านมาแล้วนำมาเปรียบเทียบกับปลอกกระสุนปืนในคดีที่เกิดขึ้นของท้องที่สถานีตำรวจภูธรพระอินราชา และตำรวจภูธรบางปะอินจึงพบว่าเกลียวปลอกกระสุนปืนที่ยิงออกไปมาจากคดีเดียวกันจึงนำมาสู่การติดตามจับกุมในครั้งนี้

สำหรับสาเหตุของการยิงถล่มรถเก๋งในครั้งนี้   พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า เกิดจากความคึกคะนองของทั้ง 2 คน เนื่องจาก นายโจ๊ก
และนายจิ๊ป  2  พี่ - น้อง จะใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะขับกลับบ้านที่ประตูน้ำพระอินทร์ โดยใช้ถนนสายเอเชียเป็นประจำ   และจะเกิดอารมโมโหทุกครั้งที่มีประชาชน ขับรถปาดหน้า ไป - มา   จึงตัดสินใจยิงเข้าใส่รถคันดังกล่าว

ทั้งนี้พบว่า  ทั้ง 2  คนก่อเหตุยิงปืนเข้าใส่ชาวบ้านที่ขับรถจักรยานยนต์บนถนนโรจนะ  มาแล้ว 4 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม  พล.ต.อ.อัศวินฯ  กล่าว่า  การติดตามตัวนายจิ๊ปนั้นตำรวจยังคงติดตามต่อไป  และยังฝากไปถึงญาติของนายจิ๊ปด้วยว่า
หากพบเบาะแสของให้พาเข้ามอบตัว  เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตรายเนื่องจากมีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ  และหากถูกตำรวจจับกุมและต่อสู้ ก็จำเป็นที่จะต้องป้องกันชีวิตตำรวจไว้

สำหรับความคืบหน้าในการตามหาจิ๊บ ไผ่เขียว ตำรวจ 50 นายกกระจายกำลังลงหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบ้านญาติ แหล่งกบดาน เครื่อข่ายยาเสพติด แต่ยังไม่พบตัว

ตร.วิสามัญโจ๊กมือยิงน้องโตมี่ จักรยานยนต์ที่ตำรวจตรวจยึดได้จากบ้านนายโจ๊ก

 

ตร.วิสามัญโจ๊กมือยิงน้องโตมี่ อาวุธปืน เงินสด และยาเสพติด ที่ตำรวจยึดได้

 

ตร.วิสามัญโจ๊กมือยิงน้องโตมี่

 

ตร.วิสามัญโจ๊กมือยิงน้องโตมี่ โจ๊ก ประสงค์ศิล

 

Thailand Web Stat