"วัชระ"อัศจรรย์ใจยิ่ง"บิ๊กตู่"ตั้งธรรมนัสสอบ"บิ๊กป้อม"ปมอุตสาหกรรมจะนะ

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2564 นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การดำเนินการขยายผล โครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” โดยให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ เป็นประธาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช. แรงงาน เป็นรองประธาน มีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายร่วม เป็นกรรมการ ว่า รู้สึกอัศจรรย์ใจยิ่งที่นายกฯ กล้าลงนามแต่งตั้งร.อ.ธรรมมนัส มาเป็นประธานสอบ

ทั้งนี้คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการนี้ รวมทั้งศึกษาและทบทวนปัญหา เสนอแนะผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ เสนอแนะแนวทางในการกำหนดนโยบายและมาตรการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของประชาชนที่เกี่ยวข้อง และให้รายงานผลการดำเนินการปัญหาและอุปสรรค รวมถึงข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะโครงการนี้เริ่มต้นในสมัยรัฐบาล คสช.สืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน ผ่านการอนุมัติจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่สำคัญคือโครงการนี้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ตามพ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 มาถึง 3 รอบแล้ว

อำนาจหน้าที่ของกรรมการที่ นายกฯ ให้กรอบไว้ก็ผ่านการพิจารณา จาก กพต. มาทั้งหมดแล้ว หากจะมีการตรวจสอบทบทวนซ้ำก็เป็นเรื่องที่ดียิ่ง แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องแต่งตั้งรัฐมนตรีช่วยไปตรวจสอบรองนายกฯ

"ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย หรือว่านายกฯ ไม่ไว้วางใจการทำงานของ พล.อ.ประวิตร ผู้เป็นพี่ใหญ่แห่งพยัคฆ์บูรพาแล้วหรือ หากรู้ไปถึงไหน พล.อ.ประวิตรก็เสียหน้าถึงนั่น"นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าว อีกว่า ดังนั้น นายกฯ ควรต้องทบทวนคำสั่งแต่งตั้งนี้ใหม่ เพราะไม่เป็นคุณต่อความมั่นคงของรัฐบาล ในขณะที่กำลังจะเกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างแน่นอน และก่อนหน้านี้ก็ทราบกันโดยทั่วไปว่า ร.อ.ธรรมนัส เคยลงไปกิน นอนที่ จ.สงขลาช่วงก่อนเลือกตั้งนายก อบจ.มาแล้ว ส่วนนางนฤมล ซึ่งเป็นรองประธาน นอกจากเป็นเพื่อนอาจารย์น้องภริยาของท่านนายกฯ แล้ว ก็ไม่เห็นว่า จะมีองค์ความรู้ ที่จะไปแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ หากจะตั้งกรรมการในเรื่องนี้จริงๆ ก็ควรรีบเปลี่ยนตัวประธานและรองประธาน อย่าให้รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร ต้องน้อยใจปัญหาอื่นๆ ที่คาดไม่ถึงอาจติดตามมาได้