posttoday

ตร.ตรวจสอบความเสียหายเหตุชุมนุม10สิงหา จับ48ผู้ต้องหา ยึด122จยย.

11 สิงหาคม 2564

ตำรวจนครบาลตั้งข้อหาหนักกรณีการชุมนุม10สิงหา จับผู้ต้องหา 48 คน ยึดรถ จยย. 122 คัน พร้อมตรวจสอบความเสียหายเกาะพญาไท

กองบัญชาการตำรวจนครบาล บช.น. ได้สรุปผลการจับกุมผู้ต้องหากลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา รวม 48 คน เป็นชาย 45 คน หญิง 3 คน (ผู้ใหญ่ 33 คน เด็ก เยาวชน 15 คน) ดังนี้

กลุ่ม 1 จับกุมโดยตำรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.)

สถานที่จับกุม บริเวณ หน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ.พระรามที่1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม. จำนวน 6 คน (ชาย 4 คน หญิง 2 คน)

กลุ่ม 2 จับกุมโดยตำรวจ สน.ดินแดง

สถานที่จับกุม ปากซอยบุญชูศรี แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. จำนวน 7 คน (ชาย 7 คน) (ผู้ใหญ่ 4 คน,เยาวชน 3 คน)

กลุ่ม 3 จับกุมโดยตำรวจ สน.ดินแดง

สถานที่จับกุม หน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 ปากซอยศรีวนิช แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ,หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสามเหลี่ยมดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ,ปากซอยบุญอยู่ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม., ปากซอยตลาดศรีวณิช แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. จำนวน 25 คน (ชาย 24 คน หญิง 1 คน) (ผู้ใหญ่ 16 คน ,เยาวชน 9 คน )

กลุ่ม 4 จับกุมโดยตำรวจ สน.พญาไท หน้ากรมการสารวัตรทหาร ซ.โยธี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. จำนวน 4 คน (ชาย 4 คน) (ผู้ใหญ่ 2 คน เป็นต่างด้าวกัมพูชา 1 คน , เด็ก 1 คน) ในข้อหา/ฐานความผิด “ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่าห้าคน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด”

ในส่วนของผู้ชุมนุมรายอื่น ๆ ที่ได้กระทำความผิด ชุมนุมมั่วสุมโดยมีการใช้กำลังประทุษร้าย, เผาทรัพย์สินทางราชการ หรือ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ก็จะได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิจารณาดำเนินคดีในฐานความผิดที่ผู้ชุมนุมเหล่านั้นได้กระทำเป็นรายๆ ไป

กลุ่มที่ 5 เวลาประมาณ 20.35 น. สน.ตลิ่งชัน จับกุมชาย 5 ราย คือ นายนภัส อายุ 20 ปี นายสุวิทย์ อายุ 30 ปี นายมณฑล อายุ 19 ปี นายธีรภัทร อายุ 18 ปี นายธีรภัทร์ อายุ 19 ปี บริเวณหน้าบริษัท TP โลจิสติก แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ และบริเวณหน้าบริษัทตลิ่งชัน ฮอลด้า ออโตโมบิล จำกัด แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน

ได้พร้อมของกลาง วัตถุระเบิด (ระเบิดปิงปอง) หุ้มด้วยเทปสีดำ จำนวน 4 ลูก,กระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาล จำนวน 2 ใบ และอาวุธมีดพับ ในข้อหา/ฐานความผิด “มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย (เฉพาะผู้ต้องหาที่ 1-2) ,พกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะ หรือชุมชน เมือง โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุอันควร (เฉพาะผู้ต้องหาที่ 2) ,ร่วมกันกับพวกหลบหนีมั่วสุมรวมตัวเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคติดต่อฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน”

และเวลาประมาณ 22.30 น. สน.ดินแดง จับกุมเยาวชนชาย 1 ราย ในข้อหา/ฐานความผิด “ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลาห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ”

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 122 คัน จะได้ทำการตรวจสอบผู้ครอบครอง ทำการออกหมายเรียก หากพบว่ามาร่วมชุมนุมก็จะดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่าห้าคน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด”

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ต.อ.อรุณ สืบสิงห์ รองสารวัตรสอบสวน สน.พญาไท พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจเก็บหลักฐานที่สถานีตำรวจส่วนแยกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นสถานีตำรวจส่วนแยกของ สน.พญาไท และป้อมจราจร สน.พญาไท ที่ตั้งอยู่ติดกัน บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หัวมุมเกาะพญาไท หลังถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทุบกระจกและทรัพย์สินพังยับเยิน ก่อนเผาวอดเสียหายทั้งหมด จากเหตุการณ์?ปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบ สน.ส่วนแยกนั้น มีลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว กว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร ได้รับความเสียหายตัวอาคารถูกเผาและทรัพย์สินภายใน เช่น เครื่องใช้สำนักงาน กล้องวงจรปิด เสียหายทั้งหมด มูลค่าเสียหายประมาณ 6-7 แสนบาท ส่วนป้อมจราจร ที่ตั้งอยู่ติดกัน เป็นอาคาร 2 ชั้น กว้าง 4 เมตร ยาว 8 เมตรนั้น ถูกทุบทำลาย กระจกแตกทุกบานทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ทรัพย์ภายในเสียหายทั้งหมด มูลค่าความเสียหายประมาณ 2-3 แสนบาท ทั้ง 2 จุด ทั้งภายในและบริเวณโดยรอบ พบระเบิดปิงปองที่ขว้างมาแล้วไม่ระเบิด จำนวนหนึ่ง พร้อมเก็บอุปกรณ์บางส่วนที่คาดว่าใช้วางเพลิง เป็นหลักฐานเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

สำหรับสถานีตำรวจส่วนแยกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นสถานีตำรวจส่วนแยกของ สน.พญาไท จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นหน่วยบริการประชาชนนอกสถานที่ เป็นการกระจายการบริการสู่ประชาชนในพื้นที่ และลดความแออัดของสถานีตำรวจหลัก เข้าถึงที่เกิดได้อย่างรวดเร็ว และเนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าว มีประชากรหนาแน่น เป็นศูนย์กลางการคมนาคม มีความเจริญทางเศรษฐกิจและล่อแหลมการเกิดอาชญากรรม โดยเปิดทำงานเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน เป็นสถานีนำร่อง ของ บช.น. ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มาตรวจเยี่ยมเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเผาวอด