ประมงเถื่อน!บุกชิงเรือ-เครื่องมือประมงปากอ่าว
นครศรีธรรมราช- ประมงเถื่อนอ่าวปากพนังกร่างไม่เลิก ประกบเจ้าหน้าที่หมายปะทะแย่งชิงเรือ-ลอบไอ้โง่ ของกลางที่ถูกยึดแต่เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการทางกฏหมายจึงล่าถอยไป
ภาพเหตุการณ์ขณะที่กลุ่มเรือประมงที่ใช้เครื่องมือประมงผิดกฏหมายพยายามเข้ากดดันเจ้าหน้าที่เพื่อชิงเรือประมงของกลาง พร้อมอุปกรณ์ประมงผิดกฎหมาย “ลอบไอ้โง่” เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 มิ.ย.65 ที่ปากอ่าวปากพนัง ต.พนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยเรือกลุ่มเรือประมงที่ไล่ติดตามเจ้าหน้าที่มี 7 ลำ 1 ในนั้นมีเรือประมงเล็กความเร็วสูงมี 3 คน ใช้เสื้อผูกปิดอำพรางใบหน้า พยายามเข้ามาปะทะเจ้าหน้าที่และมีท่าทีประสงค์ร้าย พยายามตัดเชือกลากจูงแย่งชิงเรือของกลางและอุปกรณ์ประมงผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการทางกฎหมายตามลำดับ และใช้สิทธิในการป้องกันตัวขณะกำลังถูกคุกคาม ทำให้กลุ่มประมงเถื่อนชิงของกลางไม่สำเร็จก่อนที่จะล่าถอยไปในที่สุด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเรือและเครื่องประมงผิดกฏหมายของกลางเข้าไปเก็บรักษาและเข้าแจ้งความดำเนินคดี ส่วนพฤติการณ์ก่อเหตุของเรือประมงที่เข้ามาปะทะเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงและจะได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดี กับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 3 รายฐานขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปากพนัง ได้รับแจ้งว่ามีเรือประมงใช้เครื่องมือลอบพับได้หรือไอ้โง่ ทำการประมงอยู่บริเวณปากร่องน้ำปากพนัง นายศราวุธ วันระนานนท์ หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบมาประมงปากพนัง พร้อมนายสมพร ยีสมัน เจ้าพนักงานประมง พร้อมเจ้าหน้าที่ จึงนำเรือยางเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบเรือประมงทำการประมงด้วยเครื่องมือผิดกฏหมาย จึงเข้าทำการจับกุมแต่ผู้ต้องหา 1 รายได้กระโดดน้ำ วิ่งเข้าชายฝั่งที่เป็นโคลนเลนหลบหนีเข้าไปในป่าชายเลน เรือของเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามจับกุมได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเรือพร้อมเครื่องมือลอบพับ หรือไอ้โง่ ไว้เป็นของกลางนำกลับที่ตั้งหน่วย และระหว่างทางมีกลุ่มเรือคาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกับเรือที่โดนจับกุมรวม 7 ลำ เขามาพยายามปะทะเจ้าหน้าที่เพื่อจะชิงเรือของกลาง แต่เจ้าหน้าที่จึงประสานตำรวจน้ำปากพนังช่วยควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จึงพาเรือของกลางกลับมายังหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปากพนัง และตรวจสอบพบเครื่องลอบพับอยู่บนเรือลำดังกล่าวจำนวน 80 ชุด จึงทำบันทึกกล่าวโทษ ส่งพนักงานสอบสวน สภ. ปากพนังเพื่อสืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป.